บทที่2. ต่อ
“เอ่อ มีอะไรครับคุณน้ำแข็ง..”
“มีงานด่วนนิดหน่อยค่ะ พี่แสนต้องเซ็นเอกสารนี่ค่ะ พอดีมันเร่งด่วนพี่แสนพอลุกไหวมั้ยคะ”
ทิพย์ธารายิ้มบางๆ ให้คเชนทร์แล้วเดินมาทรุดนั่งขอบเตียงกว้างชะโงกมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างห่วงใยอยู่ไม่น้อยยิ่งเห็นท่าทางตัวสั่นเทาของเขาก็ยิ่งใจคอไม่ดี ดวงตากลมโตมองต้นแขนแข็งแรงเปลือยเปล่าของเขาแล้วหันมามองคเชนทร์..
“พี่เชนเช็ดตัวให้พี่แสนแล้วใช่ไหมคะ”
“ชะ.. เช็ดแล้วครับ” คเชนทร์ตอบเบาๆ
“แต่ดูเหมือนไข้ยังไม่ลดนะคะ หรือเราต้องเรียกลุงหมอจริงๆ” หญิงสาวขมวดคิ้วท่าทางเป็นกังวล ภาสกรหูผึ่งรีบหันมาหาเธอทันที
“ไม่ ต้อง หรอกน้ำแข็ง.. พี่ดีขึ้นแล้ว ไหนมีงานอะไรเร่งด่วน..”
ภาสกรค่อยๆ พยุงตัวขึ้นนั่งด้วยท่าทางแสนทุลักทุเลดูน่าสงสารทิพย์ธาราแทนไม่ไหวก็จึงช่วยพยุง กลิ่นกายสาวหอมละมุนลอยเข้าจมูกทำให้ใจแกร่งสั่นระรัวร่างแกร่งร้อนผ่าวจนแทบจะอดทนไม่ไหวซึ่งมันทำให้เหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าหล่อเหลา
“อุ๊ย พี่แสนเป็นอะไรคะ เหงื่อเต็มเลย”
“พี่ พี่หายใจไม่ค่อยออก..”
“สงสัยเจ้านายจะเป็นลมครับ.. เดี๋ยวผมไปหายาดมยาหอมมาให้เจ้านายก่อนนะครับ” คเชนทร์รีบหาเหตุผลออกไปทันทีเมื่อเห็นสัญญาณของเจ้านาย...
“พี่แสนไหวมั้ยคะ น้ำแข็งว่าโทร.หาลุงหมอดีกว่า” หญิงสาวอดรนทนไม่ไหว
“มะ ไม่ต้อง” ภาสกรรีบตะครุบมือเรียวเอาไว้ก่อนที่ทิพย์ธาราจะหยิบโทรศัพท์มาโทร. ออกมากดโทร. หาลุงหมอจริงๆ
“พี่ไหว พี่ไหวจริงๆ มาไหนมาดูสิมีอะไรด่วน..” ภาสกรถือโอกาสแสร้งเอนกายมาพิงร่างบอบบางหอมละมุนไว้แล้วหยิบเอกสารจากมือเรียวมาแล้วอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ความจริงแล้วเขาอยากจะยืดโอกาสอันดีนี้ไว้นานๆ มากกว่า
“หืมมม เจ้านายร้ายกาจมาก..” คเชนทร์แอบมองเจ้านายที่เอนกายพิงต้นแขนทิพย์ธาราแล้วก็หลบฉากออกไป
ทิพย์ธาราหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างสีหวานละมุนแล้วยกมือกุมแก้มที่เห่อร้อนของตนไว้ พยายามสลัดภาพร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้องดงามของภาสกรออกจากหัว แต่ภาพอกกว้างเปล่าเปลือยที่อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อขนอ่อนสีน้ำตาลเข้มกระจายเต็มแผงอกและต้นแขนที่มีกล้ามเป็นมัดๆ ที่ดูสวยงามน่ามองของเขาก็กลับเข้ามาในห้วงคำนึง ตอนนั้นเธอพยายามตั้งสติอย่างมากเลยทีเดียวที่จะพาตัวเองออกมาจากห้องทำงานของภาสกร
“พี่แสนคนบ้า..” หญิงสาวหน้างอง้ำอยู่กับตัวเอง
ก๊อกๆ ... “น้ำแข็ง.. นอนรึยังลูก” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของมารดาเรียกอยู่หน้าห้องทำทิพย์ธาราจึงรีบมาเปิดประตู
“ยังค่ะคุณแม่ นี่เพิ่งจะสองทุ่มเองนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้มารดา
“นั่นสิแม่ก็ว่าอยู่..” คุณธิชายิ้มบางๆ ให้ลูกสาว
“คุณแม่มีอะไรคะ เข้ามาก่อนมั้ยคะ”
“พี่กายมาหาน่ะลูก..” คุณธิชามองใบหน้างามของบุตรสาวอย่างจับสังเกตแต่ก็พบเพียงสีหน้าที่เรียบเฉยทำให้นางแอบผ่อนลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกที่ไม่เห็นความอาลัยอาวรณ์บนใบหน้างามของทิพย์ธารา
“พี่กายมาหรือคะ เอ.. มาทำไม..” คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะกายกับเธอไม่ได้ติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว จะร่วมปีแล้วกระมัง...
