8 สถานที่แห่งความทรงจำ
เตชินพาโรสจรินทร์มายังร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นร้านประจำของทั้งคู่เมื่อครั้งยังคบกัน บรรยากาศร่มรื่นชวนให้ทั้งสองหวนรำลึกถึงความหลัง เมื่อรถจอดสนิทหญิงสาวมองไปรอบ ๆ
“ไม่รู้ว่าคุณจะพามาที่ร้านนี้” โรสจรินทร์เอ่ยเบาๆ ขณะที่สายตาสำรวจไปทั่วร้าน บรรยากาศอบอุ่นคุ้นเคยยังคงหวนคืนมาพร้อมกับความทรงจำเก่าๆ
“ผมสั่งของโปรดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” เตชินตอบอย่างรู้ทัน พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตาคมกริบจับจ้องเธอไม่วางตา
“คุณไปสั่งตอนไหนคะ” เธอถามอย่างประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ออกมาจากบริษัทด้วยกัน เขาก็อยู่กับเธอตลอด
“ก็ตอนที่คุณแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มเมื่อกี้ไง” เขาเฉลยพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี โรสจรินทร์นิ่งไป เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบให้กับความใส่ใจของเขา
พอทั้งสองเดินเข้ามานั่งในร้านโดยเตชินได้จองโต๊ะเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พนักงานรีบยกอาหารมาเสิร์ฟทันที โรสจรินทร์รู้สึกทึ่ง นี่เขายังจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งเรื่องอาหารการกินของเธอ
“พาสต้าคาโบนาร่าของโปรดคุณ กับสลัดร็อกเก็ตที่ไม่ใส่บัลซามิก เพราะคุณไม่ชอบ” เขารีบบอก
“แล้วก็… พิซซ่าหน้าเห็ดทรัฟเฟิลเพิ่มชีสนิดหน่อย แต่ไม่ใส่หัวหอมใหญ่ เพราะคุณไม่ชอบกลิ่นมัน”
“ส่วนของหวาน ผมสั่งทีรามิสุแบบที่ไม่มีกาแฟเข้มมากนัก เพราะคุณจะนอนไม่หลับแล้วก็ใจสั่น”
“คุณจำได้หมดเลยเหรอคะ” เธอถามเสียงแผ่ว เตชินจ้องตาเธอด้วยแววตาอ่อนโยน
“แน่นอนครับ เรื่องของคุณน่ะ ผมจำได้ทุกรายละเอียด” เตชินเลื่อนจานสลัดมาให้หญิงสาวตรงหน้า
“ทานเยอะๆ นะครับ คุณดูผอมไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย โรสจรินทร์ใช้ส้อมหมุนเส้นพาสต้าให้ม้วนติดรอบส้อม แล้วยกเข้าปาก รสชาติที่คุ้นเคยยังคงอร่อยเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอิ่มเอมใจมากกว่าคือความใส่ใจของเขา
“คุณคงจะพาสาว ๆ มาที่นี่บ่อยล่ะสิ” หญิงสาวเคี้ยวเส้นด้วยความเอร็ดอร่อยพร้อมกับคำถามที่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
“นอกจากคุณแม่ ก็มีแค่คุณเนี่ยแหละครับ” คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของโรสจรินทร์ร้อนผ่าว
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณจะจำทุกอย่างได้” เธอถามเสียงแผ่ว
“แน่นอนครับ เรื่องของคุณน่ะ ผมจำได้ทุกรายละเอียด” เตชินจ้องตาเธอด้วยแววตาอ่อนโยน
“คุณดูผอมกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เพราะฉะนั้น...คุณต้องทานเยอะ ๆ นะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย
ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในห้วงความคิด ร้านอาหารแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทั้งคู่เคยมีช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกัน และเดตแรกของทั้งสองก็เกิดขึ้นที่นี่
หลังจากที่ความสัมพันธ์สิ้นสุดลง โรสจรินทร์ก็ไม่เคยมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีกเลย เพราะด้วยราคาอาหารที่สูงเกินกำลังของเธอ เต็มที่ก็ทำได้แค่ทานข้าวแกงข้างทาง หรือไม่ก็อาหารตามสั่งทั่วไป การจะกลับมานั่งในร้านอาหารหรูๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ
แต่ในวันนี้ เธอกลับมาที่นี่อีกครั้ง ในฐานะคนสำคัญของผู้ชายคนนี้… ผู้ชายที่เคยเป็นโลกทั้งใบของเธอ และเขากำลังจะกลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง ความรู้สึกหลากหลายปนเปกันไปหมด โรสจรินทร์ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในวินาทีนี้ เธออดไม่ได้ที่จะปล่อยใจไปกับความรู้สึกเดิม ๆ อีกครั้ง
“ฉันขอโทษนะคะ คุณเตชิน!!!” โรสจรินทร์เอ่ยขึ้นเบาๆ ดวงตาคู่สวยมองสบกับดวงตาคมกริบของเขาอย่างสำนึกผิด
“หลังจากครอบครัวฉันล้มละลาย เป็นหนี้สิน ฉันก็ไม่ได้กลับไปหาคุณอีกเลย” เตชินมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน เขาเอื้อมมือมาแตะมือเธอเบาๆ
“ผมเข้าใจ....เรื่องในอดีตช่างมันเถอะ อีกอย่างตอนนี้คุณแม่ของผม ท่านก็เสียไปแล้ว” คำพูดของเขาทำให้โรสจรินทร์ตกใจ เธอจำได้ดีว่าแม่ของเตชินหวงลูกชายคนนี้มากขนาดไหน และมันก็คือเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เธอไม่กล้ากลับไปหาเขาอีก
“เหรอคะ!!! ฉันเสียใจด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ แม่ผมท่านเสียไปได้เกือบสองปีแล้ว และตอนนี้ผมก็ทำใจได้แล้วล่ะ แต่แม่เคยบอกผมว่า คุณจะกลับมาหาผม” เตชินเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ในตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อท่านหรอก ผมจึงพยายามออกตามหาคุณมาโดยตลอดห้าปี”
บทสนทนาของทั้งคู่ดำเนินไปเรื่อยๆ เพื่อรื้อฟื้นความหลัง แบ่งปันความเจ็บปวดที่ต่างคนต่างต้องเผชิญมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา ความเข้าใจผิดที่เคยเป็นกำแพงขวางกั้นเริ่มพังทลายลงช้าๆ หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ โรสจรินทร์ก็เอ่ยทวงสัญญา
“คุณเตชินคะ คุณ....ช่วยแวะให้ฉันซื้อของที่ห้างหน่อยสิ” โรสจรินทร์เอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยความรู้สึกอับอาย เตชินยิ้มกริ่ม ก่อนจะนึกขึ้นได้
“โอ้วว!!!..โทษทีนะ ผมลืมไปเลย” เขากล่าวพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ
“อันที่จริงมันก็ไม่ได้เปียกมากหรอก แต่ผมแค่อยากแกล้งคุณเฉยๆ” เขาสารภาพ โรสจรินทร์อยากจะโกรธ แต่ก็โกรธเขาไม่ลง
“งั้นเอาคืนให้ฉันได้ไหมคะ จะได้ใส่ บอกตรง ๆ มันตอนนี้รู้สึกโล่งๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ” เธอเอ่ยอย่างอ้อนวอน ใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย เตชินเหลือบมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“อย่าใส่เลย...ที่รัก ไม่มีใครรู้หรอกน่า”
“ก็คุณไงคะ....ที่รู้” โรสจรินทร์แย้งกลับ เสียงของเธอมีความไม่พอใจเล็กน้อยแฝงอยู่ เตชินยังหัวเราะ จนหญิงสาวทำท่าจะหยิกที่แขนของเขา
“จะคืนดีๆ ไหมคะ” หญิงสาวขู่พร้อมกับเตรียมทำท่าจะหยิกไปที่แขนของเขาจริง ๆ
“เดี๋ยวผมคืนให้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” เขาตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว และพลางขับรถต่อไป
“คุณนี่มันจริงๆ เลย ฉันว่าจะไม่โกรธคุณแล้วเชียว” โรสจรินทร์ทำเสียงงอนๆ เธอไม่กล้าทำให้เขาเจ็บ
“งั้นก็อย่าโกรธสิครับ แค่เรื่องเล็กๆ น้อย ๆ เอง”
เตชินขับรถพาเธอแวะไปที่คอนโดของเขาแทนที่จะพาเธอไปซื้อชุดชั้นในตามที่เธอขอร้อง โรสจรินทร์รู้สึกใจหายวาบเมื่อเห็นคอนโดที่คุ้นเคย ภาพความทรงจำกลับมา ในห้องนอนมันคือบทเรียนรักระหว่างเขาและเธอ โรสรินทร์จำได้ดีราวกับเวลาไม่เคยผ่านไป เธอรูู้ว่าเขาต้องการสานต่อถึงได้พามาที่นี่ เตชินเดินนำเธอเข้าไปภายในห้อง
“คุณคิดยังไงเหรอ ถึงได้พาฉันมาที่ห้อง...บอกไว้ก่อนนะคะ ว่าถ้าจะเล้าโลมฉันล่ะก็...คุณทำไม่สำเร็จหรอก!!!” โรสจรินทร์ทำเสียงเข้ม ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องที่คุ้นเคย เตชินโอบกอดเธอจากทางด้านหลังเอาไว้อย่างหลวม ๆ เขายิ้มมุมปาก และมองไปที่เตียงนอนอันกว้างขวาง
“ผมก็บอกแล้วไง...ว่าผมอารมณ์ค้าง คุณช่วยผมหน่อยสิ” คำพูดของเขาทำให้ใจโรสจรินทร์กระตุกวูบ ภาพวันวานฉายชัดในหัว ที่เคยบรรเลงเพลงรักอันเร่าร้อนบนเตียงนี้กับเขา
“ผมรู้ คุณก็อารมณ์ค้างเหมือนผมนั่นแหละ” เตชินพูดต่อ ราวกับอ่านใจเธอออก
“คุณเอาอะไรมาตัดสินคะ” หญิงสาวหันมาถามอย่างท้าทาย
“ก็ไม่รู้สิ สัญชาตญาณมันบอก” เตชินตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหยิบจีสตริงตัวจิ๋วของเธอออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท หญิงสาวจ้องชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำอย่างไม่วางตา
“คืนชุดชั้นในของฉันมาเลย” หญิงสาวเสียงขุ่น ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความอาย ปนกับความโมโหเล็กน้อย เธอพยายามเอื้อมมือไปคว้า แต่เขาก็ยกแขนหลบได้อย่างรวดเร็ว
“ผมขอเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกไม่ได้เหรอ” เตชินแกล้งทำตาละห้อย กลิ่นหอมจางๆ ของผ้าบางเบาตรงหน้าทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอโดยการทำท่าจะยกขึ้นสูดดม
“อย่านะ!!!...โรคจิตจริง ๆ เลยคุณเนี่ย! เห็นกางเกงในผู้หญิงเป็นของสะสมไปได้” โรสจรินทร์อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เธอแทบจะอยากจะเอาไม้หน้าสามฟาดหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอด ผู้ชายอะไรถึงได้ลามกโรคจิตได้ถึงขนาดนี้ เตชินหัวเราะร่วน เมื่อเห็นท่าทางหัวเสียของเธอ
“ผมยอมรับ แต่เฉพาะของคุณคนเดียวนะ เพราะผมชอบกลิ่นของคุณ…” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม แกล้งยื่นชุดชั้นในเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธออีกนิด
“หื้อออ!!!... ฉันไม่คุยด้วยแล้ว คุณ! คุณมันคนผีทะเล ไอ้คนลามก! ไอ้คนหื่นกาม!” โรสจรินทร์แทบจะกรีดร้อง เธอหันหลังเดินหนีทันที แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวราว แม้จะโกรธจนควันออกหู
เตชินมองแผ่นหลังเล็กๆ ที่เดินจากไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เขารู้ว่าตนเองกำลังแกล้งเธอมากเกินไปแล้ว แต่การได้เห็นเธอโมโหแบบนี้มันก็ช่างน่ารักน่าหยอกเสียจริง ๆ สุดท้ายเขาก็โยนชุดชั้นในของเธอลงไปที่ถังปั่น แม้จะโดนหาว่าโรคจิต แต่เขาก็อดไม่ได้จริงๆ ที่จะอยากเก็บของสิ่งนี้ไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเธออยู่ใกล้เขาเสมอ