แมรี่จางเธอข้ามมิติมาเพื่อแกร่ง

87.0K · จบแล้ว
ชาง/อาชาสีรุ้ง/SONG-PIA/นังเหมียว9ชีวิต
66
บท
888
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอข้ามมิติมาเพื่อเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวตนของเธอ การต่อสู้ของเธอได้เริ่มขึ้น โดยที่เธอไม่ได้เป็นผู้เลือก.. เด็กสาวที่เคยใช้ชีวิตธรรมดามาเป็นเวลาสิบห้าขวบปี บัดนี้ได้กลายเป็นจอมเวทย์ผู้แก่กล้าทั้งวิชาเวทย์และพลังแห่งเทวเทพ เจ้าแมวประหลาดที่ทำให้ชีวิตของเธอไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป เขาผู้นั้นที่ก้าวเข้ามาอยู่ในใจของเธอโดยที่เธอเองไม่เคยรู้ตัว... ความเป็นเลือดผสมของเธอ ทำให้เธอต้องถูกตามล่าด้วยความไม่เป็นธรรม จากเหล่าเทวเทพ และพวกของผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์ทั้งเจ็ด มาร่วมเดินทางออกไปผจญภัย กับแมรี่จางและผองเพื่อนกันเถอะค่ะ

นิยายแฟนตาซีนิยายผจญภัยนิยายเทพเซียนนิยายจีนโบราณพลิกชีวิตนางเอกเก่งข้ามมิติรักแรกพบต่างโลกผู้ชายอบอุ่น

Chapter 1

ปฐมบทของเรื่อง

เรื่องวุ่นๆ ของสาวน้อยที่มีชื่อเรียกว่า แมรี่จาง เธอผู้โดดเดี่ยว ที่อยู่ๆ ก็มีโอกาสช่วยเหลือชีวิตแมวน้อยตัวนึงเข้า แต่ว่า…แท้จริงแล้วมันไม่ใช่แค่แมวนะสิ

คืนวันที่ฝนกระหน่ำตกลงมา สายฟ้าก็ฟาดผ่านมาที่ตัวเธออย่างจัง…พลังถูกเปิดผนึกขึ้นมา ได้เวลาตื่นของพลังที่ถูกเก็บซ่อนไว้นานถึงสิบห้าปีแล้วสินะ….

เธอผู้นี้ถูกไล่ล่าเพียงเพราะมีสายเลือดสองสายวิ่งไหลรวมกันอยู่ภายในกายเพราะดันเกิดมาพร้อมกับคำทำนายที่กล่าวหาว่า “หากเธอดีเธอจะเป็นหนึ่งในเทพผู้แก่กล้า หากเธอร้ายทั่วทั้งฟ้าและดินจะต้องสั่นสะเทือน แหลกสลายเพราะมือเธอ”

กับพวกเขาผู้ซึ่งไม่ยอมรับการรอคอยและต้องการตัดไฟเสียแต่ต้นลม จึงต้องไล่ล่าเพื่อขจัดเธอให้สิ้นไป แต่เหล่าผู้เฒ่าแห่งเวทย์จอมเจ้าเล่ห์พวกนั้นอีกละ พวกเขาต้องการแย่งชิงดวงจิตของเธอจนไม่ยอมรามือ

องค์รัชทายาทวังยอนอู เขาผู้นั้น เมื่อไหร่กันนะที่ก้าวเข้ามาอยู่ในใจของเธอ จะเป็นยังงัยต่อไปเมื่อเขาเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน หนทางที่จะตามหาตัวตนที่แท้จริงของเธอจะมีอุปปสรรคมากมายเพียงใด มาร่วมค้นหาไปกับ "แมรี่จาง จอมเวทย์ตัวร้าย" กันเถอะ

ในโลกที่จืดชืดของแมรี่จาง มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เธอเองก็ตกตะลึงและทึ่งในความสามารถพิเศษที่เธอมีได้โดยบังเอิญเช่นกัน หากคืนนั้้นฝนไม่ตกหนักและสายฟ้าฟาดมาไม่โดนเธอและล็อกเก็ตที่ห้อยติดตัวเธอ เข้าแล้วละก็ วันนี้เธอคงไม่รู้สินะว่า ตัวตนของเธอนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้จืดชืดเหมือนที่คนอื่นคิดเลยสักนิดเดียว

แมรี่จาง เกิดมาก็ตัวคนเดียวซะแล้ว ไม่ปรากฏว่าครอบครัวเป็นใคร พื้นเพต้นกำเนิดเป็นคนที่ไหนก็ไม่รู้ได้ จำความได้เธอก็อยู่ในความดูแลของซิสเตอร์มารีอา ณ โบสถ์ไตรอาเทอร์ ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของเมืองกวางโจว

เธอเคยเอ่ยถามถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกับซิสเตอร์มารีอา แต่ทว่าก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา นอกเสียจากความเงียบงัน นั้นเพราะมันเป็นคำถามที่ออกจะยากเกินไปสักหน่อยสำหรับซิสเตอร์มารีอา และเธอเองก็ใส่ใจในความรู้สึกของแมรี่จางมากเสียจนไม่อยากจะเห็นความโศกเศร้าหรือความผิดหวังใดๆเลย จากสาวน้อยคนนี้

แต่เธอก็สรรหาคำตอบที่คิดว่าดีที่สุดมาตอบเพื่อให้สาวน้อยคนนี้พอจะคลายความคับข้องใจได้บ้าง

“แม่หนูแมรี่สาวน้อยของซิสเตอร์ ฉันรู้แต่เพียงว่าเธอคือสิ่งที่วิเศษที่สุด ที่พระผู้เป็นเจ้าส่งมอบมาให้ฉันช่วยดูแล เพราะฉะนั้น ได้โปรดอย่ากังวลหรือไม่สบายใจถึงความไม่รู้นั้นเลย”

เธอเอ่ยปลอบความรู้สึกของ แมรี่จางที่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดึงแมรี่จางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของเธอ ในขณะเดียวกัน ก็กล่าวต่อไปอีกว่า

"และแน่นอนสิ่งที่ฉันเชื่อมั่นก็คือ เธอจะค้นพบความจริงและคำตอบทั้งหมดที่เธอปราถนาเข้าสักวัน หากแม้นไม่หมดซึ่งความศรัทธา" รอยยิ้มละมุนที่เต็มไปด้วยความเมตตา ที่ซิสเตอร์มารีอามอบให้แมรี่จางนั้น ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายได้มากโขเลยทีเดียว

แมรี่จางเองก็รักและบูชาซิสเตอร์มารีอามาก เธอซาบซึ้งในความอาทรที่ซิสเตอร์มารีอามีให้กับเธออย่างสม่ำเสมอ ถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อชีวิตเล็กๆของเธอเลยทีเดียว หลังจากวันนั้นแล้วก็ไม่เคยมีคำถามแบบนี้ออกจากปากของแมรี่จางเองอีกเลย เธอให้คำปลอบใจกับตัวเธอเองว่า "สักวันความจริงคงจะปรากฏขึ้นเอง เมื่อเวลามาถึง"

แมรี่จางเธอเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษในการเรียนรู้และมีความจำดีเหนือเด็กรุ่นเดียวกัน เรื่องของความฉลาดและมีไหวพริบนั้นมีติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว เพียงแต่เธอมักจะซ่อนความพิเศษนี้เอาไว้และดำเนินชีวิตด้วยความอ่อนน้อมถ่อม เธอมักทำให้ผู้ที่พบเจอประทับใจได้โดยไม่รู้ตัว และความพิเศษที่เฉพาะตัวนี้ทำให้เธอพาตัวเองรอดจากอุปสรรคต่าง ๆ มาได้จนถึงทุกวันนี้

และแล้วช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอก็มาถึง... สิบห้าขวบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก...

