ตามหาคนมีกลิ่นเลือดบริสุทธิ์ 1.2
รถตู้สีดำพาพระนายและเอกรินทร์หัวหน้างานมายังคฤหาสน์หรูที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท้ายซอยแวมไพร์ อันเป็นที่พักอาศัยของภาคินทร์ อีแวนสัน เจ้าของบริษัทดิไอเทม ที่น้อยคนนักจะได้พบเจอเขาแบบตัวเป็น ๆ
“สวัสดีค่ะ คุณท่านรออยู่ที่ชั้นสามค่ะ”
กิ่งแก้ว แม่บ้านประจำคฤหาสน์ออกมาต้อนรับหลังจากที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านายว่าจะมีแขกคนสำคัญมาหา
“กิ่งแก้ว!!!”
“คะ!!! คุณเพลงพร”
“ไปเตรียมห้องรับแขก คุณท่านเปลี่ยนใจจะลงมา ไม่ต้องให้แขกขึ้นไป”
เพลงพรปรากฏตัวที่ด้านหลังของกิ่งแก้วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะมองไปยังแขกที่มาเยือนว่ามีคนอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจเชื้อเชิญปรากฏตัวอยู่ด้วย และนั่นทำให้เพลงพรจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน
“เชิญทางนี้ค่ะ ไม่เห็นคุณพระนายบอกว่าจะมีคนอื่นมาด้วย”
“ผมต้องขอโทษทางคุณภาคินทร์กับคุณเพลงพรด้วยนะครับ คนนี้คือคุณเอกรินทร์ เขาเป็นหัวหน้าของผมเอง”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นทั้งสองคนนั่งรอสักครู่นะคะ กิ่งแก้วไปเอาน้ำกับของว่างมาให้คุณเขา”
เพลงพรหันไปสั่งงานแม่บ้านแล้วเดินหายขึ้นไปที่ชั้นสามเพื่อไปแจ้งข่าวให้กับภาคินทร์ว่า คนที่เขาต้องการพบมารออยู่แล้ว
“บ้านโคตรใหญ่”
“จริงครับ ว่าแต่หัวหน้าเคยเห็นหน้าคุณภาคินทร์มาก่อนไหมครับ”
“ไม่เคย เขาค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว ส่วนใหญ่ก็มีแต่เลขาฯ อย่างคุณเพลงพรคอยออกมาจัดการทุกอย่างให้ตลอด วันนี้ผมถึงต้องมากับคุณด้วยนี่ไง”
ไม่นานน้ำดื่มพร้อมด้วยของว่างก็ถูกยกมาเสิร์ฟให้กับแขกคนสำคัญ ก่อนที่กิ่งแก้วจะขอตัวไปจัดการงานในส่วนอื่นของเธอต่อ
“คุณภาคินทร์มาแล้วค่ะ”
เสียงของเพลงพรทำให้ทั้งสองคนที่กำลังนั่งคุยกันจำเป็นต้องยุติหัวข้อสนทนา ด้วยบุคคลตรงหน้ามีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
ภาคินทร์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำเช่นเดียวกันกับกางเกงตัดกับเนกไทสีแดงบริเวณต้นคอ ด้วยสีผมที่โดดเด่นรวมถึงดวงตาสองสี ทำให้ผู้พบเจอไม่อาจละสายตาได้แม้แต่วินาทีเดียว
ถ้าจะบอกว่าหล่อก็สามารถพูดได้เต็มปาก แต่ก็เป็นความหล่อที่ดูลึกลับมีอะไรบางอย่างภายใต้ความงดงามนั่นอยู่ตลอดเวลา
เหตุเพราะภาคินทร์คือลูกผสมระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ชั้นสูง เขาจึงสามารถใช้ชีวิตในเวลากลางวันได้เฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป หากแต่พละ กำลังต่าง ๆ อาจจะไม่ได้แข็งแรงเทียบเท่ากับในยามราตรี แต่นั่นก็ทำให้เขาอยู่เหนือแวมไพร์ทั้งปวง
“สวัสดีครับคุณภาคินทร์”
“เชิญนั่งครับ”
ภาคินทร์จ้องมองพระนายไม่วางตา
โดยปกติแล้วกลิ่นเลือดบริสุทธิ์ของมนุษย์เขาจะสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่บุคคลนั้นเข้ามาอยู่ในเขตของแวมไพร์
แต่ทว่าอาจจะด้วยตอนนี้อยู่ในช่วงเวลากลางวันจึงทำให้ภาคินทร์ไม่สามารถได้กลิ่นเลือดจากภายในตัวของพระนายได้
ใบหน้าของพระนายที่เขาเห็นในความฝันตลอดช่วงหลายวันมานี้ เขาจดจำมันได้ดี
“นี่ครับสัญญาที่ทางคุณเพลงพรให้ผมไปร่างมา รวมถึงรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ผมใส่มาในแฟ้มทั้งหมดแล้ว”
พระนายส่งแฟ้มให้กับภาคินทร์ ก่อนที่แฟ้มจะถูกส่งต่อให้เลขานุการคนสนิทอย่างเพลงพรตรวจสอบ
“บ้านสวยดีนะครับ”
เอกรินทร์พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยไม่อยากให้สถานการณ์มันดูตึงเครียดจนเกินไป แต่มันก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ภาคินทร์จะปรายตามองตามเสียงของเอกรินทร์แล้วกลับมาให้ความสนใจพระนายเช่นเดิม
การกระทำแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นสร้างความรู้สึกขนลุกให้กับเอกรินทร์โดยไม่ทราบสาเหตุ
“เรียบร้อยดีค่ะคุณท่าน”
ภาคินทร์แทบไม่ต้องอ่านทบทวนซ้ำแต่อย่างใด เขาเพียงจรดปลายปากกาเซ็นสัญญามูลค่าหลายสิบล้านโดยมิลังเล
“คุณเคยได้ยินประวัติความเป็นมาของชื่อซอยแห่งนี้ไหมครับ”
แฟ้มถูกปิดลง ก่อนที่ภาคินทร์จะเงยหน้าขึ้นสบตาแขกทั้งสองคนอย่างใคร่รู้ในคำตอบ
“ก็เคยได้ยินมาบ้างนะครับ แต่เท่าที่ฟังมาก็ดูเป็นเรื่องไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไร”
“เช่นอะไรเหรอครับที่คุณเอกรินทร์คิดว่าไม่ค่อยน่าเชื่อ”
ภาคินทร์เอนตัวนั่งกอดอกพิงโซฟาด้วยท่าทีผ่อนคลาย คล้ายกับกำลังรอฟังว่าเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนได้ยินมาเกี่ยวกับเรื่องเล่าในซอยนี้คืออะไร
