ตอนที่1 เธอคนนั้นคือแฟนเก่าของผม
23 กุมภาพันธ์ เวลา 01:50 น.
ในขณะที่นักท่องราตรีคนอื่น ๆ ต่างกำลังเต้นบนฟลอร์อย่างเมามัน แต่สามสาว นับสอง เจนนี่ และแก้มบุ๋ม นั้นเมามายจนไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว
สภาพแต่ละคนดูได้ซะที่ไหน หรือนี่คือที่มาของคำว่า มาอย่างหงส์กลับอย่างหมา
เจนนี่ที่เมาก็เดินเต้นและชนแก้วไปจนทั่ว ราวกับว่าตัวเองนั้นรู้จักกับเขาไปหมดทุกโต๊ะ เหลือเพียงสองสาวที่ลุกไปไหนไม่ไหว แก้มบุ๋มก็ได้แต่นั่งเท้าคางสัปหงก หากเธอฝืนดื่มต่ออีกนิดมีหวังได้อ้วกคาโต๊ะแน่
ส่วนนับสองที่คออ่อนที่สุด ก็ฟุบหน้าหลับบนโต๊ะไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าต่อให้ร้านปิดเธอก็น่าจะยังไม่ตื่น
"คนสวยครับง่วงแล้วเหรอ ไปต่อกับเรามั้ย" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร บางทีเขาอาจจะคุยกับคนอื่นอยู่ก็ได้
"ว่ายังไงครับไปมั้ย" ชายคนนั้นยังคงถามต่อพลางฉวยโอกาสใช้มือโอบไหล่ของเธอ ทำเอาอภิชญาที่ฟุบหน้าหลับอยู่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ
"ไม่ค่ะขอบคุณ" เธอตอบกลับเสียงแข็ง ก่อนจะปัดมือของผู้ชายคนนั้นออกด้วยความไม่สบอารมณ์ เธอฟุบหน้าลงบนโต๊ะอีกครั้งและหวังว่าเขาจะไม่ตอแยและเดินจากไปแต่โดยดี
เธออยากกลับบ้านแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวันนี้คงจะขับรถกลับเองไม่ไหว ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองหาเพื่อนอีกครั้ง ก็เห็นว่าแก้มบุ๋มมีสภาพที่ไม่ต่างกันกับเธอนัก เธอจึงกวาดสายตามองหาเจนนี่ ผู้เป็นความหวังเดียวที่เหลือของเธอ
โอเค.. คืนนี้อีเจนนี่ได้ผู้ แสดงว่ามันคงไม่ว่างไปส่งเธอกับแก้มบุ๋มอย่างแน่นอน แต่ในขณะที่อภิชญากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ข้อมือของเธอก็ถูกกระชากโดยผู้ชายคนนั้น คนที่เธอเพิ่งปฏิเสธไปเมื่อกี้
"ไปเหอะน่า อย่าเล่นตัวนักเลย เดี๋ยวจ่ายเงินให้ก็ได้จะเอาเท่าไหร่ว่ามา"
"ไม่ไปเว้ย พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ" อภิชญาพยายามขัดขืนอย่างเต็มที่ ยื้อยุดฉุดกระชากกับมันอยู่นานก็ไม่มีใครคิดเข้ามาช่วย มีเพียงแก้มบุ๋มที่พยายามยื้อแย่งเธอจากไอ้ผู้ชายคนนั้น แต่แรงของผู้หญิงหรือจะสู้แรงผู้ชายได้
ตอนนี้เธอกลัวมากเสียจนร้องไห้ออกมา อภิชญาพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าใครที่จะเข้ามาช่วย ก็มักโดนผู้ชายคนนี้ด่าว่า อย่ามาเสือกเรื่องผัวเมีย เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น ก็ทำได้แค่เดินหนีไป
"มึงปล่อยมือสกปรกนั่นออกจากเมียกูเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงดุดันน่าเกรงขามดังขึ้นจากทางด้านหลัง วายุพร้อมด้วยเพื่อนสนิททั้งสองก็เดินมาด้วยเช่นกัน ตั้งแต่เขารู้ว่าเธอคือนับสองคนนั้น เขาก็คอยจ้องมองเธอมาตลอด จนกระทั่งไอ้เวรเมื่อกี้มันมาเกาะแกะกับเธอ
ตอนแรกเขาคิดว่ามันคงเป็นแฟนของนับสอง แต่เท่าที่สังเกตดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่ นี่มันคือการคุกคามชัด ๆ
น่าโมโหที่คนอยู่ตรงนั้นตั้งเยอะแต่ไม่มีใครคิดช่วยเธอเลยสักคน มีเพียงคนเดียวที่คอยช่วยเหลือก็คือแก้มบุ๋ม ซึ่งสภาพก็เมาเละจนยืนเองแทบไม่ไหว
เป็นผู้หญิงแต่กลับมาเที่ยวเมาเละเทะ โดยไม่มีผู้ชายที่ไว้ใจได้มาด้วยสักคน ไม่รู้ว่าซื่อหรือใจกล้ากันแน่
"ขะ.. ขอโทษครับคุณเหนือ" ชายคนนั้นรีบปล่อยมือออกจากนับสองและสาวเท้าเดินหนีออกไปในทันที หากใครที่มาเที่ยวที่นี่ประจำก็จะต้องรู้ว่า ผู้ชายสามคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลขนาดไหน อีกทั้งร้านที่เขากำลังยืนอยู่ตอนนี้ก็เป็นของคุณเอก.. เขาไม่อยากมีปัญหากับคนระดับนี้เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวหรอกนะ
วายุพยายามข่มอารมณ์โมโหเอาไว้ ทั้งที่นับสองรู้ตัวว่าเป็นคนคออ่อน ก็กินเอาจนเดินไม่ไหว ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตแบบไหนกัน คงไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกครั้งหรอกใช่มั้ย
"ไอ้เอกกูฝากดูแลเจนนี่กับแก้มบุ๋มหน่อยได้มั้ย เปิดโรงแรมให้พวกเธอนอน เดี๋ยวค่าโรงแรมกูออกเอง" วายุพูดขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบเฉกเช่นเคย เพื่อนสนิททั้งสองก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความเข้าใจ
"เออเดี๋ยวพวกกูช่วยดูให้ ส่วนค่าโรงแรมเดี๋ยวกูจัดการเอง" เอกภพตอบกลับอย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาโรงแรมสักสองห้อง เพราะเจนนี่น่าจะไม่ว่างในคืนนี้ เหลือก็แต่แก้มบุ๋มที่นั่งหลับอยู่บนโต๊ะนี่แหละ
"งั้นกูกลับล่ะ ส่วนไอ้เวรเมื่อกี้กูฝากสั่งสอนด้วย" วายุเอ่ยขึ้น พลางช้อนตัวอุ้มนับสองไว้ในอ้อมแขน คนตัวเล็กฟุบหน้าเข้ากับแผงอกของเขาและร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง เหตุการณ์เมื่อครู่คงทำให้เธอตกใจกลัวมาก
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขาล่ะอยากเดินตามออกไปกระทืบมันด้วยตีนตัวเองจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องพานับสองออกไปจากที่นี่ เขาสาบานเลยว่าจะให้มันได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่โรงพยาบาลสักเดือน
"กูจัดการให้เองไม่ต้องห่วง" เอกภพตบบ่าเพื่อนรักอย่างรู้ใจ ก่อนจะหันไปประคองแก้มบุ๋มไว้ในอ้อมแขน เพราะรายนี้ก็เมาจนหลับกลางอากาศไปแล้ว
"อย่าลืมเอาลูกสาวเขาไปคืนนะเว้ย" รชานนท์ตะโกนตามหลังไปอย่างติดตลก
วายุอุ้มคนตัวเล็กมาวางไว้บนเบาะนั่งข้างคนขับอย่างเบามือ ซึ่งตอนนี้เธอหยุดร้องไห้และผล็อยหลับไปแล้ว เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังวิลล่าของตัวเอง ตลอดเวลาที่ขับรถเขาก็เหลือบไปมองเธออยู่เป็นระยะ
ใบหน้าหวานอิงหัวแนบกับกระจกอย่างไร้สติ เผยให้เห็นลำคอขาวเนียนน่าหลงใหล เส้นผมที่ดัดลอนมาเป็นอย่างดีตอนนี้มันคลายออกจนเหลือเพียงลอนจาง ๆ ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกใจเต้น
วายุพยายามรวบรวมสติเอาไว้ เขาจะต้องตั้งใจขับรถไปให้ถึงบ้าน แม้ว่าคนที่นอนหลับอยู่ด้านข้างจะล่อตาล่อใจมากขนาดไหนก็ตาม
23 กุมภาพันธ์ เวลา 02:39 น.
ลัมโบร์กีนีอะเวนทาดอร์ แล่นเข้ามาจอดในโรงรถ วายุก้าวขาลงมาจากสปอร์ตคาร์คันหรู ร่างกำยำเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับอย่างเบามือ เขาอุ้มคนตัวเล็กออกมาจากรถอย่างทะนุถนอม และพาเธอตรงเข้าไปข้างในบ้านในทันที
"บอสครับ เอ่อ.." สิงห์ มือขวาคนสนิทที่วิ่งออกมาต้อนรับ เขาจ้องมองผู้หญิงในอ้อมแขนของเจ้านายด้วยความงุนงง
ไหนบอสบอกเขาว่าจะไปสังสรรค์กับเพื่อน อีกทั้งยังบอกเขาว่าไม่ต้องนัดใครมาให้ แต่บอสกลับพาผู้หญิงมาที่บ้าน
พามาที่บ้าน!!! พามาที่บ้านอย่างนั้นเหรอ!!
ตั้งแต่เขาทำงานให้บอสมา เขาไม่เคยเห็นบอสพาผู้หญิงคนไหนมาที่บ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงแรมทั้งนั้น แต่กับผู้หญิงคนนี้บอสอุ้มมาเองกับมือ อีกทั้งยังพามาถึงบ้าน
นี่หมายความว่าเธอคนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษต่างจากคนอื่นอย่างแน่นอน!
"ไปเปิดประตูห้องผมให้หน่อย" เขาออกคำสั่งด้วยท่าทางเร่งรีบ สิงห์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งนำไปที่ห้องนอนของเจ้านายในทันที
เมื่อมือขวาคนสนิทปิดประตูแล้วเดินจากไป เขาจึงอุ้มร่างของเธอไปวางลงบนเตียงนอนสีเทาขนาดคิงไซซ์ ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำครู่หนึ่ง และเดินออกมาพร้อมกับกะละมังใส่น้ำและน้ำขนหนูผืนเล็กอีกหนึ่งผืน
วายุบรรจงเช็ดหน้าและเช็ดตัวให้เธออย่างดี จากนั้นก็รีบหาถังขยะมาวางไว้ด้านข้างเตียง เผื่อว่าเธอตื่นมาแล้วจะอยากอาเจียน อย่างน้อยข้างเตียงก็ยังมีถังขยะอยู่ใกล้ ๆ
แววตานุ่มลึกจ้องมองใบหน้าของคนที่หลับใหลอยู่ด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ ทำไมกันนะ..ทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ ถ้าหากเธอแต่งงานมีลูกมีสามีไปแล้วเขาจะทำยังไงดี เขาจะกลายเป็นไอ้ชั่วที่ลักพาตัวเมียคนอื่นใช่มั้ย
"อื้อ.." คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงสะลึมสะลือบิดขี้เกียจก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความแสบตา เพราะแสงไฟภายในห้องมันสว่างเกินกว่าที่เธอนอนหลับต่อได้
วายุที่เห็นแบบนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบรีโมทไฟบนหัวเตียงและปรับให้มันเป็นเพียงแสงสลัว เขายังจำได้ดีว่านับสองไม่ชอบนอนในห้องที่มืดหรือสว่างเกินไป
หากเป็นสมัยที่อยู่คอนโด เธอก็มักจะแง้มผ้าม่านออกเล็กน้อยเพื่อให้แสงจากข้างนอกพอส่องผ่านเข้ามาบ้าง ต่างกันกับเขาที่ชอบนอนในห้องที่เย็นและมืดสนิท แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ตามใจเธอ จนในที่สุดเขาเองก็เคยชินกับการนอนในห้องที่มีแสงไฟสลัว
"ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง" วายุเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เมื่อครู่เขาเห็นว่าเธอโดนไอ้เวรนั่นกระชากแขนเสียจนตัวปลิว หากเขาไม่มาช่วยเอาไว้เกรงว่าป่านนี้เธอคงได้ไปอยู่ในห้องของผู้ชายคนอื่นอย่างแน่นอน
ถ้าจะเป็นอย่างนั้นให้สองมาอยู่ห้องกู ไม่ดีกว่าเหรอ!
