บท
ตั้งค่า

บทที่ 2. หรือต้องเรียกร้องความสนใจ...

ทิพย์ธาราเช็ดตัวให้ภาสกรอย่างเสียไม่ได้ทั้งที่บอกให้ คเชนทร์ บอดีการ์ดของเขามาทำหน้าที่นี้แต่ภาสกรไม่ยอมและไม่ยอมกินยาด้วย เดือดร้อนให้เธอต้องมาดูแลคนเอาแต่ใจอีกครั้งแต่พ่อคุณก็ฤทธิ์เยอะเสียเหลือเกิน ไม่ยอมให้เช็ดตัวดีๆ แล้วยังโวยวายอีกต่างหาก

“พี่แสนคะ ถ้าไม่หยุดงอแงน้ำแข็งจะเรียก ลุงหมอ มาดูอาการนะคะ” ในที่สุดเมื่อทนไม่ไหวกับความงี่เง่าของเขา ทิพย์ธาราก็งัดไม้เด็ดออกมา และทันทีที่ได้ยินว่าทิพย์ธาราจะเรียกลุงหมอ หรือ นายแพทย์วิกรม นายแพทย์ประจำตระกูลที่ดูแลครอบครัวของภาสกรที่เมืองไทยและครอบครัวของทิพย์ธารามานานมาตรวจเขา คนที่ดื้อรั้นไม่ยอมให้เช็ดตัวดีๆ และไม่ยอมกินยาก็หยุดนิ่งมองเธอเหมือนเด็กดื้อที่ไม่ได้ของเล่นดังใจ... ทิพย์ธาราส่ายหน้าช้าๆ อย่างระอา

“น้ำแข็งใจร้ายเป็นแม่มด..”

“หึ.. น้ำแข็งจะร้ายกว่านี้อีกค่ะหากพี่แสนไม่ยอมให้เช็ดตัวดีๆ และไม่ยอมกินยา รับรองได้เลยว่าแค่น้ำแข็งโทร. ไปกริ๊งเดียวลุงหมอมาถึงที่นี่ภายในเวลาไม่เกินสิบนาที.. จะลองมั้ยคะ ไม่แน่นะคะอาการหนักแบบพี่แสนเนี่ยอาจจะถูกฉีดยาเลยก็ได้” ทิพย์ธารายิ้มเย็นมองเขาด้วยแววตาที่เหนือกว่า

ภาสกรกลัวลุงหมอและกลัวเข็ม เพราะตอนเด็กๆ มารดาเล่าให้ฟังว่าพี่ชายของเธอพาภาสกรไปเล่นซนตามประสาเด็กผู้ชายแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยแต่ทำให้ภาสกรหัวแตกและมีแผลที่ต้นขาจนต้องเย็บ ตอนนั้นภาสกรร้องไห้ลั่นเลยทีเดียวทั้งเตะทั้งถีบใครต่อใครวุ่นวายไปหมดไม่ยอมให้ใครจับตัวเพราะกลัวเจ็บแต่เลือดก็ออกเยอะมากจนทุกคนเป็นห่วงกังวลว่าหากเลือดไหลมากๆ เขาจะอาการแย่ ลุงหมอจึงใช้ไม้เด็ดจัดภาสกรมัดมือมัดเท้าอย่างแน่นหนาแล้วพาไปโรงพยาบาลโดยมีคุณปู่โลแกนตามประกบติดเลยทีเดียว มารดาบอกว่าเด็กชายภาสกรได้แต่แหกปากร้องไห้ดูน่าสงสารไม่น้อย แต่สุดท้ายลุงหมอก็จัดการเย็บแผลได้ซึ่งแผลใหญ่และลึกเย็บถึงสามสิบเข็มและภาสกรต้องนอนโรงพยาบาลหลายวันและถูกห้ามไม่ให้เล่นซนไปหลายเดือน ตั้งแต่นั้นมาเด็กชายภาสกรก็กลัวเข็มและกลัวลุงหมอมาก เรียกได้ว่านอกจากคุณปู่โลแกน คุณปานวาดแล้ว ก็มีลุงหมอนี่ล่ะที่ภาสกรกลัวและยอมเชื่อฟังโดยดี

“พี่เชนคะ มาเช็ดตัวให้คนแก่ดื้อหน่อยค่ะ.. เดี๋ยวน้ำแข็งขอไปตรวจงานแทนพี่แสนสักครู่ พี่อิงบอกว่ามีงานด่วน..” ภาสกรหน้างอด้วยความขัดใจ แล้วยอมให้คเชนทร์ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเข้ามาเช็ดตัว

“ไม่ต้องมาชงมาเช็ดเลยไปไกลๆ เลยไอ้เชน..” เมื่อหญิงสาวเดินออกไปแล้วคนที่ทำท่าป่วยจะเป็นจะตายก็ดีดตัวลุกขึ้นมองคเชนทร์อย่างขัดเคืองใจ...

“แล้วหยุดหัวเราะด้วยหากไม่อยากโดนเตะ”

“ครับๆ แต่ก็อดขำไม่ได้นี่ครับจะให้ทำยังไง” คเชนทร์พูดไปหัวเราะไปกับท่าทางหน้าบึ้งหน้าบูดของเจ้านายหนุ่ม

“น้ำแข็งนะน้ำแข็ง ใจแข็งจริงๆ เด็กบ้านี่เดียวพ่อจับปล้ำซะให้เข็ด..” ภาสกรหน้าบึ้งหงุดหงิดที่แผนการของตนไม่ได้ผล

“ก็ทำไมไม่บอกเขาไปดีๆ ละครับว่าคิดยังไง”

“แกก็ดูสิ ว่าน้ำแข็งน่ะเหมือนผู้หญิงคนอื่นเขามั้ย จะให้บอกโต้งๆ มีหรือจะเชื่อ มีหรือจะยอมกันง่ายๆ อีกอย่างฉันไม่บอกหรอกเว้ยเสียฟอร์มเทพบุตรเนื้อหอมหมด”

ภาสกรยังพูดอย่างเย่อหยิ่งที่ทั้งในใจนั้นทั้งรักทั้งปรารถนาทิพย์ธารา แต่เพราะเจ้าหล่อนไม่เคยสนใจเขา และทั้งพ่อแม่พี่น้องต่างก็คิดว่าเขากับทิพย์ธาราไม่เหมาะสมกันเนื่องจากประวัติอันฉาวโฉ่เป็นเพลย์บอยเป็นเสือผู้หญิงนี่ล่ะทำให้คุณอาทั้งสองมักจะออกอาการหวงๆ ทิพย์ธารากับเขาเสมอ แม้ท่านจะเอ็นดูเขาอยู่มากก็ตาม

“งั้นก็ต้องเข้าทางผู้ใหญ่สิครับ”

“ยังไงวะ” คนที่คร่ำหวอดเชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงและควงผู้หญิงแต่ไม่ถนัดเรื่องจีบหญิงและความรักหันมาถามบอดีการ์ดคู่ใจ

“อ้าว.. ก็หากว่าเขาระแวงว่าจ้านายจะทำให้ลูกสาวเขาเสียใจเจ้านายก็ต้องแสดงความจริงใจว่าล้างมือเรื่องผู้หญิงแล้วและทำให้พวกเขาเห็นว่าเจ้านายจริงใจและรักลูกสาวเขาจริงๆ น่ะสิครับ”

“พี่แสนคะ..”

“เห้ย..” ไม่ทันที่สองหนุ่มจะได้พูดอะไรต่อภาสกรก็อุทานอย่างตกใจแทบซุกตัวลงไปนอนทำท่าหน้าซีดหน้าเซียวร้องโอดครวญเหมือนทรมานจากพิษไข้มากมายเมื่อจู่ๆ ทิพย์ธาราก็เปิดประตูเข้ามาและโชคดีที่เธอกำลังก้มอ่านเอกสารในมืออยู่จึงไม่ทันได้เห็นท่าทางตื่นตระหนกและความลนลานของทั้งเจ้านายและลูกน้อง

“เอ่อ มีอะไรครับคุณน้ำแข็ง..”

“มีงานด่วนนิดหน่อยค่ะ พี่แสนต้องเซ็นเอกสารนี่ค่ะ พอดีมันเร่งด่วนพี่แสนพอลุกไหวมั้ยคะ”

ทิพย์ธารายิ้มบางๆ ให้คเชนทร์แล้วเดินมาทรุดนั่งขอบเตียงกว้างชะโงกมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างห่วงใยอยู่ไม่น้อยยิ่งเห็นท่าทางตัวสั่นเทาของเขาก็ยิ่งใจคอไม่ดี ดวงตากลมโตมองต้นแขนแข็งแรงเปลือยเปล่าของเขาแล้วหันมามองคเชนทร์..

“พี่เชนเช็ดตัวให้พี่แสนแล้วใช่ไหมคะ”

“ชะ.. เช็ดแล้วครับ” คเชนทร์ตอบเบาๆ

“แต่ดูเหมือนไข้ยังไม่ลดนะคะ หรือเราต้องเรียกลุงหมอจริงๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วท่าทางเป็นกังวล ภาสกรหูผึ่งรีบหันมาหาเธอทันที

“ไม่ ต้อง หรอกน้ำแข็ง.. พี่ดีขึ้นแล้ว ไหนมีงานอะไรเร่งด่วน..”

ภาสกรค่อยๆ พยุงตัวขึ้นนั่งด้วยท่าทางแสนทุลักทุเลดูน่าสงสารทิพย์ธาราแทนไม่ไหวก็จึงช่วยพยุง กลิ่นกายสาวหอมละมุนลอยเข้าจมูกทำให้ใจแกร่งสั่นระรัวร่างแกร่งร้อนผ่าวจนแทบจะอดทนไม่ไหวซึ่งมันทำให้เหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าหล่อเหลา

“อุ๊ย พี่แสนเป็นอะไรคะ เหงื่อเต็มเลย”

“พี่ พี่หายใจไม่ค่อยออก..”

“สงสัยเจ้านายจะเป็นลมครับ.. เดี๋ยวผมไปหายาดมยาหอมมาให้เจ้านายก่อนนะครับ” คเชนทร์รีบหาเหตุผลออกไปทันทีเมื่อเห็นสัญญาณของเจ้านาย...

“พี่แสนไหวมั้ยคะ น้ำแข็งว่าโทร.หาลุงหมอดีกว่า” หญิงสาวอดรนทนไม่ไหว

“มะ ไม่ต้อง” ภาสกรรีบตะครุบมือเรียวเอาไว้ก่อนที่ทิพย์ธาราจะหยิบโทรศัพท์มาโทร. ออกมากดโทร. หาลุงหมอจริงๆ

“พี่ไหว พี่ไหวจริงๆ มาไหนมาดูสิมีอะไรด่วน..” ภาสกรถือโอกาสแสร้งเอนกายมาพิงร่างบอบบางหอมละมุนไว้แล้วหยิบเอกสารจากมือเรียวมาแล้วอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ความจริงแล้วเขาอยากจะยืดโอกาสอันดีนี้ไว้นานๆ มากกว่า

“หืมมม เจ้านายร้ายกาจมาก..” คเชนทร์แอบมองเจ้านายที่เอนกายพิงต้นแขนทิพย์ธาราแล้วก็หลบฉากออกไป

ทิพย์ธาราหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างสีหวานละมุนแล้วยกมือกุมแก้มที่เห่อร้อนของตนไว้ พยายามสลัดภาพร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้องดงามของภาสกรออกจากหัว แต่ภาพอกกว้างเปล่าเปลือยที่อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อขนอ่อนสีน้ำตาลเข้มกระจายเต็มแผงอกและต้นแขนที่มีกล้ามเป็นมัดๆ ที่ดูสวยงามน่ามองของเขาก็กลับเข้ามาในห้วงคำนึง ตอนนั้นเธอพยายามตั้งสติอย่างมากเลยทีเดียวที่จะพาตัวเองออกมาจากห้องทำงานของภาสกร

“พี่แสนคนบ้า..” หญิงสาวหน้างอง้ำอยู่กับตัวเอง

ก๊อกๆ ... “น้ำแข็ง.. นอนรึยังลูก” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของมารดาเรียกอยู่หน้าห้องทำทิพย์ธาราจึงรีบมาเปิดประตู

“ยังค่ะคุณแม่ นี่เพิ่งจะสองทุ่มเองนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้มารดา

“นั่นสิแม่ก็ว่าอยู่..” คุณธิชายิ้มบางๆ ให้ลูกสาว

“คุณแม่มีอะไรคะ เข้ามาก่อนมั้ยคะ”

“พี่กายมาหาน่ะลูก..” คุณธิชามองใบหน้างามของบุตรสาวอย่างจับสังเกตแต่ก็พบเพียงสีหน้าที่เรียบเฉยทำให้นางแอบผ่อนลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกที่ไม่เห็นความอาลัยอาวรณ์บนใบหน้างามของทิพย์ธารา

“พี่กายมาหรือคะ เอ.. มาทำไม..” คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะกายกับเธอไม่ได้ติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว จะร่วมปีแล้วกระมัง...

“ก็ไปคุยกับพี่เขาหน่อยมั้ยล่ะ”

“คุณแม่ไม่ว่าใช่ไหมคะ..” หญิงสาวถามมารดาอย่างกังวล เพราะปีที่แล้วเธอโดนโจมตีหนักมากเรื่องกาย เพราะ เทียมแข ภรรยาของกายให้ข่าวว่าเธอเป็นมือที่สามทำให้ครอบครัวของเจ้าหล่อนระส่ำระสาย ทั้งที่ความจริงแล้วเธอกับกายไม่เคยคบหากันเกินเลยคำว่าเพื่อน แม้ว่ากายจะคิดเกินเลยกับเธอก็ตามนั่นมันก็เป็นความรู้สึกของกายที่มีต่อเธอก่อนพบเทียมแข แต่ทิพย์ธารายังคงสถานะกายเป็นเพียงเพื่อนชายคนสนิทไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขามากกว่าคำว่าเพื่อนเลยไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน...

กาย เป็นเพื่อนรุ่นพี่เธอสามปีและสนิทสนมกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆ และมักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ จนกระทั่งเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาวพวกเธอก็มักถูกจับตามองว่าเป็นคนรักกัน และมันก็เกือบจะเป็นความจริงเมื่อความคุ้นเคยสนิทสนมระหว่างกันทำให้เธอคิดคล้อยตามผู้ใหญ่ที่คิดจะหมั้นหมายเธอกับกาย หากแต่เมื่อเทียมแขเข้ามาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แต่ทิพย์ธาราก็รู้สึกโล่งใจมากกว่าที่มีเทียมแขเข้ามาแทรกเพราะไม่อย่างนั้น ตอนนี้เธอคงได้แต่งงานกับกายไปแล้วตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ และหากเป็นเช่นนั้นเธอคิดว่าตัวเองคงไม่มีความสุขเพราะกายไม่ใช่คนที่เธอ รัก...

“จะว่าทำไมล่ะลูก ก็พี่กายเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของน้ำแข็งไม่ใช่หรือไง”

“ขอบคุณนะคะคุณแม่ที่เข้าใจน้ำแข็ง”

“ไปเถอะลูก พี่เขารอนานแล้ว” ทิพย์ธาราพยักหน้าแล้วเดินลงไปที่ห้องรับแขก คุณธิชามองตามลูกสาวสุดสวยของตนไปอย่างครุ่นคิดก่อนจะเดินไปหาสามีที่ห้องทำงาน...

ทิพย์ธารายิ้มบางๆ ให้กายที่ส่งยิ้มมาให้ กายเป็นชายหนุ่มรูปงามที่เรียกได้ว่าแสนเพอเฟ็กต์ หล่อ รวย เก่ง ทั้งการเรียนและกีฬา เขาเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบอันเป็นที่หมายปองของหญิงสาว ตั้งแต่สมัยเรียน กายเป็นเดือนมหาวิทยาลัยและเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่ไปไหนมาไหนก็มีแต่สาวๆ กรี๊ด เธอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาเพราะคบกันมาตั้งแต่เด็กๆ จึงโดนหมั่นไส้ไปด้วย จนบางครั้งเธอแทบไม่อยากไปเรียนหรือไปไหนมาไหนกับกาย เพราะมักถูกบรรดาแฟนคลับของกายจิกกัดอยู่เสมอ

มีหลายๆ คนอยากกลั่นแกล้งเธอแต่เมื่อรู้ว่าเธอเป็นใคร เป็นลูกหลานของใครทำให้ไม่มีใครกล้า อีกทั้งบุคลิกที่เย็นชาไม่สนใจใครทำให้เธอถูกมองว่าเย่อหยิ่งดั่งเจ้าหญิง ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนนักก็จะมีแต่วิภาดากับเทียมแขเท่านั้นที่คบหากับเธอ แต่วิภาดานั้นเป็นคนตรงๆ ออกไปทางห้าวห่ามแต่มีความจริงใจให้เธอ ไม่เหมือนกับเทียมแขที่คบกับเธอเพราะอยากใกล้ชิดกายและเทียมแขก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กายไปครอบครอง...

