บทที่ 2 มั่นใจ
เรื่องผู้หญิงฉันรู้นะว่ามันต้องมีบ้างเนื่องจากเทน แฟนฉันเป็นคนหล่อ ผิวขาวจนซีดนิสัยร่านมากอ่อยไปทั่วก็เลยมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันมากเป็นพิเศษและยังเป็นหนึ่งในกลุ่มวายร้าย Villain แต่ทว่าวันๆ ไม่ทำอะไรหรอกไปเรียนก็บางครั้งบางครานอกจากนั้นก็ยังเป็นนักร้องตำแหน่งแร็พในคลับใต้ดินที่ตัวเองหุ้นกับเพื่อน
“ช่างมั่นใจเหลือเกินนะยะ”
“อ่ะแน่นอน นี่ใครมิลล์ดาวคณะบริหารไม่ใช่หรอ”
ฉันชี้นิ้วมายังตรงหน้าอกของตัวเองด้วยความมั่นหน้าและก็มั่นใจแบบเต็มร้อยเพราะเชื่อว่าตัวเองจะปราบเทนอยู่ไม่งั้นคงไม่เข้าไปจีบตั้งแต่แรกให้มันเสียเวลาหรอก
“จ๊ะแม่คนมั่นเบ้าหน้ ขึ้นไปเรียนไปแล้ว!”
ว่าแล้วทั้งฉันและนาซีก็เก็บเครื่องสำอางทั้งหมดลงกระเป๋าใบสวยก่อนที่จะรีบลุกออกจากโต๊ะตรงขึ้นตึกเพื่อเข้าเรียน
ปึก!
“เฮ้ย! ยัยมิลล์เป็นไรไหม?”
ถ้าไม่มียัยนาซีเข้ามาช่วยประคองไว้ร่างก็คงร่วงไปกองอยู่ตรงพื้นต่อหน้าสายตานักศึกษาหลายคนที่มองดูเหตุการณ์นี้
“ไม่เป็นไรขอบใจแก”
ฉันพูดขึ้นกับยัยนาซีและจัดการกับตัวเองให้ยืนได้ด้วยตัวเองจากนั้นก็มองไปสบตากับผู้หญิงที่กำลังยืนยิ้มเหยียดตรงมุมปากด้วยความสะใจในการกระทำของตัวเอง
“ตาบอดหรือไง?”
ประโยคถัดไปฉันพูดกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ รู้ไหมมันเป็นใคร มันชื่อว่าแพทชาหรือเรียกว่าอีแพท เราเป็นคู่แข่งกันทุกอย่างตั้งแต่เข้ามาปีหนึ่งจนถึงปัจจุบันปีสามก็ยังไม่มีใครยอมใคร
“ไม่ก็แค่อยากชน”
คำพูดส่งมาพร้อมกับสายตาที่ท้าทายอย่างเปิดเผยส่งมาให้กับฉัน อยู่ดีๆ คงไม่ชอบ รู้ว่าแข่งอะไรกับคนอย่างฉันผลออกมาก็ต้องแพ้ แพ้ตลอดเรื่องเทนก็ใช่กัน
“สงสัยมีปัญหาทางจิตตรวจบ้างนะจะได้ไม่สายเกิน”
คิดหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมไม่มีทางเป็นอย่างแน่นอน
“นังมิลล์!”
“อะไรนังแพท!”
ตาต่อตาที่จ้องกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่รู้ว่าไปแค้นอะไรกันมานักหนาในขนาดที่ฉันเป็นคนกลางและคนใกล้สุดที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกหวั่นๆ ศึกระหว่างยัยมิลล์กับนังแพท ยังไงที่นี่ก็มหาลัยจะให้มีเรื่องกันมันไม่เหมาะจริงๆ
“มิลล์ไปเถอะอย่ามีเรื่องเลยวะ”
ยัยนาซีเข้ามากระชากต้นแขนของฉันเพื่อที่ต้องการจะห้ามทัพ ถ้าฉันคิดจะตบกับนังแพทป่านนี้ก็คงลุยไปแล้วล่ะ ลองเจอข้างนอกไม่เหลือแน่ที่ไม่ตบตอนนี้ก็ถ้ามีเรื่องอีกครั้งได้ออกจากมหาลัยแน่ครั้งนี้ต้องใจเย็น
“…”
“เหอะ! ที่แท้ก็ไม่แน่จริง”
เสียงแพทพูดดังขึ้นเหมือนจงใจที่จะพูดยั่วอารมณ์ของคู่ปรับของตัวเองที่ใจร้อนใช่เล่น
“คนอย่างฉันแน่อยู่แล้วถ้าไม่แน่คงไม่ได้เทนมาครอบครองหรอกว่าไหมเอ๊ะ! แต่เท่าที่จำได้เหมือนเขาจะทิ้งแกมานะ”
“…”
มันเป็นคำพูดที่กวนประสาทของนังแพทได้มากถ้าพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงกร่ำเพราะความโกรธ
“จริงไหมล่ะ?”
ริมฝีปากสวยยกยิ้มขึ้นอย่างเหยียดๆ ไม่บอกก็รับรู้ได้ว่าเธอเป็นต่อมากแค่ไหน ความสมเพชที่ถูกส่งออกมาจากแววตายิ่งเป็นชนวนให้คู่แข่งเดือดจนระงับอารมณ์ไม่อยู่
“นังมิลล์!”
“จุ๊ๆ ไม่เอานะ อย่าเดือดไปอย่าลืมสิสายของเทนมีอยู่ทั่วนะ” ฉันเข้าไปใกล้ประชิดนังแพทให้ได้ยินกันสองคน “โถ่ ..ช่างน่าสงสาร”
ปึก!
“อุ้ย ซุ่มซ่ามอีกล่ะเรา ของโทษนะแพท ไม่เป็นไรใช่ไหมจ๊ะหนังเธอด้านบวกหนาเสียด้วยแค่นี้คงไม่สะเทือน” ด้านสตอของฉันก็มีเหลือเฟื้อนะจะบอกให้ขอเพียงให้ได้งัดมาใช้เถอะ “ไปกันเถอะยัยนาซี ยืนอยู่ที่นี่นานอาจจะกลายเป็นหมาที่ถูกทิ้งเหมือนคนบางคน!”
คอนโด TM เวลา 02.45
แกร็ก!
“ทำไมไม่กลับห้องไปกับเด็กอีกแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงเงยขึ้นจากพื้นเล็กน้อยเผยให้เห็นสายตาสีเทาหม่นเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะหลุบกลับไปเหมือนเดิม เขาผลักผู้หญิงหุ่นสวยที่ยืนขวางหน้าออกไปให้พ้นทางอย่างเบื่อหน่ายเพื่อจะมุ่งหน้าไปยังเตียงนอนที่แสนโหยหา
“…”
หมับ!
“ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้นะเทน!”
