ตอนที่ 6
จบมื้ออาหารเที่ยงทุกคนต่างแยกย้ายกัน เรนิกาสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม ทิวากรมองเธอนึกแปลกใจ
“มีอะไรกับพี่เหรอเรน”
“เอ่อ... เรนขอติดรถกลับบ้านด้วยนะคะ พอดีเมื่อเช้ามาแท็กซี่เรนยังขับรถไม่คล่องเท่าไหร่ค่ะ”ความจริงเธอแค่อ้างเท่านั้น เพราะต้องการนั่งรถไปกับเขา
ทิวากรคิดหนักเพราะไม่อยากทำตัวสนิทสนมมากกว่านี้ ไม่อยากให้มารดาคิดเป็นอื่นอีก เวลานี้เขายังไม่พร้อมรับใครเข้ามาในชีวิต
“พี่ต้องเข้าบริษัทครับ ขอโทษด้วยนะ”พยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวลที่สุด
“แกเข้าบริษัทด้วยเหรอไอ้ทิวา วันนี้งานไม่มีแล้วไม่ใช่หรือไง!”เพื่อนปากมากของเขาแย้งออกมาทันที ทิวากรหันขวับจ้องมองตาเขียวขุ่น
หญิงสาวหันมองด้วยความไม่เข้าใจ เธอทำอะไรให้เขาไม่ชอบใจหรือเปล่า ความจริง... แค่อยากสนิทสนมมากขึ้นไปอีก ต้องการทำความรู้จักสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันให้มากกว่านี้ อยากรู้... ในใจของพี่ทิวานั้นมีสิ่งใดซ่อนอยู่แววตาถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายอบอุ่นมากแท้ๆ
เรนิกายังจำได้ดีวันฝนตกหนักใต้ร่มไม้ใหญ่ อ้อมกอดของเขาทั้งอบอุ่น ปลอดภัย จะว่าตลกก็ได้... เธอรู้สึกชอบเขามากตั้งแต่วันนั้น เหมือนไม่เคยได้พบพานผู้ชายคนไหนที่สามารถทำให้ใจเต้นโครมครามเฉกเช่นเขาเลย
“ขอโทษถ้าเรนทำให้พี่ทิวาลำบากใจ เรนไม่ได้ตั้งใจค่ะ”เสียงเครือเอ่ยออกมา สะบัดหน้าหันหลังเดินจ้ำออกไปนอกร้าน อรนลินขมวดคิ้ววิ่งตามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
ทิวากรนิ่งซึมเกิดคำถามมากมายในหัวใจ เขาผิดหรือเปล่า... ไม่ควรเลยจริงๆ เขาไม่ต้องการให้ใครมารักเลย ผู้ชายเฉกเช่นเขาไร้หัวใจไปแล้ว ขออย่าให้หญิงคนไหนมายึดติดกับเขาเลย
“เรน! เรน! เดี๋ยวก่อน!”อรนลินวิ่งตามเพื่อนพร้อมตะโกนเรียกชื่อไปด้วย
เรนิกาหูอื้อไปหมดเส้นทางที่วิ่งพร่ามัวเพราะหยาดน้ำตา จนมองภาพไม่ชัด นึกรังเกียจตัวเองชะมัด เขาไม่สนใจยังจะทำเป็นหญิงใจง่ายตามตื้อเขาอยู่ได้ การกระทำของเธอช่างน่าอับอาย ก่อนหน้ามีผู้ชายเข้ามาพัวพันเธอไม่เคยเสนอตัวต้องการสนิทสนม พอนึกได้รู้สึกหน้าชาที่โดนเขาปฏิเสธมาเช่นนี้
“อุ้ย!”เธอสะดุดล้มลงกองแทบพื้น แล้วร้องออกมา มองหัวเข่าเลือดกำลังไหลซึม
“เป็นอะไรหรือเปล่าเรน!”อรนลินรีบเข้าไปประคอง
“ไม่เป็นไร เราไม่เป็นไรอร”
ดวงตาเรียวคมมองภาพสองสาวผ่านกระจกหน้าต่างในร้าน พสินขบกรามกำมือแน่นหันมองเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ
“ไอ้ทิวาแกมีหัวใจหรือเปล่าวะ!”พสินจ้ำพรวดออกนอกร้านด้วยความเดือดดาลกับท่าทีเมินเฉยของเพื่อน
เพื่อนหนุ่มของทิวากรรีบวิ่งไปหาสองสาวย่อกายนั่งลงดูแผลตรงหัวเข่าสาวน้อยน่ารัก เขารีบช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนเรนิกาตระหนกตกใจกับการกระทำแบบกะทันหันของเขา
“ปล่อยเรนเถอะค่ะ เรนเดินเองได้!”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง เจ็บขนาดนี้เดินไม่ได้หรอกครับ อีกอย่าง... เผื่อพี่จะทำให้ไอ้ทิวามันหึงเรนได้”พสินแกล้งหยอก คนโดนอุ้มใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา
“พี่ทิวาไม่มีทางหึงเรนหรอกค่ะ เพราะพี่ทิวาไม่ชอบเรนเลยสักนิด”
“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ ไอ้ทิวามันเป็นคนปากแข็ง อีกอย่างมันเป็นพวกเด็กมีปัญหาปมชีวิตมันเยอะ!”
“เหรอคะ แล้วพี่พสินทราบหรือเปล่าว่าพี่ทิวามีปมอะไร”คำถามนี้ทำเอาพสินพูดไม่ออก เรื่องราวในอดีตของเพื่อนเขาเองก็ไม่อยากรื้อฟื้น
“พี่เองก็ไม่รู้หรอกครับ รู้แต่ว่าไอ้ทิวามันเจ็บปวดกับเรื่องนั้นมาก”
เรนิกาเงียบไป บางที... การที่พี่ทิวาไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเธอนั้น อาจเพราะมีเรื่องในอดีต หรือไม่... เขาคงเกลียดเธอจริงๆ
ทิวากรยืนมองเพื่อนตัวเองอุ้มว่าที่คู่หมายไปที่รถ คิ้วหนาขมวดมุ่นแววตาสับสน ลมหายใจติดขัดอาการเหล่านี้คืออะไร หัวใจเต้นผิดจังหวะจนจับไม่ได้ นี่เขา... กำลังเป็นอะไรไป ทำไม... ถึงได้มีอาการแบบนี้ คงไม่ใช่... เขาไม่ได้คิดอะไรกับน้องเรน คนอย่างเขามันไร้ซึ่งหัวใจไปนานแล้ว