แมรี่จางเริ่มโตเป็นสาวรุ่นเต็มวัย ความน่ารักและความงดงามของเธอล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านการเสริมเติมแต่งใดๆ ทั้งสิ้นนั้น ทำให้เธอเป็นที่หมายปองต่อบรรดาหนุ่ม ๆ ที่อยู่รายรอบตัวเธอ

ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นเฉพาะตัว ขับให้ใบหน้าสวยได้รูปนั้นดูน่ามอง ดวงตากลมโตสีเปลือกวอลนัต เปล่งประกายราวกับดวงดาวที่สุกสกายอยู่บนนภายามค่ำ ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยสเน่ห์แห่งความซุกซน

คิ้วดกดำได้รูปนั้นรับกับสันจมูกโด่งปลายเชิดเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี ผมสีดำขลับยาวตรงถึงกลางหลัง พลิ้วไปมาเป็นประกายวาววับยามเธอเคลื่อนไหว ทั่วเรือนกายผิวพรรณที่ขาวอมชมพู ฟันขาวสะอาดเรียงกันอย่างสวยงามเมื่อเธอยิ้มยิ่งพาให้ชวนมอง รูปร่างที่ค่อนข้างจะเล็กและเพรียวบางดูน่าทนุถนอม

เธอเติบโตมาได้ด้วยดีทีเดียว ไม่แปลกใจเลยที่เด็กสาวรุ่นเดียวกันบางคนจะแสดงออกถึงความริษยาในคุณลักษณะที่เธอมี

แต่กระนั้น แมรี่จางกลับชื่นชอบความเป็นส่วนตัว หวงแหนในความสันโดษ และมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ความรักมักทำให้ผู้คนอ่อนแอ และอาจจะนำพาให้เกิดปัญหา

ดังนั้นเมื่อเริ่มเป็นสาวแรกรุ่นจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่เคยมีใครสามารถก้าวข้ามกำแพงใจที่แมรี่จางสร้างเอาไว้อย่างหนาแน่นนี้ได้

ซิสเตอร์มารีอา มองเห็นถึงความมีเสน่ห์ของแมรี่จาง และเฝ้าดูเธอเติบโตด้วยความภาคภูมิใจในตัวสาวน้อยคนนี้มาโดยตลอด และถึงแม้ว่าแมรี่จางจะเป็นเด็กที่รู้จักกาลเทศะ และรู้จักการเอาตัวรอดได้อย่างเป็นเลิศแค่ไหนก็ตาม ซิสเตอร์มารีอานั้นก็ยังอดกังวลในเรื่องของความกล้าหาญ ที่ออกจะเกินตัวของสาวน้อยคนนี้ไม่ได้เลยทีเดียว

และต่อให้โตพอขนาดไหน ในสายตาของซิสเตอร์มารีอานั้น แมรี่จางก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาของเธออยู่เสมอ นี้สินะที่เรียกว่า ความผูกพันธ์

แมรี่จางเป็นเด็กที่น่ารักก็จริง แต่เธอก็มักจะสร้างวีรกรรมที่ทำให้ผู้ที่ได้ใกล้ชิดมักจะลืมไม่ลงได้ด้วยเช่นกัน ครั้งนึงที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนัก เมื่อฤดูหนาวเริ่มเข้ามาเยือน ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ซิสเตอร์มารีอาถึงกับจำได้ไม่ลืม และค่อนข้างจะตกใจจนแทบหน้ามืดกันเลยทีเดียว

สาวน้อยแมรี่จางพาร่างกายที่เปียกโชก เดินกลับมาที่ห้องพักของเธอด้วยเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยดินโคลน และเศษใบไม้ใบหญ้า เสื้อผ้าหน้าผมทั้งหมดล้วนเปียกปอน เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว และตัวเธอเองก็หนาวสั่นเสียจนคนที่พบเห็นสามารถสัมผัสได้

หากร่างกายไม่แข็งแรงพอแล้วละก็ เธอคงจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อจับไข้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว เหตุก็เพราะความกล้าหาญและความใจอ่อนนั้นเอง