บทที่ 1 ยัยตัวยุ่ง
"แด๊ดดี้ขา ช่วยสระผมให้หนูหน่อยสิคะ"
เสียงหวานใสเล็กน่ารักของแม่หนูน้อยจอมแสบดวงตากลมโตผิวขาวอมชมพูยิ้มอย่างออดอ้อน ยักคิ้วน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ จนร่างสูงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่เขาได้พาแม่ตัวยุ่งจอมแสบแสนน่ารักกลับมาจากโรงพยาบาลเอกชนด้วย เรียกว่าตัวติดกับเขาแทบตลอดเวลา จนชายหนุ่มแทบกระดิกตัวเองไปไหนไม่ได้ แม้แต่จะไปหาสาว ๆ เพื่อคลายเคลียดตามประสาชายหนุ่มทั่วไป กับถูกแม่ตัวยุ่งขัดขวางเป็นทุกครั้ง
"ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ว่าฉันไม่ใช่แด๊ดดี้ของเธอแม่หนูน้อย"
"ทำไมจะไม่ใช่ล่ะคะ ถ้าแด๊ดดี้ไม่ใช่แด๊ดดี้ของลูซี่ งั้นลูซี่คงจะเกิดจากกระบอกไม้ไผ่แน่นอนเลยค่ะ เอ๋ ว่าแต่ลูซี่มีแด๊ดดี้แล้ว ทำไมลูซี่ถึงไม่มีหม่ามี้ล่ะคะ แด๊ดดี้คะ หม่ามี้ของหนูเป็นใครเหรอคะ"
หนูน้อยเงยหน้าดวงตาใสแจ๋วไร้เดียงสาถามบิดาอย่างสงสัย ชายหนุ่มถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะไม่รู้จะตอบคำถามของหนูน้อยที่มีความจำเสื่อม เพราะได้รับความกระทบกระเทือนจากแก๊งลักพาเด็ก ที่พึ่งถูกทางการไปบุกจับถล่มยกแก๊ง และช่วยเหลือเด็ก ๆ รอดกลับมาได้หลายสิบคน
เด็กน้อยคนนี้ก็เช่นกัน เพียงแต่เธอโชคร้ายหน่อย ที่ประสบอุบัติเหตุหัวฟาดพื้นในระหว่างที่ทุกคนกำลังชุลมุนวิ่งหนีตาย เพราะเมื่อเธอตื่นขึ้นเธอก็อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนั้นแล้ว พร้อมความทรงจำทั้งหมดที่หายไป ยกเว้นเรื่องบิดาที่เธอจำได้อย่างชัดเจน รวมถึงชื่อของตัวเธอเองเพียงอย่างเดียวที่เธอจำได้
"ฉันจะไปรู้เหรอ ฉันไม่เคยมีอะไรกับแม่ของเธอ จะให้ฉันตอบเป็นครั้งที่ร้อยที่พัน ฉันก็ยังคงยืนยันว่าฉันไม่ใช่แด๊ดดี้ของเธอและไม่รู้จักแม่ของเธอ ฉันว่านะหนูน้อยเธอรีบพักผ่อนให้มาก ๆ เผื่อความทรงจำของเธอจะกลับมา จนเธออาจจำครอบครัวของเธอได้ จำได้เมื่อไหร่อย่าลืมบอกฉัน ฉันจะได้พาเธอไปหาครอบครัวของเธอไง ฉันไม่น่าพาเธอกลับมาด้วยเลย น่ารำคาญชะมัด" ชายหนุ่มกล่าวบ่นเสียงดังอย่างหงุดหงิด แทบไม่เป็นอันทำงาน
"ฮือ ฮือ ฮือ"
ดวงหน้าสวยหวานจมูกโด่งดวงตากลมโตเปียกชื้นจนชุ่มแพขนตาที่ยาวงามงอนราวกับขนตาปลอม หนูน้อยน้ำตาหลั่งไหลร้องไห้สะอึกสะอื้น
เมื่อถูกร่างสูงกล่าวตะคอกเสียงดุ จนเธอสะดุ้งผวาตกใจกลัวจากผู้ที่เป็นบิดา
"แด๊ดดี้ไม่รักหนูแล้ว ฮือ ฮือ ฮึก แด๊ดดี้ไม่อยากเลี้ยงไม่อยากดูแลหนูใช่ไหมคะ"
"โอ๊ย ฉันอยากจะบ้าตาย ใครอยู่ข้างนอกบ้าง เข้ามาดูแลเด็กนี่แทนฉันที ปวดหัวชะมัด"
