บทที่2. ต่อ1.
เทียมแขเป็นลูกสาวของวิศวกรมีชื่อเสียงคนหนึ่งมารดาของเธอเป็นข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งเช่นกัน ก็นับว่าครอบครัวของเทียมแขมีฐานะพอสมควร แต่เทียมแขเป็นคนทะเยอทะยานพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นและเป็นที่สนใจของทุกคน โดยเฉพาะกาย เทียมแขเข้ามาตีสนิทกับเธอก็เพราะอยากได้กาย ตอนที่ยังไม่ได้ดังใจเทียมแขจะเป็นเพื่อนที่ดีอ่อนหวานน่ารักแต่พอรวบหัวรวบหางกายได้แล้วเทียมแขก็เปลี่ยนไป เป็นคนละคน...
“หรือคะ เสียใจด้วยนะคะ..”
ด้วยมารยาทเธอต้องพูดแบบนั้นอยู่แล้ว ทิพย์ธาราไม่ใช่คนสวยเยือกเย็นเพียงอย่างเดียว แต่เธอฉลาดและทันคนเพียงแต่บุคลิกนิ่งๆ เฉยๆ ทำให้หลายๆ คนมองว่าทิพย์ธาราไม่ทันคน บางคนพูดลับหลังเธอว่า สวยแต่โง่ โดนเพื่อนตัดหน้าแย่งผู้ชายไปตอนที่เทียมแขแต่งงานกับกายเพราะทุกคนต่างคิดว่าเธอกับกายเป็นคนรักกัน...
“พี่ไม่เสียใจเลยน้ำแข็ง แต่ดีใจมากๆ ต่างหากที่เลิกกับแขเสียได้ พี่อดทนและอึดอัดมานานแล้วน้ำแข็ง น้ำแข็งก็รู้ว่าพี่ไม่ได้รักแข..” กายมองเธอด้วยแววตาเปิดเปลือยความรู้สึก ทิพย์ธาราทำเพียงยิ้มบางๆ ให้เขา
“แขมาได้ยินแบบนี้เสียใจแย่เลยนะคะ เอาเถอะค่ะเรื่องมันผ่านไปแล้วพี่กายอย่าคิดมากเลยนะคะ แล้วพี่กายกินอะไรมารึยังคะ นี่ก็ทุ่มหนึ่งแล้วถ้ายังไม่กินอะไรมาเดี๋ยวน้ำแข็งทำอะไรให้กิน”
“ดีใจจังที่น้ำแข็งใจดีกับพี่ พูดเรื่องกินหิวขึ้นมาทันทีเลย”
“ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่คะ งั้นพี่กายรอแป๊บเดียวนะ น้ำแข็งจะทำของโปรดมาให้” ทิพย์ธารายิ้มหวานแล้วหันไปเรียกสาวใช้นำของว่างมารับรองกายก่อนแล้วเธอก็ไปทำอาหารให้กายรับประทานเหมือนสมัยที่ยังไปมาหาสู่กัน...
“อะไรนะ ไอ้หน้าขาวนั่นไปหาน้ำแข็ง” ภาสกรพูดแทบเป็นตะคอกเมื่อได้รับรายงานข่าวจากสายลับของตน ก็จะใครที่ไหน ก็คนสวนของบ้านทิพย์ธารานั่นล่ะที่เขาติดสินบนไว้มากโขเลยทีเดียว
“ครับ ตอนนี้กำลังกินข้าวด้วยกัน คุยกันสนุกสนานเลยครับ..”
หนุ่ม คนสวนและคนขับรถวัยสี่สิบที่ทำงานกับครอบครัวของทิพย์ธารามานานแต่ก็แอบปันใจให้ภาสกรและรับงานนอกด้วยการเป็นคนคอยสอดส่องว่ามีใครมาเกาะแกะทิพย์ธาราบ้าง และรายงานทุกความเคลื่อนไหวของทิพย์ธาราแทบทุกย่างก้าวเพราะหนุ่มเป็นคนขับรถให้ทิพย์ธารา แม้จะมีบางครั้งที่ทิพย์ธาราขับรถไปเองก็ตาม
“หึ้ยยย.. ไอ้หมอนี่มันคงอยากเจ็บตัว พี่หนุ่มจับตาดูไอ้หน้าขาวนั่นไว้นะ อย่าให้มันมีโอกาสอยู่กับน้ำแข็งตามลำพัง”
“ได้เลยคร้าบบบคุณแสน..”
