แรกรักหวานล้ำ My Beloved

81.0K · จบแล้ว
เทียนเหอ
63
บท
542
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปกป้องเกลียดชังลูกเมียน้อยอย่างส้มหวานจนเข้าไส้ ทว่าวันแรกที่ทั้งคู่พบกัน เขากลับพลั้งเผลอจูบเธอไปโดยไม่ตั้งใจ และตอบแทนจูบนั้นด้วยการสั่งให้เธอต้องระเห็จออกจากบ้านศุภสวัสดิ์ไป สี่ปีต่อมา ส้มหวานจำเป็นต้องผิดคำสัญญา หวนคืนกลับมาคืนที่บ้านหลังนี้อีกครั้งเพื่อดูแลผู้มีพระคุณ และหนึ่งในหน้าที่สำคัญนั้นรวมไปถึงการต้องใกล้ชิดและช่วยงานปกป้อง ซึ่งรับหน้าที่ท่านประธานคนใหม่ด้วย เธอถูกเขากลั่นแกล้งรังแกสารพัด แต่เพราะแอบรักตั้งแต่แรกพบ เธอจึงมองว่าความร้ายกาจของเขานั้น...กลายเป็นสิ่งที่น่ารักเสียมากกว่า ส้มหวานไม่รู้หรอกว่าเธอมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า แต่ขอเพียงแค่ชายที่เป็นรักแรกมีความสุข ความฝันหวานล้ำของเธอก็ถูกเติมเต็มแล้ว ********** “แต่คุณแม่บอกว่าลูกไม้มักหล่นไม่ไกลต้น ฉันเองก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัยเธอกับแม่ของเธอ ส้มหวาน…เธอบอกว่าเวลาจะพิสูจน์การกระทำของเธอเอง เอาเป็นว่ารอให้คุณพ่อหายดีแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีเถอะนะ” “ไม่ค่ะ ส้มไม่อยากรอแล้ว ส้มจะพิสูจน์ให้คุณป้องรู้เดี๋ยวนี้เลยว่าส้มไม่ได้ทำอย่างที่คุณดุจดาวพูด แล้วก็ไม่เคยทำอะไรก็ตามอย่างที่คุณคิด!” หญิงสาวอาศัยจังหวะที่เขาไม่ทันตั้งตัว เขย่งปลายเท้าพร้อมกับโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาจูบ เธอไม่ได้ใช้ปากแตะปากแบบที่เขาเคยทำ ทว่าจูบเน้น ๆ ที่ริมฝีปากหยักและเผยอปากน้อย ๆ เมื่อสัมผัสได้ว่าเขารุกเร้าดุดันกลับมา จนตัวเองแทบจะหมดลมหายใจนั่นแหละถึงได้ดันอกกว้างออกอย่างไม่จริงจังนัก “ช้าหน่อยสิคะ ส้มหายใจไม่ทัน…” “ฉัน…ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ชายหนุ่มพูดสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคิดโดยสิ้นเชิง เขาอยากจูบส้มหวานมาตั้งนานแล้ว… “แต่ส้มตั้งใจค่ะ ส้มอยากให้คุณจูบส้ม…” คนใจกล้ากลั้นหายใจ หลับตาครู่เดียวก็เปิดเปลือกตามองเขาอย่างเด็ดเดี่ยว “ส้มอยากให้คุณป้องทำมากกว่าจูบค่ะ” “แน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้ ฉัน…ฉันไม่อยากเอาเปรียบเธอ” “ส้มต่างหากที่เป็นฝ่ายเอาเปรียบคุณ คุณคงไม่รู้ว่าส้มแอบชอบคุณตั้งแต่วันแรกที่เราสองคนพบกัน…” หญิงสาวมองตาชายที่เธอรักและเทิดทูนอย่างแน่วแน่ ไม่ได้กังวลกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะถ้าอีกฝ่ายคือคุณปกป้องแสนดี เธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจและเข้าใจเธอให้ถูกต้องเสียที “ทุกอย่างที่ส้มเลือก ส้มคิดดีแล้ว” “จริงนะ…” เขากระซิบถาม “แต่ถ้าคุณป้องไม่ต้องการ” ส้มหวานสบตาอีกฝ่ายแล้วก้มหน้างุด ความมั่นใจเหือดหายเมื่อความเงียบมาเยือน จนเธอทำท่าว่าจะไปเปิดประตูเชิญเจ้าของบ้านออกไปนั่นแหละ เขาถึงได้ดึงเธอเข้าไปกอดและเอ่ยประโยคที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามจนน่ากลัว “ถ้าเริ่มแล้วฉันคงไม่หยุดง่าย ๆ เธออย่ามาร้องไห้เสียใจทีหลังก็แล้วกัน…”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานนางเอกเก่งดราม่าครอบครัวใช้ความรุนแรงโรแมนติกคนธรรมดา

