ตอนที่ 4 ช่วยเหลือแบบตกกระไดพลอยโจน(2)
ร่างเล็กถึงกับแหวใส่เขา ถ้าในนี้มียาพิษจริงป่านนี้เธอตายไปแล้ว
" ฉันไม่ได้หมายความว่าในชามนี้มียาพิษ แต่ฉันหมายความว่าคุณไม่รังเกียจหรือไงชามนี้ฉันกินไปแล้วนะมันเหลือแค่เศษซากปรักหักพังคุณยังกินอยู่อีก "
ร่างเล็กมองชามใบใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้ไม่เหลือน้ำสักหยด
" กูไม่รังเกียจ "
คาซาร์บอกออกไปแค่นั้นก็หยิบบะหมี่ที่เธอทำให้ขึ้นมากินต่อ แต่สำหรับวิฬาร์ทำไมเมื่อได้ฟังประโยคนั้นถึงทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนจีบแต่ก็นั่นแหละเธอยังไม่พร้อมที่จะมีใครตอนนี้เพราะยังอกหักมาหมาดๆ แผลที่มีในใจก็ยังสดมากๆ
" คุณกินไปเลยนะเดี๋ยวฉันไปล้างชามข้างนอก "
วิฬาร์เลือกที่จะเดินออกมาตั้งสติของตัวเองก่อน เธอหยิบชามของตัวเองพร้อมกับล้างอุปกรณ์ที่เธอทำบะหมี่ไปเมื่อสักครู่จนเสร็จเรียบร้อยหลังจากนั้นเธอก็ไปหายาแก้ปวดมาไว้ให้เขาทานและเมื่อเธอกลับมาหาเขาบะหมี่ชามนั้นก็หมดลงอีกครั้ง
" คราวนี้อิ่มหรือยังคุณ คุณจะมากินบะหมี่ฉันจนหมดบ้านแบบนี้ไม่ได้นะ "
ร่างเล็กพูดออกไปติดตลกแล้วก็ได้รับเพียงแค่รอยยิ้มมาจากคาซาร์เท่านั้น ซึ่งสำหรับคาซาร์เขาเผยรอยยิ้มแบบนี้ให้เห็นเพียงแค่ไม่กี่คนหรอก
" กูก็ไม่คิดว่าจะกินบะหมี่ทีเดียว 4 ซองขนาดนี้ กูอิ่มแล้วล่ะ อร่อยมาก "
คาซาร์พูดชมออกไปแทนคำขอบคุณซึ่งวิฬาร์ก็พยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มไปให้
" ฉันเอายาแก้ปวดมาให้คุณกินกันปวดแผลก่อน คืนนี้คุณคงจะเจ็บแผลมาก หรืออาจจะไข้ขึ้นเพราะแผลมันใหญ่เกินกว่าที่เราจะมานั่งทำแผลกันเอง "
คาซาร์รับยาแก้ปวดในมือของเธอมากิน 2 เม็ดพร้อมกับดื่มน้ำตาม
" โอเคงั้นฉันจะเอาชามไปเก็บแล้วก็ปิดไฟนอนแล้วนะ คุณก็พักผ่อนได้แล้ว "
วิฬาร์บอกออกไปหลังจากที่เธอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 03:00 น. แล้วพรุ่งนี้เธอก็ต้องเข้างานอีกตอนเที่ยงเพราะฉะนั้นเธอต้องนอนพักเอาแรง แต่ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นบันไดก็ต้องหันหลังกลับมาเมื่อได้ยินเสียงของเขา
" ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตกูไว้วันนี้ "
วิฬาร์ที่หันหลังกลับมาก็เผยรอยยิ้มแสนหวานที่ชวนกระชากใจหนุ่มๆให้กับคาซาร์ได้มอง
" ค่ะ แม้ว่าฉันจะรู้สึกกลัวมากๆก็ตาม แต่คุณก็คือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถ้าไม่ช่วยก็ดูจะใจร้ายเกินไป อย่าคิดว่าเป็นบุญคุณเลยค่ะ ฉันเต็มใจ "
ร่างเล็กบอกพร้อมกับเดินขึ้นไปนอนปล่อยให้คาซาร์นอนอยู่ข้างล่าง ซึ่งตัวเขาเองก็นอนคิดอะไรไปเรื่อยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะฉะนั้นเขาคิดว่าคนในจะต้องเป็นคนแพร่งพรายความลับว่าเขาไปไหนมาไหนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นพวกศัตรูมันไม่ไม่ทางมาทำร้ายเขาในตอนที่บอดี้การ์ดมือซ้ายและขวาของเขาไม่อยู่แน่ๆ
" ใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้ "
คาซาร์นอนคิดเรื่องของตัวเองอยู่พักใหญ่จนท้ายที่สุดตาของเขาก็หลับสนิทลงด้วยความอ่อนเพลียและอ่อนล้า จนถึงเวลาใกล้สว่างวิฬาร์เดินลงมาดูอาการของเขาอีกครั้งก็พบว่าเขาไข้ขึ้นจริงๆ
" ฉันว่าแล้วไงแผลใหญ่ขนาดนี้ต้องไข้ขึ้นแน่ๆ "
วิฬาร์ยกมือเล็กขึ้นจับหน้าผากของเขาก็รู้ได้ทันทีว่าตัวของเขาร้อนเอามากๆเธอจึงไปหยิบผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตามกรอบหน้าแล้วก็แขนทั้งสองข้างของเขาเพื่อลดไข้ แต่ไม่ว่าจะเช็ดมากเท่าไหร่ไข้ก็ยังไม่ลดสักทีเพราะจริงๆแล้วเธอต้องเช็ดตามตัวให้เขาด้วยเพื่อลดอุณหภูมิแต่ตอนนี้เธอไม่กล้าทำน่ะสิ