“ก็ไปคุยกับพี่เขาหน่อยมั้ยล่ะ”
“คุณแม่ไม่ว่าใช่ไหมคะ..” หญิงสาวถามมารดาอย่างกังวล เพราะปีที่แล้วเธอโดนโจมตีหนักมากเรื่องกาย เพราะ เทียมแข ภรรยาของกายให้ข่าวว่าเธอเป็นมือที่สามทำให้ครอบครัวของเจ้าหล่อนระส่ำระสาย ทั้งที่ความจริงแล้วเธอกับกายไม่เคยคบหากันเกินเลยคำว่าเพื่อน แม้ว่ากายจะคิดเกินเลยกับเธอก็ตามนั่นมันก็เป็นความรู้สึกของกายที่มีต่อเธอก่อนพบเทียมแข แต่ทิพย์ธารายังคงสถานะกายเป็นเพียงเพื่อนชายคนสนิทไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขามากกว่าคำว่าเพื่อนเลยไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน...
กาย เป็นเพื่อนรุ่นพี่เธอสามปีและสนิทสนมกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆ และมักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ จนกระทั่งเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาวพวกเธอก็มักถูกจับตามองว่าเป็นคนรักกัน และมันก็เกือบจะเป็นความจริงเมื่อความคุ้นเคยสนิทสนมระหว่างกันทำให้เธอคิดคล้อยตามผู้ใหญ่ที่คิดจะหมั้นหมายเธอกับกาย หากแต่เมื่อเทียมแขเข้ามาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แต่ทิพย์ธาราก็รู้สึกโล่งใจมากกว่าที่มีเทียมแขเข้ามาแทรกเพราะไม่อย่างนั้น ตอนนี้เธอคงได้แต่งงานกับกายไปแล้วตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ และหากเป็นเช่นนั้นเธอคิดว่าตัวเองคงไม่มีความสุขเพราะกายไม่ใช่คนที่เธอ รัก...
“จะว่าทำไมล่ะลูก ก็พี่กายเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของน้ำแข็งไม่ใช่หรือไง”
“ขอบคุณนะคะคุณแม่ที่เข้าใจน้ำแข็ง”
“ไปเถอะลูก พี่เขารอนานแล้ว” ทิพย์ธาราพยักหน้าแล้วเดินลงไปที่ห้องรับแขก คุณธิชามองตามลูกสาวสุดสวยของตนไปอย่างครุ่นคิดก่อนจะเดินไปหาสามีที่ห้องทำงาน...
ทิพย์ธารายิ้มบางๆ ให้กายที่ส่งยิ้มมาให้ กายเป็นชายหนุ่มรูปงามที่เรียกได้ว่าแสนเพอเฟ็กต์ หล่อ รวย เก่ง ทั้งการเรียนและกีฬา เขาเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบอันเป็นที่หมายปองของหญิงสาว ตั้งแต่สมัยเรียน กายเป็นเดือนมหาวิทยาลัยและเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่ไปไหนมาไหนก็มีแต่สาวๆ กรี๊ด เธอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาเพราะคบกันมาตั้งแต่เด็กๆ จึงโดนหมั่นไส้ไปด้วย จนบางครั้งเธอแทบไม่อยากไปเรียนหรือไปไหนมาไหนกับกาย เพราะมักถูกบรรดาแฟนคลับของกายจิกกัดอยู่เสมอ
มีหลายๆ คนอยากกลั่นแกล้งเธอแต่เมื่อรู้ว่าเธอเป็นใคร เป็นลูกหลานของใครทำให้ไม่มีใครกล้า อีกทั้งบุคลิกที่เย็นชาไม่สนใจใครทำให้เธอถูกมองว่าเย่อหยิ่งดั่งเจ้าหญิง ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนนักก็จะมีแต่วิภาดากับเทียมแขเท่านั้นที่คบหากับเธอ แต่วิภาดานั้นเป็นคนตรงๆ ออกไปทางห้าวห่ามแต่มีความจริงใจให้เธอ ไม่เหมือนกับเทียมแขที่คบกับเธอเพราะอยากใกล้ชิดกายและเทียมแขก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กายไปครอบครอง...
“หวัดดีน้ำแข็ง..”
“หวัดดีค่ะพี่กาย เป็นไงมาไงคะถึงมาหาน้ำแข็งได้” หญิงสาวนั่งลงตรงข้ามกับเขากายยิ้มเก้อๆ กับคำถามของเธอ
“ก็ถ้าบอกว่าพี่คิดถึงน้ำแข็งล่ะ”
“ก็ไม่แปลกนี่คะ เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ” ทิพย์ธาราตอบยิ้มๆ
“ก็นั่นสินะ.. ที่พี่มานี่ก็แค่คิดถึงน่ะ และอยากบอกว่าพี่หย่ากับแขแล้ว” ทิพย์ธารานิ่งฟังไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่กายบอกเพราะรู้อยู่แล้วว่ากายกับเทียมแขคงไปกันไม่รอด เพราะอะไรนั้นเธอคิดว่ารู้ดีพอๆ กับทั้งสองคนนั้นนั่นล่ะ