บทที่ 1

บรรยากาศของบ้านหลังใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยายังคงหม่นหมองและทำให้สมาชิกชั่วคราวรู้สึกหนาวเหน็บอย่างที่จำได้ หญิงสาวมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง ห่างจากครั้งแรกสี่ปี ทว่าความอึมครึมดุจเมฆฝนปกคลุมอยู่ไม่ได้จางหาย แม้ภายนอกจะมีแสงแดดส่องเข้ามาในบ้านก็ตาม

“คงไม่อยู่หรอกมั้ง?”

ส้มหวาน ทวีวัฒนา กระซิบถามตัวเอง กลัวเหลือเกินว่าเขาจะโกรธที่เธอไม่รักษาสัญญา โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก แต่ลึก ๆ ก็แอบคาดหวังว่าเขาจะเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องผิดคำพูดตัวเอง

บิดาของเขาล้มป่วยกะทันหันและต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ตามที่คุยกันเมื่อสักครู่ได้ความว่าแพทย์สั่งให้พักฟื้นนานสี่ถึงหกสัปดาห์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูสุขภาพหลังจากผ่าตัดครั้งใหญ่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด

‘ไหน ๆ ก็เรียนจบแล้ว ย้ายมาอยู่กรุงเทพเถอะนะหนูส้ม คุณเปรมจะได้สบายใจ’

คุณหญิงพิมพ์แข ศุภสวัสดิ์ อายุเจ็ดสิบห้าปีแล้ว แต่เค้าความงามของท่านยังคงชัดเจน บ่งบอกว่าสมัยสาว ๆ มีเสน่ห์ไม่น้อย ทั้งท่าทางยังกระฉับกระเฉงคล่องตัว สุขภาพดีกว่าคนในวัยเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้ส้มหวานประทับใจที่สุดคือท่านยังมีน้ำใจกับเธอไม่ต่างจากวันแรกที่ได้พบ

นิสัยข้อนี้ถูกถ่ายทอดให้กับลูกชายคนเดียวของท่าน ซึ่งก็คือผู้ใหญ่ใจดีที่อุปการะส้มหวานเมื่อหกปีก่อน ใบหน้าเปื้อนยิ้มอบอุ่นบอกเธอว่าอย่ากลัว ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี บอกด้วยว่าจะดูแลเธอกับแม่ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ

‘ไม่ต้องตกใจนะ แม่ของหนูปลอดภัยดี ส่วนพ่อ…’

คุณเปรม ศุภสวัสดิ์ ยิ้มปลอบใจเธอในวัยสิบหกปี สัญญาว่าจะช่วยเรื่องค่าเล่าเรียน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลให้กับมารดาที่เจ็บออด ๆ แอด ๆ ที่เดิมทีก็ไม่ใช่คนเข้มแข็ง ยิ่งพบพานกับเรื่องเลวร้ายด้วยแล้ว พลังที่จะต่อสู้กับปัญหาในชีวิตก็ยิ่งลดลง หากคุณเปรมไม่ยื่นมือเข้าช่วย สองแม่ลูกก็คงลำบากกว่านี้มาก

ในยามที่ท่านต้องการการดูแล เธอที่พึ่งใบบุญของครอบครัวนี้มาตลอดย่อมไม่อาจเพิกเฉย เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยการย้ายเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ เพื่อดูแลผู้มีพระคุณที่กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น งานด้านสุขภาพไม่ได้มีอะไรมากเพราะพยาบาลประจำตัวทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่เรื่องที่ยากกว่านั้นคือการควบคุมไม่ให้ท่านแอบทำงานหนักจนเกินไป

ส้มหวานเสียใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ลูกชายคนเดียวของท่านไม่สานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเพราะมีเรื่องไม่เข้าใจกัน แทนที่คุณเปรมจะได้เกษียณงานจึงยังต้องเข้าบริษัทเรื่อย ๆ แม้ฝ่ายบริหารจะทำหน้าที่ได้ดี แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ต้องเข้าไปดูแลด้วยตัวเองเพราะความโลภไม่เข้าใครออกใคร ในช่วงที่ท่านป่วยหนักก่อนหน้านั้นและวางใจให้ตัวแทนที่สนิทสนมกันมานานดูแลก็ยังสูญเสียไปหลายล้าน

โชคดีที่ครั้งนี้ทายาทเพียงคนเดียวเปลี่ยนใจยอมรับตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดา ผู้มีพระคุณของเธอจึงยอมพักฟื้นตามคำสั่งของหมอ แต่ก็มิวายขอตรวจดูความคืบหน้าของโพรเจกต์เรื่อย ๆ

ส้มหวานวางกระเป๋าเดินทางใบเล็กไว้ในห้องพักแขก ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ชั้นเดียวกับคุณหญิงพิมพ์แขและคุณเปรม เธอปฏิเสธแล้ว แต่คุณหญิงย่ายืนยันว่าให้พักใกล้ ๆ กัน หากคุณเปรมเรียกใช้จะได้สะดวก เธอจึงยอมรับอย่างเสียไม่ได้

“ใกล้มากไป…”

ห้องนอนของส้มหวานติดกับห้องของลูกชายเจ้าของบ้านที่เคยดีกับเธอ แต่เขาจำไม่ได้หรอกว่าดีอย่างไร เพราะครั้งแรกที่เจอกันเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นผู้หญิง คิดไปว่าเป็นเด็กชายที่ขายผลไม้อยู่ในตลาด แต่สำหรับเธอนั้นจำได้ไม่เคยลืม

ความเมตตาของเขาต่อชีวิตเธอกับแม่ไว้ ที่สำคัญคือเธอไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณใครง่าย ๆ แม้ว่าเขาจะ…รังเกียจเธอมากก็ตาม

“หาข้ออ้างกลับมาจนได้สินะ”

เสียงเย็นชาที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้ส้มหวานรู้สึกชาไปทั้งตัว ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามา อย่างแรกที่นึกได้คงเป็นความรู้สึกดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้ง ตามมาด้วยความกลัวว่าจะถูกลงโทษด้วยความเกลียดชังอย่างที่เขาเคยทำเมื่อหลายปีก่อน และสุดท้ายคงเป็นความเสียใจที่ต้องทนฟังคำพูดร้ายกาจ ทิ่มแทงหัวใจให้ปวดร้าว เปลี่ยนหญิงสาวที่เข้มแข็งคนหนึ่งให้กลายเป็นคนอ่อนแอ

“สวัสดีค่ะ คุณป้อง” ส้มหวานรวบรวมความกล้า วางผ้าที่พับไว้บนเตียงและหันไปเผชิญหน้ากับชายที่ชิงชังเธอที่สุดในโลก

ปกป้อง ศุภสวัสดิ์ ยืนพิงขอบประตูห้องนอน ดวงตาสีเข้มจ้องส้มหวานโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทว่ากดดันด้วยการทอดสายตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ริมฝีปากของเขายิ้มยั่วยุร้ายกาจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายังรู้สึกกับคนตรงหน้าไม่ต่างไปจากวันวาน

“แม่เธอคงส่งเธอมาดูแลพ่อฉันสินะ ฉลาดดีนี่” ชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้รุกเข้ามาหาส้มหวานอย่างที่เธอกลัว

“ฉันพูดด้วยทำไมไม่พูด เป็นใบ้หรือยังไง?”

“เปล่าค่ะ ส้มแค่ไม่รู้จะพูดอะไร”

“เธอกลับมาที่นี่ทำไม?”

“คุณย่าอยากให้ส้มช่วยดูแลคุณอาค่ะ”

“ถ้าแค่ดูแลก็แล้วไป…แต่อย่าคิดนะว่าฉันจะยอมให้เธอทำงานพิเศษอย่างอื่นด้วย”