" เช็ดตัวสิไข้จะได้ลด "
คาซาร์ที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากของเขาแล้วแต่ที่ยังไม่ยอมลืมตาและไม่พูดอะไรเพราะรอดูว่าเธอจะทำอะไรกับเขาต่างหาก มาเฟียแบบเขาแค่ได้ยินฝีเท้าคนเดินเข้ามาระยะไกลเขายังรู้สึกตัวแล้วเลย
" คุณตื่นนานแล้วหรอ ฉันไม่ได้ตั้งใจมาคุกคามคุณนะ ฉันแค่มาดูว่าคุณมีไข้หรือเปล่า พอเห็นว่าคุณไข้ขึ้นฉันก็เลยเช็ดตัวให้ "
ร่างเล็กปฏิเสธไปพัลวันเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าเธอมาอ่อยเขา
" ยังไม่ได้พูดอะไรเลย แค่บอกว่าเช็ดตัวด้วยไม่อย่างนั้นไข้มันจะไม่ลด "
คาซาร์ที่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับร่างกายแต่ยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เช็ดตัวให้ เขาก็รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกัน แค่รู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำให้มันรู้สึกดีแปลกๆ
" ถ้าอย่างนั้นมันจะเย็นๆหน่อยนะคุณ "
วิฬาร์บอกกับเขาพร้อมกับเช็ดไปตามลำตัวของเขาเพราะตอนนี้เขานอนถอดเสื้ออยู่ หัวใจของวิฬาร์เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆในแบบที่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ แก้มเนียนใสของเธอก็แดงปลั่งเป็นลูกตำลึงไปแล้ว ใครบ้างจะหัวใจไม่เต้นแรงเมื่อเจอกับซิกแพคแน่นๆแถมขาวมากๆด้วย อีกทั้งใบหน้าหล่อเหลาของเขาตอนนี้ก็ยังจ้องเธอไม่วางตา ตามลำตัวของเขามีแต่รอยสักพร้อมกับแผ่นหลังของเขาที่ตอนนี้เขาลุกขึ้นนั่งให้เธอได้เช็ดตัว เธอเห็นรอยสักรูปสิงโตขนาดใหญ่อยู่บนแผ่นหลังของเขานั่นทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเช็ดตัวให้เขาจนเสร็จเรียบร้อยดี
" รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคุณ จริงๆแล้วฉันคิดว่าคุณควรจะไปหาหมอนะ ฉันกลัวว่าแผลของคุณมันจะติดเชื้อเพราะว่ามันควรที่จะต้องเย็บ "
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หมอแต่เธอก็พอรู้ว่าแผลมันลึกเกินกว่าที่จะมาทำแผลเฉยๆได้
" เดี๋ยวค่อยไป ไปตอนนี้ไม่ได้อันตราย กูดีขึ้นมากแล้วมึงขึ้นไปนอนเถอะ "
คาซาร์รีบบอกให้เธออยู่ห่างๆจากตัวเขาเพราะตอนนี้กลิ่นหอมๆของร่างกายเธอมันเตะจมูกเขาแล้วก็ชวนให้เขาคิดไปไกล แล้วเขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้นกับเธอเขาจึงรีบไล่ให้เธอไปไกลๆ
" ชิ คนอุตส่าห์ช่วย สบายตัวแล้วก็ไล่เลยนะ ได้สิ งั้นคุณก็นอนซมพิษไข้ไปเลย "
วิฬาร์ที่ส่งค้อนวงใหญ่ไปให้เขา เธอหรืออุตส่าห์เป็นห่วงเขาแต่พอเช็ดตัวจนไข้เริ่มลดแล้วกลับไล่เธอเสียนี่ เธอนี่มันทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาปชัดๆ
" งั้นจะนอนกับกูตรงนี้เลยไหมล่ะ อยากวัดไข้ตอนไหนก็วัด "
คาซาร์พูดประชดออกไปเขาแค่อยากให้เธอไปนอน ผู้หญิงคนนี้ดื้อจริงๆ พูดอะไรออกไปก็ไม่เคยถูกใจ นี่สินะที่เขาเรียกว่าผู้หญิงที่แท้จริงน่ะ
" ชิ ใครเขาจะนอนกับคุณกัน ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว "
ร่างเล็กเดินหนีขึ้นไปข้างบนอีกครั้งพร้อมกับที่คาซาร์นอนพักผ่อนเพราะเจ็บแผล ตอนเช้าวันใหม่เข้ามาถึงวิฬาร์ที่อาบน้ำจะเสร็จเรียบร้อยเดินลงมาข้างล่างเพื่อหวังจะดูอาการของเขาอีกครั้ง แต่เมื่อลงมาก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย เธอเห็นเพียงแค่กระดาษโน๊ตแผ่นเดียวที่แปะเอาไว้ที่โซฟา
