ตอนที่7 อุบัติเหตุ
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันที
เรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ
“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”
“ค่ะ..”
“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”
ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง
“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”
เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย
“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”
ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิดกันช่วงเกือบเที่ยงไม่รู้เลยว่าจะพาหญิงสาวไปหาข้าวกินที่ไหน
“นั่นไงคะ”
เปมิกาชี้มือไปที่ร้านข้าวไข่เจียวที่มีคนรอต่อคิวสี่ห้าคนในตลาดนัดเธอคิดว่าข้าวกล่องนี่แหละที่ทำให้เธอคลายหิวได้เป็นอย่างดีไม่นานนักตอนนี้เปมิกากับชายหนุ่มก็ได้ข้าวไข่เจียวมาคนละกล่องพร้อมน้ำเปล่าอีกคนละขวด
“อร่อยที่สุดเลย”
ร่างบางที่ในมือถือกล่องข้าวมีความสุขอยู่กับการตักข้าวไข่เจียวคำโตเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆโดยไม่ทันได้สังเกตว่ากำลังมีคนมองเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆท่าทางที่ไม่ประดิษฐ์ประดอยของหญิงสาวทำให้เธอดูมีเสน่ห์ดึงดูดภูมิไทไม่น้อยเพราะส่วนมากเขาจะเคยเห็นแค่ผู้หญิงที่เป็นคุณหนูผู้ดีติดแบรนด์ต้องรักษาภาพลักษณ์ซึ่งเขาดูๆแล้วน่าอึดอัดพอสมควรไม่เหมือนการมองหญิงสาวยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กับเธอ
หลังจากที่ซื้อของกันครบแล้วทั้งสองอยู่ที่ฝั่งไม่นานนักก็กลับมาที่เกาะตอนนี้เปมิกาก็ไม่ต้องเดินใช้ผ้าขนหนูคลัมตัวแล้วเพราะเธอได้ชุดชั้นในมาจากตลาดนัดวันนี้เรียบร้อย
“เอามาจากไหนคะ”
เปมิกาออกมาจากห้องได้เธอก็เห็นชายหนุ่มถือกะละมังใบใหญ่ที่มีปูทะเลตัวใหญ่ๆสี่ห้าตัวกำลังจะเดินเข้าไปในครัวเท่าที่จำได้เธอไม่ได้ซื้อปูมาจากฝั่งมีแค่หมูและไก่กับผักเท่านั้นจึงแปลกใจว่าชายหนุ่มไปเอาปูมาจากไหน
“พี่ๆที่ออกเรือหาปลาคงเอามาใส่ไว้ให้ครับที่นี่เราได้อะไรมาก็จะมาแบ่งกันกินก่อนเสมอเหลือแล้วค่อยขาย”
“ดีจังเลยนะคะ..”
หญิงสาวพึ่งรู้ว่ามีการแบ่งปันกันแบบนี้ด้วยคิดว่าใครหาได้เท่าไรก็ขายเท่านั้นเสียอีก
“วันนี้คุณย่าจะได้กินทั้งหมึกย่างทั้งปูนึ่งแล้ว”
“ถ้าฉันอยู่ที่นี่นานน้ำนักฉันคงขึ้นเยอะแน่เลยค่ะ...เดี๋ยวฉันช่วยคุณทำอาหารนะคะ”
“ได้เลยครับ”
ทั้งสองช่วยกันทำอาหารกันไปคุยสัพเพเหระกันไปเสียงหัวเราะก็มีอยู่ไม่ขาดสายจนเปมิกาเริ่มที่จะไว้ใจชายหนุ่มมากขึ้นส่วนภูมิไทเองกล้าหัวเราะมากกว่าทุกครั้งที่เคยหัวเราะมาโดยที่ไม่รู้ตัวเอง
ตกเย็นเมื่อแดดเริ่มไม่ร้อนเท่าไรนักภูมิไทก็ชวนหญิงสาวมานั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ลานโขดหินกว้างที่ยื่นจากเกาะแหลมยาวเข้าไปในทะเลมากกว่าส่วนอื่นของเกาะตรงนี้เป็นจุดดูพระอาทิตย์ตกที่สวยมากเขาจึงอยากชวนหญิงสาวไปนั่งผ่อนคลายด้วยกัน
“สวยอย่างที่คุณบอกจริงๆด้วยถ้าฉันมีมือถือคงนั่งถ่ายรูปเป็นร้อยแล้วล่ะค่ะ”
เปมิกานั่งมองพระอาทิตย์ที่โขดหินคิดว่าหากเธอมีมือถืออยู่ในมือตอนนี้คงดีคงไม่พลาที่จะเก็บบรรยากาศที่ประทับใจนี้เอาไว้แน่
“ใช้มือถือของผมก็ได้ครับ”
“นี่มือถือคุณเหรอคะ”
ชายหนุ่มทำให้เปมิกามีอาการแปลกใจกับตัวเขาอีกครั้งจนได้เพราะมือถือของเขาที่ยื่นมาให้เธอราคาไม่ใช่เบาๆความสงสัยที่ว่าเขาเป็นชาวประมงจริงหรือไม่ยิ่งทวีมากขึ้นไปอีกขั้นเพราะส่วนมากชาวบ้านธรรมดาจะไม่ใช้มือถือแพงแบบนี้แม้จะมีเงินเยอะก็เถอะ
“ครับ...เอ่ออันที่จริงเป็นของคุณภูมิไทเจ้าของที่นี่เค้าให้ผมมาเค้าไม่ได้ใช้”
ภูมิไทรีบตอบปฏิเสธหญิงสาวเขาก็ลืมไปว่าตอนนี้ตนอยู่ในฐานะชาวประมงธรรมดาๆคนนึงเท่านั้น
“ท่าทางเค้าจะใจดีเหมือนกันนะคะ”
เปมิกาหมดความแครงใจที่แท้เขาก็ได้รับมรดกของใช้มาจากคนอื่นหากเขาตอบว่าเป็นของที่ตัวเองจ่ายเงินซื้อมาเธอคงต้องซักประวัติเขาใหม่เสียแล้ว
“งั้นเดี๋ยวฉันขอไปถ่ายรูปตรงโน้นนะคะ..”
“เดินดีๆนะครับ..ตรงนั้นค่อนข้างลื่น”
“ฉันจะระวังค่ะ”
หลังจากรับมือถือจากมือชายหนุ่มมาได้เปมิกาก็เดินถ่ายรูปเล่นง่วนพักใหญ่โดยมีชายหนุ่มนั่งเฝ้าอยู่ไม่ไกลนัก
“อ..อ๊ายย..”
ปึกก..
“คุณดาว”
ภูมิไทรีบวิ่งสุดชีวิตเมื่อเห็นร่างบางที่กำลังถ่ายรูปเล่นเพลินๆลื่นล้มหัวฟาดกับโขดหิน
“โอ้ยย...ฉันเจ็บ”
“ผมบอกแล้วไงครับว่ามันลื่น”
ภูมิไทเห็นหญิงสาวหางคิ้วแตกกับที่เท้าน่าจะถูกหินบาดตอนนี้เธอก็เริ่มมีน้ำตาเพราะความเจ็บแล้วด้วยจึงรีบอุ้มร่างบางกลับมาที่บ้านและรีบโทรตามหมอประจำของเกาะให้เอาอุปกรณ์ทำแผลและยามาที่นี่ด่วน
“กินยาให้ตรงเวลานะครับคุณดาว”
ธีรัตน์หมอหนุ่มวัยสามสิบห้าที่เป็นหมอประจำเกาะเข้ามาดูอาการหญิงสาวเขาเย็บแผลที่หางคิ้วของเปมิกาสามเข็มที่เท้าหญิงสาวอีกสองเข็มหลังจากนั้นก็จัดยาแก้ปวดแก้อักเสบให้เธอเอาไว้กินพร้อมย้ำกับหญิงสาวให้ตรงเวลาเพราะแผลอาจจะอักเสบหรือติดเชื้อได้
“ค่ะคุณหมอ”
สาวเจ้านั่งหน้าเศร้าที่ต้องมาเจ็บตัวแบบไม่ได้ตั้งใจคิดว่าหากหมดฤทธิ์ยาชาเธอคงต้องปวดระบมแผลน่าดู
“ฉันทำมือถือคุณพังขอโทษนะคะ”
หลังจากที่หมอหนุ่มกลับไปแล้วเปมิกาก็ยื่นมือถือที่หน้าจอแตกยับให้กับชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าเธอจะสร้างปัญหาให้เขาไม่น้อยเลยรู้สึกเกรงใจพอสมควรหากเธอทำงานสำเร็จคงไม่ลืมที่จะต้องตอบแทนเขาแน่
“ไม่เป็นไรครับเปลี่ยนหน้าจอก็น่าจะใช้ได้เหมือนเดิม”
“หลายบาทเลยนะคะฉันสร้างความเดือดร้อนให้คุณอีกแล้ว”
“ผมบอกว่าไม่เป็นไรไงครับการช่วยคุณผมไม่ถือว่าเดือดร้อนสักนิดถ้าคุณจะเข้าห้องน้ำหรือจะเดินไปไหนเรียกผมนะครับอย่าเดินเองเดี๋ยวแผลจะอักเสบ”
“ค่ะ”