หนุ่มยิ้มกว้างอย่างพอใจในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย หากจะให้หนุ่มเลือกเจ้านาย หรือเลือกคู่ให้คุณหนูน้ำแข็ง หนุ่มก็อยากได้คุณแสนสุดหล่อกว่าใครทั้งหมดและเขาก็หนุนหลังคุณแสนเต็มที่เลยล่ะ
“พี่หนุ่ม..” เสียงเรียกห้วนจัดของ น้อย เป็นเมียดังขึ้นหนุ่มถึงกับสะดุ้งหน้าซีดเผือดแล้วค่อยๆ หันไปยิ้มแหยๆ ให้เมียรัก...
“จ๋า เมียจ๋า..”
“ทำอะไร..” น้อยกอดอกมองผู้เป็นสามีเขม็งอย่างไม่ไว้ใจ...
“อ้อ... พอดีคุยกับเพื่อนนิดหน่อยจ้ะ เมียจ๋ามีอะไรจ๊ะ”
หนุ่มรู้สึกเหงื่อแตกพลั่กๆ เมื่อน้อยเดินมาใกล้แล้วแบมือตรงหน้าซึ่งรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร หนุ่มค่อยๆ วางโทรศัพท์ลงบนมือเมียรักแล้วก้มหน้านิ่งเมื่อน้อยเลื่อนหน้าจอดูการโทร. ล่าสุด
“หึ ไอ้แสนเพื่อนพี่นี่มันโทร. มาบ่อยจริงนะ ชวนกันไปกินเหล้าใช่ไหม” น้อยเท้าสะเอวมองตาขุ่น
“เปล่าเลยจ้ะ มันโทร. มายืมตังค์พี่เลยบอกว่าไม่มีเงิน ทำงานได้ก็ให้เมียหมดรักเมียมาก นี่ว่าจะเลิกคุยกับมันแล้ว โทร. มาทีไรก็จะมาขอยืมแต่ตังค์ แย่มากๆ เมียว่าดีมั้ยจ๊ะ”
“ดี.. เพื่อนเฮงซวยที่โทร. มาหาแต่ตอนเดือดร้อนนี่เลิกคบไปเลยนะ แล้วอย่าให้รู้นะว่าชวนกันไปกินเหล้าหรือโทร. หาผู้หญิงไม่งั้นแม่ตัดฉับๆๆ ไม่ให้เหลือแม้แต่ไข่..” หนุ่มทำคอย่นตามจังหวะมือที่ทำท่าตัดฉับๆ ของเมียรักอย่างหวาดหวั่นสองมือกุมเป้าแน่นมองตามเมียรักที่เดินกลับไปอย่างโล่งอก...
“ขอโทษนะครับคุณแสน.. ไอ้หนุ่มต้องเอาตัวรอดจากเมียก่อน..” หนุ่มลำพึงรำพรรณกับตัวเองแล้วรีบเดินตามเมียรักเข้าไปในบ้าน
ในขณะเดียวกันภาสกรก็ทั้งไอทั้งจามจนหน้าดำหน้าแดงซึ่งท่าทางจามติดๆ กันหลายทีของลูกชายสุดหล่อทำให้ คุณปานวาด ที่กำลังจะเดินขึ้นห้องของตนหยุดมองลูกชายที่ยืนจามอยู่ที่ระเบียงกว้างขวางของคฤหาสน์หลังงาม...
“เป็นอะไรล่ะลูก จามซะจนหน้าดำหน้าแดงไปหมดแล้ว
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ อาจจะแค่จามเฉยๆ เท่านั้น..” ภาสกรบอกมารดาเบาๆ แล้วจามส่งท้ายอีกรอบ คุณปานาวาดทำหน้าเหยเก
“ไปหาหมอมั้ยลูก”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมดีขึ้นแล้ว..”
“แล้วเป็นอะไรเนี่ย ทั้งไอทั้งจาม ต้องเรียกลุงหมอมั้ย เห็นว่าไม่สบายนี่นาวันนี้”
“นั่นยิ่งไม่ต้องเลยครับ ผมไม่เป็นไรแล้วว่าแต่คุณแม่เพิ่งสวดมนต์เสร็จหรือครับ” ภาสกรบอกแล้วเข้ามาประคองคุณปาดวาดเดินไปที่ห้องของนาง
“จ้ะ กำลังจะเข้านอนเห็นแสนจามฟิดๆ เลยเจ้ามาดู”
“คงจะแพ้อากาศนิดหน่อยครับ ก็ดูสิครับ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่รู้หน้าไหนเป็นหน้าไหน ผมก็ปรับตัวไม่ทัน ที่โน่นก็หิมะตก พอมาเจออากาศเมืองไทยก็แปรปรวนนิดหน่อยครับ”
“รักษาสุขภาพนะลูก อย่าหักโหมนัก”
“ขอบคุณครับ คุณแม่เป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดของผมเสมอเลย” ภาสกรยิ้มประจบมารดา แล้วเปิดประตูให้ท่าน
“แหม แม่ไม่ได้อยากได้คำชมหรอกลูก แม่อยากให้ลูกชายแม่เลิกลอยไปลอยมาคบผู้หญิงมั่วไปหมดแล้วได้สะใภ้ดีๆ กับหลานน่ารักๆ มากกว่า..” คุณปานวาดพูดยิ้มๆ
“คุณแม่ล่ะก็.. สาวๆ พวกนั้นก็แค่ชั่วคราวและมีไว้คลายเครียดประสาผู้ชายเท่านั้นล่ะครับ ไม่มีใครที่ผมจริงจังด้วยสักคน”
“แล้วแม่นางแบบ ลูกคุณหญิงอะไรนั่นล่ะ ไปเหวี่ยงไปวีนที่บริษัทเราน่ะ คืออะไร แม่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้นนะลูก ถึงจะชาติตระกูลดีมีหน้ามีตาแต่นิสัยแย่ก็ไม่ได้อยากเอามาสืบสกุลนะจ๊ะ”
คุณปานวาดพาดพิงถึง แพรวา ลูกสาว คุณหญิงศจี ภรรยาอดีตนายพลใหญ่คนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งแพรวาเป็นสาวสังคมที่สวยเฉิดฉายและยังเป็นนางแบบสาวไฮโซที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้... และแม้ว่าครอบครัวของคุณหญิงศจีจะเคยมีบุญคุณกับนางแต่นางก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับคุณหญิงศจีไม่ว่าทางไหน...
“โหย คุณแม่แรงงงงง อะ..” ภาสกรขันมารดา คุณปานวาดมองลูกชายตาเขียวแล้วค้อนให้อย่างแง่งอน...
“อย่าเอามาเป็นสะใภ้แม่เชียวนะ ไม่งั้นเราขาดกันแน่”
“ครับ รับรองคนที่จะมาเป็นศรีสะใภ้ของคุณแม่ถูกใจแน่นอน..”
“ย่ะ ขอให้จริงเถอะ ไปๆ แม่จะนอนแล้ว..” คุณปานวาดตัดบทลูกชายแล้วเอียงแก้มให้ภาสกรหอมแก้มทั้งซ้ายขวา
“ราตรีสวัสดิ์ครับ คุณแม่ รีบไปเดี๋ยวผมโดนคุณพ่อเตะเอา” ภาสกรหลิ่วตาให้ผู้เป็นพ่อที่ยืนกอดอกมองอยู่ด้านหลังมารดาแล้วรีบปิดประตูให้ท่านอย่างรวดเร็ว
