๓ สงสารแต่ไม่รัก (๒)
เขาคิดไว้แล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นเพียงในนาม ตนไม่อาจแตะต้องผู้หญิงที่ไม่มีใจเสน่หาได้ ถึงหล่อนจะพยายามเชิญชวนแค่ไหนก็ต้องนิ่งเป็นพระอิฐพระปูนเอาไว้
เขาไม่ได้รักเธอ...
แต่ความสวยของชีวาพรที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหล่อนเรียกสายตาเขาให้เมียงมองหลายต่อหลายครั้ง ผิวขาวเนียนละเอียด ดวงหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งดั่งคันศร แววตาหวานซึ้งลึกล้ำ จมูกโด่งได้รับกับปากรูปกระจับ ทุกอย่างที่ประกอบเข้าด้วยกันล้วนงดงามราวภาพวาด
เสียแต่นิสัยที่ไม่ค่อยจะถูกใจเมืองหมอกเท่าไหร่ ทว่าไม่แน่หรอก การไปอยู่ต่างประเทศอาจทำให้หญิงสาวเปลี่ยนไปแล้วก็ได้
“พี่อาบน้ำก่อนนะ” ลุกจากพื้นก็ถอดเสื้อสูทพาดไว้บนโซฟา หยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ฟังกระทั่งคำตอบรับของหล่อนที่เอ่ยเสียงแผ่ว
“ค่ะ”
ชีวาพรนั่งลงที่โซฟาแล้วสูดลมหายใจลึกเข้าปอด ผ่อนออกมาอย่างแผ่วเบาแล้วมัวแต่อมยิ้มกับตนเอง ยิ่งมองเตียงกว้างที่โปรยกลีบกุหลาบเป็นรูปหัวใจ พร้อมผ้าผืนเล็กที่พับเป็นรูปหงส์หันหน้าเข้าหากัน แก้มนวลก็แดงปลั่งจนต้องยกมือขึ้นประคองใบหน้า
“ใจเย็นนะโซ่ เตรียมหมดทุกอย่างแล้ว...อย่าตื่นเต้น” เอนตัวลงนอนบนโซฟาแล้วได้แต่ดิ้นไปมาอยู่อย่างนั้น
มือหนาที่โอบอุ้มกายหล่อนวางลงบนเตียง ก่อนเขาจะนอนลงทาบทับ ใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมจุมพิตแสนหวาน เราทั้งสองร่วมเป็นหนึ่งเดียวในคือเข้าหอ เจ้าสาวคิดเอาไว้หมดแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
จึงรีบลุกจากโซฟาแล้วจัดการถอดกิ๊ฟดำที่เสียบบนผมออกจนหมด ปล่อยผมดำขลับสยายกลางแผ่นหลัง เดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วเลือกชุดนอนผืนบางเพื่อสวมในคืนนี้ คิดว่ามันคงอยู่บนตัวเธอไม่นานหรอก
เขาต้องถอดออกแน่...
“เข้าไปอาบเลย” เมืองหมอกสวมเสื้อยืดกางเกงหัวยืดออกจากห้องน้ำ เช็ดผมที่เปียกน้ำให้หมาด ค่อยเดินมาหน้าโต๊ะกระจกเพื่อทาครีมที่เตรียมจากบ้าน ถึงเป็นผู้ชายก็ต้องดูแลผิวหน้าสม่ำเสมอ
“ค่ะ” ชุดเจ้าสาวถูกถอดออกและห้อยไว้ยังตู้ขนาดใหญ่ของโรงแรม คงต้องส่งไปซักทำความสะอาดแล้วค่อยเก็บเข้าตู้เพื่อเป็นที่ระลึก หล่อนสั่งตัดเป็นพิเศษจากช่างชาวอิตาลี พิถีพิถันกว่าจะได้ชุดออกมาหนึ่งตัว ถือเป็นความทรงจำอันมีค่าแก่ตน
ร่างบางเข้าห้องน้ำไปทำความสะอาดร่างกาย ใช้เครื่องประทินความงามทั้งหมด และทาผิวให้หอมสำหรับการใหญ่ในค่ำคืนนี้ เตรียมทุกอย่างพร้อมเสร็จสรรพในเวลาเพียงแค่สี่สิบนาที สวมชุดนอนผ้าลื่นสายเดี่ยวสีแดงตัดกับผิวขาวนวล
ก้าวเสียงเบาเข้ามาในห้องที่ปิดไฟมืด เหลือเพียงแสงจากโคมไฟข้างหัวเตียงเท่านั้น หล่อนมึนงงเล็กน้อยนึกว่าเขาจะรอ แต่พอมองมาบนเตียงก็พบร่างสูงนอนห่มผ้าหลับตาเรียบร้อยแล้ว
“พี่หมอกหลับแล้วเหรอ...”
คืนเข้าหอที่ควรร่วมรักกันอย่างแนบแน่น เสียงครวญครางดังทั่วห้อง กลายเป็นว่าเจ้าบ่าวของหล่อนนอนหลับหมดสภาพบนเตียง กลีบดอกไม้ก็หล่นลงบนพื้น ไม่มีความหวานแต่อย่างใด รู้สึกเสียดายช่วงเวลาที่จะได้ทำร่วมกันในคืนนี้ ทว่าอีกใจก็นึกเป็นสุขยามได้มองเขาหลับ
“คงเหนื่อยมากสินะ” หล่อนสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มยังพื้นที่ว่าง นอนตะแคงข้างแล้วจ้องมองดวงหน้าคมอยู่อย่างนั้นหลายนาที ค่อยยื่นใบหน้าไปจุมพิตที่แก้มสาก
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...สามีของโซ่” ขยับกายเข้ากอดร่างสูง อบอุ่นหัวใจเหลือเกินกับสถานะของเราที่เปลี่ยนไป
ไม่ใช่แค่พี่น้องข้างบ้าน...แต่คือสามีภรรยา!
เข้ามาอยู่ในบ้านมงคลทิวัตถ์ในฐานะสะใภ้ใหญ่ คอยดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างและอยู่คุยเล่นกับคุณย่า หน้าที่หลักคือปรนนิบัติสามี หล่อนไม่มีแผนจะทำงานเพราะมรดกที่ได้มาใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด บ้านหลังงามฝั่งตรงข้ามถูกปิดร้าง
เธอไม่กล้ากระทั่งจะเดินเข้าบ้านตัวเอง กลัวภาพเก่าๆ ย้อนกลับมาให้หวนนึกถึงครอบครัวที่จากไป อยากลืมเหตุการณ์วันนั้นแต่ก็ยังคงนอนผวาฝันถึงทุกค่ำคืน ยังดีที่ได้อ้อมกอดของเมืองหมอกพอให้ช่วยคลายความกลัวไปได้บ้าง
เขาคือแสงสว่างเดียวในชีวิตของหล่อน จึงได้ยึดติดสามีเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“หนูโซ่ตื่นแต่เช้ามาทำอาหารไว้ให้เราโดยเฉพาะเลยนะ” แต่งงานมาได้เพียงแค่สองวันก็กลับไปทำงานทันที คุณอนัญพรเปรยเรื่องฮันนีมูนแต่ถูกบุตรชายเมินเฉย ท่านจึงคิดว่ารออีกสักหน่อยค่อยวางแผนให้ทั้งคู่ก็ไม่สาย
เพราะดูท่าเมืองหมอกคงไม่อยากไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ต่างจากสะใภ้ที่อยากใช้ทุกเวลาและทุกวินาทีเพื่ออยู่กับคนรัก
ความรู้สึกที่สวนทาง ไม่รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไปรอดหรือเปล่า นางก็ได้แต่ภาวนาให้บุตรชายใจตรงกับชีวาพรสักที เพียงเท่านี้เรื่องก็จะจบอย่างมีความสุข
ร่างสูงเลื่อนเก้าอี้ในห้องอาหาร เลือกนั่งที่ประจำของตัวเองแล้วรับประทานอาหารเช้า ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ถือเป็นครอบครัวสุขสันต์ก็ว่าได้ โดยเฉพาะมีสมาชิกใหม่เพิ่ม บรรยากาศก็ดูมีสีสันขึ้นทันตา
“อร่อยไหมคะ” แม่ครัวที่ลงมือทำอาหารตามคำสอนของแม่สามีมองเขาตาปริบ เธอไม่ค่อยเข้าครัวเพราะคิดว่ามีแม่บ้านบริการตนอยู่แล้ว เหตุใดจะต้องทำให้เมื่อย
พอถึงวันที่แต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง ก็อยากบริการสามีในเรื่องที่พอจะทำได้อย่างการทำอาหาร ถึงจะแค่ชงกาแฟกับปิ้งขนมปังหรือทำข้าวต้มก็ตาม
“อร่อยครับ” พยักหน้าแล้วตอบตามที่หล่อนอยากได้ยิน แล้วทุกคนก็ยิ้มกว้างที่เห็นสามีภรรยารักใคร่ปรองดอง
