บท
ตั้งค่า

บทที่๑ โลกใบใหม่และจุดเริ่มต้น

 หลังจากที่จัดการกับเจ้าตัวประหลาดจนหัวขาดสะบั้นก็ทำให้พวกมันที่เหลือถึงกับตกตลึง เจ้าตัวหัวหน้าจึงรีบสั่งอีกตัวหนึ่งเข้าไปจัดการทันที มันถือขวานเล่มใหญ่พร้อมกับกระโจนเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว มันเงื้อขวานขึ้นเหนือหัวพร้อมกับสับลงมา เขาเหวี่ยงตัวหลบขวานยักษ์ได้อย่างหวุดหวิด ในจังหวะนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบใหญ่สวนกลับไปหาศัตรูที่เข้ามาโจมตี ดาบใหญ่ได้ฟันทะลุเกราะหนังเข้าไปที่เอวแต่ไม่ทันที่เอวของมันจะขาดสะบั้น มันรีบเอามือทั้งสองข้างของมันมาจับดาบของเขาเพื่อหยุดจังหวะการฟัน เขาพยายามดึงดาบนั้นออกจากเจ้าร่างใหญ่ที่สูงสองเมตร แต่ทันใดนั้นเจ้าตัวหัวหน้ามันก็พุ่งมาหาและเหวี่ยงขวานตัดผ่านอากาศหมายจะฟันเขาให้ตายไปพร้อมกับพวกของมันเอง แต่ด้วยสัญชาติญาณเขาจึงต้องปล่อยดาบที่ยังคงติดอยู่กับเจ้าออร์คตัวนั้น และก้มตัวลงเพื่อกลิ้งหลบขวาน ทำให้ขวานของมันฟันเข้าไปที่ลูกน้องของมันแทน

     “แกอย่าพึ่งดีใจไป เพียงเพราะสามารถจัดการกับพวกออร์คเกิดใหม่ได้ เพราะข้ามันต่างจากเจ้าพวกนั้นมาก” มันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน และแสยะยิ้มทำให้เห็นเขี้ยวสีเหลือง

     “อย่างงั้นเองรึ” เพอร์สันกล่าวท้าทาย ‘ร่างกายนี้ยังอ่อนแอนักมันทำให้ข้าใช้พลังได้ไม่มาก ข้าต้องทำอะไรสักอย่างกับร่างนี้สักหน่อย แต่ตอนนี้คงต้องให้พ้นจากสถานการณ์ตอนนี้ไปซะก่อน’ เขาคิดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ

     แต่ดูเหมือนว่าเจ้าออร์คมันจะไม่ยอมให้เพอร์สันหาวิธีรับมือ มันปล่อยคลื่นพลังงานอะไรบางอย่างที่ทำให้เพอร์สันสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของมันที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่มันจะพุ่งไปหาเขาพร้อมเหวี่ยงขวานออกไปทางขวางอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเขาก็กระโดดลอยตัวขึ้นข้ามเหนือหัวของมัน เมื่อถึงพื้นเขากลิ้งตัวไปคว้าเอาดาบที่เคยฟันทิ้งไว้จากร่างทีไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่งอยู่บนซากไม้เปลื่อย เจ้าออร์คตัวนั้นหันกลับมาและพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาคงหลบการโจมตีจากมันไม่ทันที่ทำได้ก็คือต้องปะทะกับขวานของมันเท่านั้น

     “อึ้ก!!” เขากัดฟันแน่นเมื่อรับแรงปะทะกับเจ้าตัวประหลาด ดูเหมือนว่าร่างกายใหม่ของเขาจะไม่คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้เท่าใดนัก ดาบของเขาเกิดรอยร้าวขึ้นเมื่อปะทะกับขวานที่ห่อหุ้มด้วยพลังบางอย่าง

     “ไม่ได้ใช้พลังจิตวิญญาณหรือพลังธาตุรึ? แล้วทำไมมนุษย์อย่างเจ้าถึงรับแรงปะทะของข้าได้” มันกล่าวขณะที่กระหน่ำฟันไม่ยั้ง สิ่งที่มันพูดทำให้เขารู้ว่าพลังที่ห่อหุ้มขวานอยู่นั้นคือพลังจิตวิญญาณหรือพลังเวทที่มันกล่าวถึง

     ความสามารถในการต่อสู้ของมันเหนือกว่าเจ้าสองตัวก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังไม่เกินความสามารถของเขา จังหวะนั้นเองเขาใช้ดาบแทงสวนขึ้นไปทางด้านข้างของใบขวาน เขาหมุนข้อมือเพื่อเบี่ยงขวานมันออกไปด้านข้างก่อนที่เขาจะเข้ามาคลุกวงในและใช้ดาบแทงใต้คางของมันจนทะลุสมอง มันครางออกมาอย่างทรมานแต่ไม่สามารถขยับปากได้เพราะมีดาบเสียบคาไว้อยู่

     “ข้าจะบอกให้ ว่าข้าเป็นอะไร”เขาบอก ก่อนที่จะมากระซิบเบา ๆ ด้วยเสียงที่แหบแห้งและชวนให้ขนลุก ที่ข้างหูใบแหลมของเจ้าออร์คตัวนั้น “ข้าคือปีศาจ” จากตาสีฟ้าทะเลของเด็กหนุ่มกลายเป็นดวงตาสีแดงกล่ำพร้อมกลับมีเขี้ยวแหลมงอกออกมา ออร์คตัวนั้นเหลือบไปมองเขาผ่านหางตาก่อนที่ฟันของเขาจะฝังเข้าไปที่ต้นคอ เพียงไม่นานเลือดในร่างกายของเจ้าออร์คตัวนั้นก็หมดสิ้นไป เขาทิ้งร่างอันไร้วิญญาณของมันหลงพื้น ก่อนที่จะใช้ลิ้นเลียคราบเลือดที่ติดอยู่มุมปาก ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงพลังงานบางอย่างแปลก ๆ รอบตัว

     “ความรู้สึกแปลก ๆ นี้! หรือเป็นเพราะว่าข้าดื่มเลือดของเจ้าอัปลักษณ์นี่งั้นรึ ” เขาพูดพึมพำอย่างสงสัย “ไอ้ตัวประหลาดแบบนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน นี้มันที่ไหนกันนะทางเดียวที่จะรู้ข้าคงต้องกลับไปบ้านหลังนั้น แต่ก่อนอื่นคงต้องหาของมีค่าจากเจ้าพวกนี้ก่อน”

     เพอร์สันเริ่มจากเจ้าตัวหัวหน้าและตามด้วยตัวอื่น ๆ ตอนนี้สิ่งที่เขาเอาไปก็คือขวานของเจ้าตัวหัวหน้า และกระเป๋าพาดเอวสำหรับเก็บมีด หลังจากนั้นเขาจึงมุ่งหน้าเดินทางกลับไปที่บ้านหลังเล็กหลังเดิม ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงสู่พื้นป่า ดวงจันทร์เริ่มลอยขึ้นมาแทนที่เหมือนทุกวัน เขาเดินทางมานานเกือบชั่วโมงในยามค่ำคืนอันเงียบสงัดในที่สุดเขาก็มาถึงจุดหมาย เขาเปิดประตูและเข้าไปในบ้านหลังนั้นที่ปกคลุมไปด้วยความมืด แต่ก็ไม่เป็นผลกับเขาเพราะตาของเขาสามารถมองเห็นในความมืดได้ เขาเริ่มสำรวจในห้องนอนแต่ก็ไม่พบอะไรที่เป็นเอกสารสำคัญเลย พบเพียงแต่แหวนวงหนึ่งที่ซ่อนอยู่หัวเตียงเขาหยิบมันใส่กระเป๋ากางเกง และเดินออกมาหาเอกสารในห้องโถงต่อ ในที่สุดเขาก็พบกองกระดาษหลายแผ่นและหนังสือสองสามเล่มที่เก็บไว้ในหีบเหล็ก ซึ่งหีบกล่องนี้วางไว้ใต้โต๊ะทำงานเก่า ๆ ที่ทำจากไม้เนื้อดี เขาเปิดเอกสารและหนังสือขึ้นมาอ่าน

     “หืม!! ไม่จริงน่า”เพอร์สันขมวดคิ้วในเอกสารที่เขากำลังนั่งอ่านอยู่บนเก้าอี้ไม้แข็ง ๆ

โลกใบนี้มีด้วยกันสามทวีปแต่มีสองทวีปที่ไม่มีข้อมูล ทวีปที่มีข้อมูลอยู่มีชื่อว่าทวีปกลอเลียส ซึ่งแบ่งได้หลายอาณาจักรและเผ่าพันธุ์มากมายรวมถึงเผ่าพันธุ์ออร์คที่เขาเคยสู้ด้วย และยังมีสัตว์วิเศษต่าง ๆ รวมอยู่ด้วย ที่ทวีปนี้มีสิ่งที่เรียกว่าผู้ใช้จิตวิญญาณและผู้ใช้ธาตุอยู่ ซึ่งทั้งสองมีพลังที่แตกต่างกันและพลังอย่างใดอย่างหนึ่งจะติดตัวสิ่งมีชีวิตตั้งแต่เกิดมา แต่ก็มีหลายคนบนโลนี้ที่ไม่มีพลังทั้งสองอย่าง

     ผู้ใช้จิตวิญญาณคือผู้มีความสามารถในการเสริมพลังต่าง ๆ ให้กับร่างกาย รวมทั้งเสริมพลังให้กับอาวุธของตัวเองได้ แบ่งเป็นแปดระดับ ในแต่ระดับมีทั้งหมดสิบขั้น

    ระดับก่อเกิด

ระดับผู้กล้า

 ระดับพาราดิน

ระดับจอมทัพ

ระดับจอมราชันย์

ระดับจักพรรดิ

ระดับพระเจ้า

จิตวิญญาณลี้ลับ

     ผู้ใช้ธาตุคือผู้ที่สามารถใช้พลังธรรมชาติได้ ซึ่งมีทั้งหมดมีแปดธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ พืช สายฟ้า มืด และแสง ผู้มีพลังแห่งธาตุจะสามารถควบคุมได้สองธาตุ แบ่งเป็นแปดระดับ  ในแต่ระดับมีทั้งหมดสิบขั้น

ระดับก่อเกิด

ระดับผู้กล้า

ระดับมหาธาตุ

ระดับจอมธาตุ

 ระดับจอมราชันย์

ระดับจักพรรดิ

ระดับพระเจ้า

จิตวิญญาณลี้ลับ

     “เป็นโลกที่เหนือจินตนาการยิ่งนัก แล้วร่างนี้มีพลังแบบไหนกันนะ?” เพอร์สันเอามือลูบคาง ในใจเขาตอนนี้มีทั้งความตกใจและความตื่นเต้นกับโลกใหม่แห่งนี้ เขาก้มลงอ่านเอกสารต่อไปเรื่อย ๆ “หืม! ร่างนี้มีชื่อว่าเพอร์สัน!! ชีวิตข้ามันช่างตลกร้ายนัก นี่มันเรื่องบังเอิญหรือเป็นเพราะฟ้าจงใจกันนะ” เขาพูดพึมพำขณะคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อดี

....................................................................................................................

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel