บทที่ 6 เจอกันอีกครั้ง
@หลายชั่วโมงต่อมา
"แกอยู่ไหนแล้วเนี่ยยัยฝัน ฉันขับรถออกมาจากบ้านของฉันแล้วนะ"
(ฉะ..ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตายเลยแก ฉันท้องเสียตั้งแต่ตอนบ่าย แต่ฉันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ...แต่ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในห้องน้ำ)
"แกอย่ามาตายตอนนี้สิ!" นับดาวที่เพิ่งขับรถออกมาจากคฤหาสน์หลังงามของตัวเองแทบยกมือกุมขมับขณะที่คุยกับเพื่อนรักผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เธอไหว้วานให้พาฝันไปงานเลี้ยงวันเกิดของลูกชายเพื่อนพ่อด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับโดนเพื่อนลอยแพให้ไปคนเดียว
(ฉันขอโทษจริงๆ แกไปคนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม งานเลี้ยงของนักธุรกิจระดับนั้นมันคงไม่มีเรื่องอะไรหรอก เชื่อฉันสิ)
"เมื่อสองเดือนก่อนแกก็ชวนฉันไปเที่ยวแบบนี้แหละ แล้วสุดท้ายแกก็ทิ้งฉันไปกับผู้ชาย"
(เรื่องมันผ่านมาตั้งสองเดือนแล้วแกก็ลืมๆ มันไปเถอะ ครั้งนั้นฉันผิดที่ไม่ยอมพาแกกลับบ้านพร้อมกัน แต่ครั้งนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ นะ ฉันแทบจะนอนกอดชักโครกแล้วเนี่ย)
"ในโลกนี้คงไม่มีใครน่าหงุดหงิดเท่าแกอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันจะยอมปล่อยแกไปก่อนก็ได้ อย่าลืมกินยาแล้วก็นอนพักด้วย"
(แกก็อย่าไปกินเหล้าจากคนแปลกหน้าอีกนะ เลิกได้เลิกนะนิสัยเมาแล้วทำตัวเหมือนสโนไวท์รับแอปเปิ้ลจากคนแปลกหน้ามากินน่ะ)
"ไม่ต้องซ้ำเติมความผิดพลาดของฉันได้ไหม"
(ฉันกำลังเตือนให้แกระวังตัวเองดีๆ ย่ะ แต่ตอนนี้ต้องวางสายแล้วนะ ฉันขอทำธุระก่อน)
"เออ อย่าลืมกินยาด้วยนะ" เธอกดวางสายไปหลังจากพูดจบประโยค และขับรถไปที่งานเลี้ยงคนเดียว
นับดาวเดินเข้ามาในงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่โตด้วยความประหม่าเล็กน้อย แม้ว่างานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นในพื้นที่ส่วนตัว แต่ภายในงานก็คราคร่ำไปด้วยผู้คนจากแวดวงธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นคนที่เธอไม่เคยเจอหน้ามาก่อน
"ขอดูบัตรเชิญด้วยครับ"
"อ๊ะ!" ร่างบางผงะถอยหลังด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางหน้าไว้ในตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่พอดี ชุดสูทสีดำที่คนตรงหน้าสวมใส่อย่างเป็นระเบียบบ่งบอกว่าเขาเป็นคนดูแลความปลอดภัยภายในงานเลี้ยง นับดาวหยิบบัตรเชิญในกระเป๋าออกมายื่นให้คนตรงหน้า
"เป็นตัวแทนของคุณศิลาเหรอครับ"
"เป็นลูกสาวค่ะ พ่อเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยมาด้วยตัวเองไม่ได้ ฉันเลยมางานเลี้ยงแทนค่ะ"
"เชิญครับ"
"ขอบคุณค่ะ" นับดาวกล่าวขอบคุณ แล้วเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ด้วยความประหลาดใจ ทั้งที่เป็นแค่งานเลี้ยงวันเกิดของนักธุรกิจแต่กลับเข้มงวดราวกับเป็นงานเลี้ยงของคนใหญ่คนโต เธอเก็บความสงสัยไว้ในใจพลางสอดสายตามองหาเจ้าของงานเลี้ยงที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
"ลูกชายเพื่อนพ่อคนไหนเนี่ย" หญิงสาวบ่นอุบ ขณะเดียวกันก็หันมองซ้ายมองขวาหาคนที่โดดเด่นพอที่จะเป็นเจ้าของงานเลี้ยง ก่อนจะสะดุดตากับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองพอดี เท้าเล็กรีบเดินตรงไปหาเขาทันที
"ขอโทษนะคะ"
"ครับ?" ชารีฟหยุดฝีเท้าที่กำลังจะเดินไปยังโซนเครื่องดื่มเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย ในมือของเธอถือกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่มากนัก
"เจ้าของงานวันเกิดคนไหนเหรอคะ พอดีฉันมาเป็นตัวแทนของพ่อ แต่หาเจ้าของวันเกิดไม่เจอ"
"ขอดูบัตรเชิญหน่อยครับ"
"มีคนเก็บบัตรเชิญไปแล้วค่ะ พ่อฉันเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยส่งฉันมาแทน พ่อบอกว่าเจ้าของงานวันเกิดเป็นลูกชายเพื่อนพ่อน่ะค่ะ น่าจะชื่อคุณรามิล"
"..." ชารีฟไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพิจารณา ที่ผ่านมามีผู้หญิงหลายคนพยายามใช้วิธีต่างๆ เพื่อเข้าหาเจ้านายของเขา ไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้จะเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากเล่นกับไฟหรือเปล่า "นายพักผ่อนอยู่ในห้องส่วนตัวครับ"
"คะ? หมายถึงเจ้าของงานเหรอคะ"
"ครับ ผมเป็นคนสนิทของคุณรามิล"
"เอ่อ แล้วจะเจอคุณรามิลได้ยังไงคะ" นับดาวขมวดคิ้วยุ่งด้วยความมึนงง เธอเพิ่งเคยเห็นการจัดงานเลี้ยงที่ปล่อยให้แขกสนุกสนานอยู่ในงานโดยไม่มีเจ้าของงานเลี้ยงคอยต้อนรับแขกแบบนี้
"เดี๋ยวผมพาขึ้นไปหานายข้างบนครับ" ชารีฟหันหลังเดินกลับขึ้นไปบนชั้นสองทันทีโดยที่นับดาวยังไม่ทันได้ตอบตกลง ทำให้เธอต้องเดินตามเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก๊อก~ ก๊อก~
"ขออนุญาตครับนาย มีคนอยากมอบของขวัญให้นายด้วยตัวเองครับ"
นับดาวยืนรอหน้าประตูเงียบๆ ขณะที่ชารีฟกำลังเคาะประตูห้องๆ หนึ่ง แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างในจนเขาต้องเสียมารยาทเปิดประตูเข้าไป ปล่อยให้เธอยืนรออยู่คนเดียว
"บ้าอะไรเนี่ย..." ร่างบางบ่นอุบด้วยความรำคาญ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เดินหนีออกมา ชารีฟที่หายเข้าไปได้ไม่นานก็เดินออกมาพอดี
"เชิญครับ"
"ขะ..ขอบคุณค่ะ" เธอกล่าวขอบคุณอย่างมึนงงเมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูเชื้อเชิญ เท้าเล็กเดินเข้ามาในห้องอย่างกล้าๆกลัวๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้องเธอมองเห็นชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายนั่งดื่มเหล้าอยู่บนโซฟาคนเดียว แวบหนึ่งเธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นใบหน้าแบบนั้นมาก่อน
"สวัสดีค่ะ ฉันเป็นลูกสาวของพ่อศิลา พอดีพ่อเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยให้ฉันเป็นตัวแทนมางานเลี้ยงแทนค่ะ"
"..." คำทักทายของนับดาวแทบจะกลายเป็นธาตุอากาศ รามิลจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชาที่ยากจะคาดเดาความคิดได้ ทำเอาเธอเริ่มไปต่อไม่ถูก แต่ก็ยังเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง
"สุขสันต์วันเกิดนะคะ"
"..."
"นี่เป็นของขวัญที่พ่อฝากมาให้ค่ะ" นับดาวเดินเข้าไปวางกล่องของขวัญไว้บนโต๊ะกระจกตรงหน้าชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ นึกหมั่นไส้ท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายอยู่ในใจ
"ชื่ออะไร"
"นับดาวค่ะ" หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำอย่างไม่ทราบสาเหตุเพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงเยือกเย็นของคนตรงหน้า
"ไหนของขวัญวันเกิดของฉัน"
"กล่องที่วางอยู่บนโต๊ะไงคะ"
"..."
"ขะ..ของขวัญมีปัญหาตรงไหนรึเปล่าคะ"
"มีของขวัญอยู่สองชิ้น ฉันเลยไม่แน่ใจว่าอันไหนเป็นของขวัญวันเกิดของฉัน"
"คะ?" นับดาวเอียงคอมองชายหนุ่มด้วยความงุนงง นอกจากเธอและกล่องของขวัญที่เธอเป็นคนถือติดมือเข้ามาด้วยแล้วในห้องนี้ก็ไม่มีกล่องของขวัญวางอยู่ตรงไหนอีกเลย