“หวัดดีน้ำแข็ง..”

“หวัดดีค่ะพี่กาย เป็นไงมาไงคะถึงมาหาน้ำแข็งได้” หญิงสาวนั่งลงตรงข้ามกับเขากายยิ้มเก้อๆ กับคำถามของเธอ

“ก็ถ้าบอกว่าพี่คิดถึงน้ำแข็งล่ะ”

“ก็ไม่แปลกนี่คะ เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ” ทิพย์ธาราตอบยิ้มๆ

“ก็นั่นสินะ.. ที่พี่มานี่ก็แค่คิดถึงน่ะ และอยากบอกว่าพี่หย่ากับแขแล้ว” ทิพย์ธารานิ่งฟังไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่กายบอกเพราะรู้อยู่แล้วว่ากายกับเทียมแขคงไปกันไม่รอด เพราะอะไรนั้นเธอคิดว่ารู้ดีพอๆ กับทั้งสองคนนั้นนั่นล่ะ

เทียมแขเป็นลูกสาวของวิศวกรมีชื่อเสียงคนหนึ่งมารดาของเธอเป็นข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งเช่นกัน ก็นับว่าครอบครัวของเทียมแขมีฐานะพอสมควร แต่เทียมแขเป็นคนทะเยอทะยานพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นและเป็นที่สนใจของทุกคน โดยเฉพาะกาย เทียมแขเข้ามาตีสนิทกับเธอก็เพราะอยากได้กาย ตอนที่ยังไม่ได้ดังใจเทียมแขจะเป็นเพื่อนที่ดีอ่อนหวานน่ารักแต่พอรวบหัวรวบหางกายได้แล้วเทียมแขก็เปลี่ยนไป เป็นคนละคน...

“หรือคะ เสียใจด้วยนะคะ..”

ด้วยมารยาทเธอต้องพูดแบบนั้นอยู่แล้ว ทิพย์ธาราไม่ใช่คนสวยเยือกเย็นเพียงอย่างเดียว แต่เธอฉลาดและทันคนเพียงแต่บุคลิกนิ่งๆ เฉยๆ ทำให้หลายๆ คนมองว่าทิพย์ธาราไม่ทันคน บางคนพูดลับหลังเธอว่า สวยแต่โง่ โดนเพื่อนตัดหน้าแย่งผู้ชายไปตอนที่เทียมแขแต่งงานกับกายเพราะทุกคนต่างคิดว่าเธอกับกายเป็นคนรักกัน...

“พี่ไม่เสียใจเลยน้ำแข็ง แต่ดีใจมากๆ ต่างหากที่เลิกกับแขเสียได้ พี่อดทนและอึดอัดมานานแล้วน้ำแข็ง น้ำแข็งก็รู้ว่าพี่ไม่ได้รักแข..” กายมองเธอด้วยแววตาเปิดเปลือยความรู้สึก ทิพย์ธาราทำเพียงยิ้มบางๆ ให้เขา

“แขมาได้ยินแบบนี้เสียใจแย่เลยนะคะ เอาเถอะค่ะเรื่องมันผ่านไปแล้วพี่กายอย่าคิดมากเลยนะคะ แล้วพี่กายกินอะไรมารึยังคะ นี่ก็ทุ่มหนึ่งแล้วถ้ายังไม่กินอะไรมาเดี๋ยวน้ำแข็งทำอะไรให้กิน”

“ดีใจจังที่น้ำแข็งใจดีกับพี่ พูดเรื่องกินหิวขึ้นมาทันทีเลย”

“ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ งั้นพี่กายรอแป๊บเดียวนะ น้ำแข็งจะทำของโปรดมาให้” ทิพย์ธารายิ้มหวานแล้วหันไปเรียกสาวใช้นำของว่างมารับรองกายก่อนแล้วเธอก็ไปทำอาหารให้กายรับประทานเหมือนสมัยที่ยังไปมาหาสู่กัน...