ร่างสูงเดินตรงไปที่ประตูเปิดออกว้างตะโกนเรียกสาวใช้และการ์ดอย่างโมโห เพราะเขาไม่ชอบเด็กมาแต่ไหนแต่ไร สำหรับแม่หนูน้อยคนนี้แล้ว เขาก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงยอมพาเธอกลับมาที่นี่ด้วย
ทั้งที่เขาจะไม่ยอมพากลับมาด้วยก็ได้ เพียงแค่สั่งให้นางพยาบาลและหมอของโรงพยาบาลจับตัวเด็กเอาไว้ เพียงแค่นั้นก็คงพอแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเพียงครั้งแรกที่ได้ยินคำเรียกว่าแด๊ดดี้จากปากเล็ก ๆ กลีบสีชมพูจิ้มลิ้ม
หัวใจดวงแกร่งกลับรู้สึกกระตุกวูบเต้นแรง ร่างกายเย็นเฉียบ และคิดในใจของตนเองว่าเขาไปนอนกับผู้หญิงคนไหนจนถุงยางแตกแล้วท้องหรือเปล่า ถึงได้มีเด็กมาเรียกเขาว่าเป็นพ่อแบบนี้
หนึ่งอาทิตย์ก่อน
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง กลางเมืองวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ห้องผู้ป่วยคนไข้ที่เป็นจุดมุ่งหมายการมาเยือนของ เอเดน มินเนสัน ผู้เป็นมาเฟียใหญ่ในฉากเบื้องหลังที่ทุกคนรู้กัน ในขณะที่ฉากเบื้องหน้าผู้คนทั่วไปเห็นเขาในมาดนักธุรกิจผู้เก่งกาจไฟแรงเสน่ห์ล้นหลามมาดดิบเถื่อนเท่ห์หล่อเหลายิ่งกว่านายแบบระดับโลก
ร่างสูงอยู่ในชุดสูทเสื้อผ้าแบรนด์เนมอย่างหรูราวกับกำลังมาติดต่อธุรกิจในโรงพยาบาลเอกชน เหล่านางพยาบาลและคนไข้สาว ๆ ทุกคนต่างมองอย่างเหลียวหลัง ทั้งที่ชายหนุ่มสวมแว่นตาดำปิดคลุมกำบังดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวทะเลทรายเอาไว้
ด้านหลังของชายหนุ่มมีการ์ดร่างสูงใกล้เคียงกันเดินตามอย่างกระชั้นชิด
"พวกนายเลิกตามฉันได้แล้ว ทุกคนแยกย้าย กันดีกว่า จะได้ไม่เป็นจุดสนใจ หากใครเจอไอ้ชาลีก็จัดการหาวิธีปิดปากมันซะให้เรียบร้อย แล้วอย่าให้ใครสาวมาถึงตัวพวกเราได้ ความแค้นในครั้งนี้จะต้องจบในวันนี้ให้ได้ อย่าปล่อยให้มันรอดออกไป แล้วกลับมาแว้งกัดทีหลังได้อีก"
เสียงทรงอำนาจกล่าวสั่งลูกน้อง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้าย ร่างสูงเดินแยกแอบฝูงชนที่มารอตรวจเดินสวนทางกันไปมาระหว่างทางเดินขึ้นบันได ก่อนที่เขาจะแอบไปทางหนีไฟที่ไร้ซึ่งกล้องวงจรปิด มุ่งตรงไปที่ชั้น 35 ด้วยพละกำลังขาที่แข็งแรงอยู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ต่อให้เดินขึ้นบันไดนับสิบชั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าพ่อมาเฟียอย่างเอเดนหนุ่มลูกครึ่งอิตาลี-ตะวันออกกลาง-อเมริกา หนุ่มผู้ดูเหมือนเทพเจ้าสุดหล่อรูปร่างแข็งแกร่งอวตารลงมาเกิด
หน้าห้องผู้ป่วย 349 บอดี้การ์ดร่างยักษ์ผิวคล้ำหุ่นกำยำสองนายยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูพร้อมอาวุธที่เหน็บอยู่ที่เอวอย่างเพียบพร้อม
