ตอนที่ 2 เรื่องบ้าอะไร(2)
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
เสียงเจ้าฮีโร่ซึ่งเป็นสุนัขที่วิฬาร์เลี้ยงเอาไว้ นอกจากมันจะเฝ้าบ้านเก่งแล้วเห็นไหมว่าเวลามีคนแปลกหน้ามันก็จะส่งเสียงให้เธอได้ยินอยู่ตลอดอย่างเช่นตอนนี้ที่เธอพาคนแปลกหน้าอย่างเขาเดินมาถึงหน้าบ้าน แม้จะมากับเธอแต่ฮีโร่ก็รู้หน้าที่เห่าให้ได้ยินอยู่ดี
" ฮีโร่ไม่เอาลูกไม่เห่านะคะ แม่เองจำได้ไหม "
วิฬาร์บอกกับสุนัขตัวโปรดของเธอ เธอเลือกที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เพราะถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นหมาที่ดุร้ายแต่เอาเข้าจริงๆเจ้าฮีโร่มีนิสัยที่น่ารักเป็นมิตรแถมยังอ่อนโยนมากๆอีกด้วยกับคนที่มันสนิทแล้ว
" นี่เธอเลี้ยงหมาตัวใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ "
คาซาร์ถามคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเขาเพราะไม่คิดว่าผู้หญิงจะเลี้ยงสัตว์ดุร้ายตัวใหญ่ขนาดนี้ได้
" อืม จริงๆทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงหรอก บังเอิญเห็นมันบาดเจ็บอยู่ก็เลยสงสารเอามารักษาแต่สุดท้ายเราก็เป็นเพื่อนกัน แล้วตอนนี้เราก็อยู่กันมาน่าจะเกือบ 5 ปีแล้วมั้ง เจ้าฮีโร่เริ่มมีอายุแล้วล่ะคุณ "
วิฬาร์บอกในขณะที่เธอเปิดประตูหน้าบ้านพร้อมกับพาเขาเข้ามา แต่เจ้าฮีโร่ก็ได้กลิ่นเลือดจากตัวของเขาจึงจะวิ่งเข้ามาหาแต่วิฬาร์ก็ได้ห้ามเอาไว้เสียก่อน เพราะคาซาร์กำลังเล็งปืนไปที่เจ้าฮีโร่แต่ทว่าเขาไม่ได้คิดที่จะยิงออกไปจริงๆแค่เพียงจะขู่เท่านั้น
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
" คุณหยุดนะ! นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไงคุณจะฆ่าหมาฉันหรอ ฉันเพิ่งพูดไปหยกๆว่านี่คือเพื่อนฉัน ไอ้คนใจดำ! "
ร่างเล็กก่นด่าเขาโดยไม่เกรงใจเลยสักนิดเพราะเขากำลังจะทำร้ายเพื่อนของเธอ เธอดูแลเจ้าฮีโร่มาตั้งหลายปียังไม่เคยทำร้ายมันเลยสักครั้งแล้วดูเขาทำสิ
" มันกำลังจะเข้ามาทำร้ายกู กูแค่ป้องกันตัว "
คาซาร์บอกออกไปแต่ลักษณะการพูดจาของเขาทำให้วิฬาร์ถึงกับส่ายหน้า เธอไม่ได้เชื่อเลยสักนิดว่าเขาจะทำแค่ขู่
" ฮีโร่ไม่ต้องเห่าแล้วนะ ไปนอนได้แล้วดึกมากแล้ว "
เพราะกลัวว่าจะมีคนตามมาที่บ้านของเธอเพราะตอนนี้มันคือยามวิกาลบวกกับที่สุนัขของเธอมันเห่าไม่หยุด เธอจึงรีบบอกให้สุนัขของเธอออกไปจากตรงนี้ แล้วเจ้าฮีโร่ก็เหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เธอสื่อสารมันจึงเดินออกไปเงียบๆพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ที่ดูจะสงบลงแล้ว
" นี่มึงคุยกับหมารู้เรื่องด้วยหรอ "
คาซาร์ถามออกไปอย่างสงสัย วิฬาร์คิดในใจกับตัวเองเงียบๆว่าเธอเองแค่คุยกับหมารู้เรื่องแต่เขานี่สิปากหมาชะมัด และเธอก็ไม่กล้าพูดออกไปได้แต่คิดในใจเพราะกลัวอารมณ์คนแบบเขา
" ช่างฉันเถอะค่ะ คุณเข้ามาข้างในได้แล้วเดี๋ยวฉันทำแผลให้ไม่อย่างนั้นคุณน่าจะเสียเลือดตายก่อน "
ร่างเล็กพูดออกไปพร้อมกับพาเขาเข้ามานั่งในบ้านที่โซฟาหน้าทีวี เสร็จแล้วก็รีบไปหากล่องปฐมพยาบาลซึ่งมันก็มีแค่ยาแดงยาเหลืองกับแอลกอฮอล์เท่านั้น สำลีและผ้าก็อตก็มีเพียงแค่นิดหน่อยไม่รู้ว่าจะพอสำหรับปิดแผลของเขาหรือเปล่า เมื่อเธอเอกล่องยามาพร้อมกับเปิดมันออกทำเอาคาซาร์ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
" นี่มึงไม่คิดจะเติมกล่องปฐมพยาบาลหน่อยเลยหรอ กูนึกว่าเศษขยะ "
คาซาร์มองกล่องปฐมพยาบาลที่มันมีแค่เศษยาอยู่ในนั้น
" นี่คุณ อย่างน้อยๆเศษขยะพวกนี้ที่คุณว่ามันก็สามารถช่วยชีวิตคุณได้ในคืนนี้นะ ยังเหลือเยอะอยู่เลยคนแบบคุณน่ะใช้ของไม่เคยคุ้มค่าล่ะสิ "
คาซาร์ที่ไม่คิดว่าของในกล่องนี้จะสามารถทำแผลของเขาได้ แต่วิฬาร์ไม่ได้คิดแบบนั้นเธอเป็นคนใช้ของทุกอย่างอย่างรู้คุณค่ามาตลอดและเธอก็คิดว่ายาในกล่องนี้ถ้าทำแผลให้เขาแล้วมันน่าจะเสร็จพอดี
" เปิดแผลออกสิคุณ "
ร่างเล็กที่ไม่เคยสัมผัสตัวผู้ชายคนไหนมาก่อน เต็มที่เธอก็แค่จับมือถือแขนกับแฟนเก่าเท่านั้น เธอบอกให้เขาเลิกเสื้อขึ้นในขณะที่คาซาร์ถอดมันออกทั้งชิ้น เพราะเสื้อที่เขาใส่อยู่มันคือเสื้อสเวตเตอร์แขนยาวแค่ชิ้นเดียวและเขาก็ขี้เกียจจับชายเสื้อเอาไว้ตลอดเวลา
" ว๊าย!! ไอ้โรคจิต ใครบอกให้ถอดเสื้อออกกันห๊ะ บอกให้เลิกเสื้อขึ้นจะได้ทำแผลให้ไม่ได้บอกให้ถอดเสื้อซักหน่อย "
วิฬาร์ถึงกับต้องปิดตาแล้วก็หันหน้าหนีไปอีกทางเพราะเธอยังไม่เคยเห็นใครมาถอดเสื้อต่อหน้าเธอเลยสักครั้ง ตอนนี้เธออายจนแก้มแดงหูแดงไปหมดแล้ว
" หึ! เป็นอะไร อย่าบอกนะว่าไม่เคยเห็นผู้ชายถอดเสื้อ "
คาซาร์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ ที่ทำให้เธอหน้าแดงได้ ไหนผู้หญิงที่ด่าเขาฉอดๆ ตอนนี้ทำไมมาปิดหน้าด้วยความเขินอายเสียได้
" เคยสิ ทำไมจะไม่เคย แต่ฉันแค่ไม่ชิน คุณใส่เสื้อเดี๋ยวนี้เลยนะถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ทำแผลให้ "
ร่างเล็กยื่นคำขาดออกไป ถ้าเขาอยู่ในสภาพนี้เธอไม่มีสมาธิทำแผลให้เขาหรอกนะ ขนาดเธอปิดตาเอาไว้หัวใจของเธอมันยังเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นเลย
" ถ้าเคยเห็นก็ไม่ต้องคิดมาก เสื้อมันเป็นเสื้อแขนยาวชิ้นเดียวแบบสวมมันไม่มีกระดุม แล้วถ้าจะให้จับเสื้อไว้ตลอดเวลากูเจ็บแผล หันหน้ามาดีๆแล้วก็ทำแผลให้กูได้แล้ว "
คาซาร์บอกพร้อมกับยกปืนขึ้นมาจี้ที่เอวเธออีกครั้งจนทำให้วิฬาร์สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ จึงเอามือที่ปิดตาเอาไว้ออกพร้อมกับค่อยๆลืมตาแต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่นั่นก็คือซิกแพคแน่นๆของเขา เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่หุ่นเพอร์เฟคขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งลายสักบนตัวเขาที่มีมากมายมันดูน่าเกรงขามไปหมด ข้างหน้าเขายังสักขนาดนี้แล้วแผ่นหลังของเขามันจะมีลายสักขนาดไหนกันนะ วิฬาร์สะบัดความคิดของตัวเองออกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วตั้งใจทำแผลให้เขา
" คุณวางปืนก่อนได้ไหม ฉันกลัวจนมือสั่นไปหมดแล้วเนี่ยเห็นหรือเปล่า ไม่ต้องขู่ขนาดนี้ก็ได้ฉันไม่ใช่คนใจร้ายทำแผลให้อยู่แล้วล่ะ "
ร่างเล็กที่บอกกับเขาเพราะตอนนี้เธอกำลังล้างแผลของเขาด้วยเอากอฮอล์แต่เขาไม่แม้แต่จะร้องออกมาสักแอะทั้งๆที่มันน่าจะแสบมาก บวกกับที่เธอกลัวเขาจะทำปืนลั่นจึงบอกออกไปและคาซาร์จึงวางปืนลงแต่ก็เป็นข้างๆลำตัวของตัวเองเพราะเขาไม่ไว้ใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่สิ คนอย่างเขาไม่เคยไว้ใจใครนอกจากคนในครอบครัวต่างหาก
" มึงอยู่กับใคร ทำไมบ้านเงียบขนาดนี้ "
คาซาร์มองไปรอบๆตัวบ้านที่ดูแล้วมันเงียบสนิทอย่างกับไม่มีคนอยู่ ส่วนวิฬาร์เมื่อได้ฟังแบบนั้นเธอก็เลือกจะบอกไปตามความจริงเพราะคงปิดบังไม่มิดอยู่ดี
" ฉันอยู่คนเดียว " พอได้ฟังคำตอบคาซาร์กลับรู้สึกว่าเธอกล้ามากๆที่พาเขาเข้าบ้านโดยที่ไม่มีใครปกป้องเธอเลยนอกจากเจ้าฮีโร่นอกบ้านนั่น
" ชื่ออะไร "