“อะไรนะ ไอ้หน้าขาวนั่นไปหาน้ำแข็ง” ภาสกรพูดแทบเป็นตะคอกเมื่อได้รับรายงานข่าวจากสายลับของตน ก็จะใครที่ไหน ก็คนสวนของบ้านทิพย์ธารานั่นล่ะที่เขาติดสินบนไว้มากโขเลยทีเดียว

“ครับ ตอนนี้กำลังกินข้าวด้วยกัน คุยกันสนุกสนานเลยครับ..”

หนุ่ม คนสวนและคนขับรถวัยสี่สิบที่ทำงานกับครอบครัวของทิพย์ธารามานานแต่ก็แอบปันใจให้ภาสกรและรับงานนอกด้วยการเป็นคนคอยสอดส่องว่ามีใครมาเกาะแกะทิพย์ธาราบ้าง และรายงานทุกความเคลื่อนไหวของทิพย์ธาราแทบทุกย่างก้าวเพราะหนุ่มเป็นคนขับรถให้ทิพย์ธารา แม้จะมีบางครั้งที่ทิพย์ธาราขับรถไปเองก็ตาม

“หึ้ยยย.. ไอ้หมอนี่มันคงอยากเจ็บตัว พี่หนุ่มจับตาดูไอ้หน้าขาวนั่นไว้นะ อย่าให้มันมีโอกาสอยู่กับน้ำแข็งตามลำพัง”

“ได้เลยคร้าบบบคุณแสน..”

หนุ่มยิ้มกว้างอย่างพอใจในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย หากจะให้หนุ่มเลือกเจ้านาย หรือเลือกคู่ให้คุณหนูน้ำแข็ง หนุ่มก็อยากได้คุณแสนสุดหล่อกว่าใครทั้งหมดและเขาก็หนุนหลังคุณแสนเต็มที่เลยล่ะ

“พี่หนุ่ม..” เสียงเรียกห้วนจัดของ น้อย เป็นเมียดังขึ้นหนุ่มถึงกับสะดุ้งหน้าซีดเผือดแล้วค่อยๆ หันไปยิ้มแหยๆ ให้เมียรัก...

“จ๋า เมียจ๋า..”

“ทำอะไร..” น้อยกอดอกมองผู้เป็นสามีเขม็งอย่างไม่ไว้ใจ...

“อ้อ... พอดีคุยกับเพื่อนนิดหน่อยจ้ะ เมียจ๋ามีอะไรจ๊ะ”

หนุ่มรู้สึกเหงื่อแตกพลั่กๆ เมื่อน้อยเดินมาใกล้แล้วแบมือตรงหน้าซึ่งรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร หนุ่มค่อยๆ วางโทรศัพท์ลงบนมือเมียรักแล้วก้มหน้านิ่งเมื่อน้อยเลื่อนหน้าจอดูการโทร. ล่าสุด

“หึ ไอ้แสนเพื่อนพี่นี่มันโทร. มาบ่อยจริงนะ ชวนกันไปกินเหล้าใช่ไหม” น้อยเท้าสะเอวมองตาขุ่น

“เปล่าเลยจ้ะ มันโทร. มายืมตังค์พี่เลยบอกว่าไม่มีเงิน ทำงานได้ก็ให้เมียหมดรักเมียมาก นี่ว่าจะเลิกคุยกับมันแล้ว โทร. มาทีไรก็จะมาขอยืมแต่ตังค์ แย่มากๆ เมียว่าดีมั้ยจ๊ะ”

“ดี.. เพื่อนเฮงซวยที่โทร. มาหาแต่ตอนเดือดร้อนนี่เลิกคบไปเลยนะ แล้วอย่าให้รู้นะว่าชวนกันไปกินเหล้าหรือโทร. หาผู้หญิงไม่งั้นแม่ตัดฉับๆๆ ไม่ให้เหลือแม้แต่ไข่..” หนุ่มทำคอย่นตามจังหวะมือที่ทำท่าตัดฉับๆ ของเมียรักอย่างหวาดหวั่นสองมือกุมเป้าแน่นมองตามเมียรักที่เดินกลับไปอย่างโล่งอก...

“ขอโทษนะครับคุณแสน.. ไอ้หนุ่มต้องเอาตัวรอดจากเมียก่อน..” หนุ่มลำพึงรำพรรณกับตัวเองแล้วรีบเดินตามเมียรักเข้าไปในบ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel