บท
ตั้งค่า

ตอนที่12 เจ้านายหรือผัว

อภิชญานั่งกะพริบตาปริบ ๆ เธอรู้สึกมึนหัวอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะว่าเธอซัดแชมเปญไปตั้งสองแก้วทั้งที่ท้องยังว่างอยู่

ตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะมาหาอะไรกินที่งานเลี้ยงนี่แหละ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้แยกตัวออกมาจากเจ้ากรรมนายเวรเลยแม้แต่ครึ่งก้าว รู้ตัวอีกทีเท้าเธอก็ถลอกจนแสบไปหมดแล้ว

หญิงสาวในชุดราตรีสีเงินนั่งน้ำตาคลอเบ้า หิวก็หิว เท้าก็เจ็บ แถมตอนนี้เริ่มเวียนหัวเพราะเมาด้วย ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแชมเปญเพียงแค่สองแก้วจะทำให้เธอเมาได้ ปกติดื่มเหล้าก็ไม่เห็นเมาไวขนาดนี้ หรืออันที่จริงแล้วคอเธอไม่เหมาะกับของแพง..

กลับไปแดกเหล้าผสมโซดาเหมือนเดิมดีกว่ามั้งกู

ขณะที่อภิชญานั่งทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านข้าง เมื่อเธอหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเขาคนนั้นคือเฮียลมหนาว รุ่นพี่ในคณะสมัยที่เธอเรียนอยู่มหาลัย

"ไม่คิดเลยว่าเฮียจะได้เจอสองที่นี่" เหมันต์เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง เขาถือโอกาสนั่งลงข้าง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

"อันที่จริงสองเองก็กำลังงงอยู่เหมือนกันค่ะ" เสียงหวานตอบกลับอย่างติดตลก ก่อนจะเล่าความเป็นมาของตำแหน่งเลขาคุณลมเหนือให้กับรุ่นพี่ฟัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาหรืออะไรแต่เธอพูดออกมาอย่างน้ำไหลไฟดับเชียวล่ะ

เหมันต์จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรู้สึกเห็นใจ เด็กน้อยที่น่ารักของเขาในวันนั้นเติบโตมาเป็นสาวสวยเต็มตัวแล้ว อย่างน้อยเขาก็อยากให้เธอมีความสุขหรือได้พบเจอกับคนที่ดี ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่เขาก็ไม่เป็นไร

แค่ไม่เป็นไอ้เหนือก็พอ!

"ลาออกมั้ยล่ะ เฮียให้ยืมเงิน แล้วสองก็มาทำงานกับเฮีย" บอกตามตรงว่าข้อเสนอของเขาน่าสนใจมากจริง ๆ เพราะอย่างน้อยไปทำงานใช้หนี้ให้กับเฮียหนาวอาจจะสบายใจกว่าทำงานอยู่ที่นี่

แต่ว่าเธอไม่อยากเป็นหนี้ แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้ที่บ้านต้องเป็นห่วงหรือเดือดร้อนเพราะการกระทำอันไม่คิดหน้าคิดหลังของตัวเธอเอง

ถ้าทนทำงานอยู่กับลมเหนือจนหมดสัญญา เธอก็มีแต่ได้กับได้ ค่าน้ำค่าไฟค่ากินแทบไม่ต้องจ่าย แถมเงินเดือนก็สูง ถ้าหลับหูหลับตาทำงานจนครบสัญญา จากนั้นค่อยลาออกก็ยังไม่สาย

"ที่ไร่มึงมันขาดคนงานถึงขนาดมาแย่งคนของกูเลยเหรอ" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

อภิชญาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงสะดุ้งแรงขนาดนี้ อารมณ์เหมือนถูกผัวจับได้ว่ามีกิ๊กยังไงอย่างงั้น

"เหอะ บริษัทที่ไหนให้พนักงานเซ็นสัญญาหนังหมาพรรค์นั้นวะ มึงรู้อยู่แล้วแน่ ๆ ว่าคนที่มาสมัครงานคือนับสอง มึงเลยร่างสัญญาพรรค์นี้ขึ้นมา" สายตาคมเข้มทั้งสองประสานกันชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร

วายุตวัดสายตามามองที่อภิชญาอย่างไม่พอใจ นี่นับสองเอาเรื่องสัญญามาเล่าให้คนนอกอย่างไอ้หนาวฟังอย่างนั้นเหรอ

หรือเธอตั้งใจจะไปอยู่กับมันจริง ๆ ?

เขาละสายตาจากคนตัวเล็กก่อนจะหันกลับไปต่อปากต่อคำกับฝาแฝดนรกของตน "ถึงจะเป็นอย่างนั้นแล้วยังไง กูไม่ได้บังคับให้สองเซ็นสัญญานี่"

"ไอ้เหนือมึงนี่มัน.."

"เอ่อ..สองไม่เป็นไรค่ะเฮียหนาว ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ แต่สองตั้งใจว่าจะทำงานกับคุณเหนือจนกว่าจะหมดสัญญาค่ะ" อภิชญาต้องรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะทะเลาะกันเสียงดังมากกว่านี้ แค่นี้คนก็หันมามองกันเกือบทั้งงานแล้ว ช่วยรู้ตัวกันสักทีเถอะ เธออายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว

วายุที่ได้ยินคำตอบเช่นนั้นเขาก็หันมามองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์พลางเปล่งเสียง "เหอะ" อยู่ในลำคอ

ทำเอาอภิชญาถึงกับเกาหัวด้วยความงุนงง เขาไม่พอใจในคำตอบของเธอหรอกเหรอ เธอก็พูดไปแล้วนี่ว่าจะทำงานอยู่ด้วยจนกว่าจะหมดสัญญา แล้วทำไมต้องมาทำหน้าตาบึ้งตึงใส่เธอด้วย

"ผมจะกลับแล้ว" วายุเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด ทีคุยกับไอ้หนาวเรียกเฮียหนาว ทีคุยกับเขาเรียกคุณลมเหนือ

ยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิด แม่ง!

"เอ่อไว้พบกันใหม่นะคะเฮีย" อภิชญารีบสวมรองเท้าส้นสูงเจ้ากรรม ก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันกลับมาค้อมศรีษะ บอกลารุ่นพี่ที่เธอเคารพ เหมันต์ที่เห็นอย่างนั้นก็ทำได้เพียงส่งยิ้มและพยักหน้าให้เธอเบา ๆ เขายอมรับทุกการตัดสินใจของนับสอง หากเธอบอกว่าต้องการทำงานกับไอ้เหนือจนกว่าจะหมดสัญญาเขาก็จะคอยเป็นกำลังใจให้

"ถ้าต้องการความช่วยเหลือโทรหาเฮียได้ตลอดเลยนะ"

"ขอบคุณนะคะ"

"เร็ว ๆ มัวแต่บอกลามันอยู่ได้ เดี๋ยวผมจะให้เดินกลับบ้านนะ" เสียงของเจ้ากรรมนายเวรตะโกนเรียกเธอจากทางด้านหลัง ทำเอาอภิชญาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย

แม่งเอ้ยเจ้านายหรือผัวกันแน่วะ

"ค่า กลับเดี๋ยวนี้แหละค่า"

วายุสาวเท้าเดินกลับมาที่รถอย่างรวดเร็ว เขาเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ พลางยกแขนแกร่งทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกด้วยท่าทีฟึดฟัด ทำเอาอภิชญาที่เดินตามหลังมาถึงกับสะดุ้งเพราะเสียงปิดประตูที่ดังสนั่นมาจนถึงด้านหน้าของลานจอดรถ

นิ้วเรียวสวยยกขึ้นมานวดคลึงขมับตนเองอยู่สองสามครั้ง ไม่รู้ว่าอาการปวดหัวที่น่ารำคาญนี้สาเหตุมันมาจากคนหรือแอลกอลฮอล์กันแน่

อภิชญาก้มลงมองเท้าตัวเองด้วยความรู้สึกเจ็บแสบ เธอตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูงออกทันทีที่เดินพ้นจากบริเวณงานเลี้ยง

อยากกลับบ้าน นั่นคือความคิดของเธอในตอนนี้

ร่างบอบบางเดินหิ้วรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง ตรงไปยังรถยุโรปคันหรูของวายุที่กำลังจอดรออยู่ เธอออกแรงเคาะกระจกเบา ๆ สองสามครั้งก่อนจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ

วายุหันกลับไปมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ บอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบเลยที่นับสองเรียกไอ้หนาวว่าเฮียหนาว เหมือนที่ครั้งหนึ่งเธอเคยใช้เรียกเขา

"ผิดหวังมากมั้ยที่รู้ว่าได้มาทำงานอยู่กับเฮีย ไม่ใช่เฮียหนาวที่แสนดีของสอง" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ แต่ทว่ากลับไม่ได้คำตอบใดกลับมา อภิชญาทำเพียงเมินหน้าหนีและมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ตอนนี้เธอไม่มีแรงจะทะเลาะหรือคุยอะไรกับเขาทั้งนั้น

"สอง..อย่าเมินคำพูดของเฮีย"

"หนูขอร้องล่ะ เฮียอย่าเพิ่งพูดหรือถามอะไรไปมากกว่านี้เลย ช่วยรีบพาหนูกลับบ้านทีจะได้มั้ย" เธอพูดแทรกขึ้นน้ำเสียงคล้ายคนจะร้องไห้ ใบหน้าซีดเซียวจนไม่เหลือสีเลือด ตอนนี้เธอเวียนหัวจนอยากจะอ้วกออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด เท้าก็เจ็บ ข้าวก็หิว ซ้ำยังต้องมานั่งตอบคำถามบ้าบออะไรก็ไม่รู้

ลำพังแค่นั่งอยู่บนรถคันเดียวกันกับแฟนเก่าก็ลำบากอยู่แล้ว นี่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้อีก ใจเธออยากจะเปิดประตูรถแล้ววิ่งหนีออกไปให้ไกล

ช่างหัวแฟนเก่า ช่างหัวเจ้านาย ช่างแม่งสัญญา!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel