ตอนที่ห้า ดื้อดึง
ตอนที่ห้า ดื้อดึง
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงลี่มี่หาเหตุมาที่จวนแม่ทัพเซี่ยตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสว่างโดยมีน้องสาวฝาแฝดช่วยเปิดทาง
สาวใช้ชิงเถาถูกทิ้งให้รออยู่ที่หน้าห้องโถงขณะที่นางก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวของเซี่ยจิ้นกว่างอย่างไม่ใส่ใจธรรมเนียมปฏิบัติโดยมีสายตาปริบๆของทหารรับใช้ที่ได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าส่งเสียงห้ามปราม
“มีมี่ เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” เซี่ยจิ้นกว่างสะดุ้งพลิกตัวลงจากเตียงอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าผิดแปลก
“เดินเข้ามาอย่างไรเล่า พี่จิ้น ข้านำเสื้อผ้าใหม่มาให้สับเปลี่ยน เมื่อวานข้าสังเกตว่าเสื้อที่พี่จิ้นสวมใส่มีรอยเลือดอยู่หลายจุดทีเดียว ควรนำไปทำความสะอาดอย่างดี เร็วเข้า ถอดออกมาก่อนแล้วสวมชุดใหม่นี่เสีย”
หญิงสาวก้าวเข้ามาทำท่าจะช่วยถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนแม่ทัพหนุ่มต้องก้าวถอยหลังรวบชุดเสื้อผ้ากอบไว้ราวหวงเนื้อหวงตัวอย่างน่าตลก
“เจ้าออกไปก่อน พี่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วจะตามออกไป” เสียงที่เอ่ยเคร่งขรึมจนหญิงสาวจับได้จึงยอมล่าถอยโดยดี
“พี่จิ้น อาหารพร้อมแล้ว ท่านแม่ฝากโจ๊กลูกบัวมาให้ กำลังร้อนๆเลย” เจียงลี่มี่เอ่ยเสียงสดใสเมื่อตระเตรียมอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยและเห็นชายหนุ่มที่พึงใจเดินเข้ามา
เซี่ยจิ้นกว่างนั่งลงตักโจ๊กใส่ปากขณะครุ่นคิดว่าจะเอ่ยกับหญิงสาวอย่างไรไม่ให้นางเสียน้ำใจ
“พี่จิ้น ข้าเห็นในสวนมีต้นอิงเถาออกผลอยู่หลายต้น พวกเราไปนั่งเล่นแล้วเด็ดมาชิมกันดีหรือไม่” เมื่ออิ่มแล้ว หญิงสาวจึงเอ่ยชวนเพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์
ยามนี้ชายหนุ่มบาดเจ็บ ไม่อาจไปที่ใดได้ไกล จึงควรใช้ช่วงเวลาเพิ่มความสนิทสนม เผื่อว่าเขาจะเพิ่มความสำคัญและน้ำหนักในใจ
ชายหนุ่มยอมออกไปเดินเล่นตามคำชักชวนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีรอยยิ้มและอารมณ์ดี
“พี่จิ้น ลองชิมดูสิ อิงเถาที่นี่หวานมาก” เจียงลี่มี่ยื่นผลอิงเถาให้พลางส่งสายตาหวานฉ่ำสื่อความนัย
“เจ้ากินเถอะ พี่ไม่ชอบ” ชายหนุ่มบอกปัดเมื่อคิดได้ว่าไม่ควรคล้อยตามจนเกินไป
เจียงลี่มี่ไม่เซ้าซี้นั่งลงกัดผลอิงเถาอย่างเอร็ดอร่อยจนปากเล็กเลอะเทอะไปด้วยน้ำสีแดง
“พี่จิ้น ช่วยเช็ดให้ข้าหน่อยสิ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วส่งให้ชายหนุ่ม พลางยื่นใบหน้าไปจนใกล้
เซี่ยจิ้นกว่างถอนหายใจพลางยกมือขึ้นเช็ดปากน้อยอย่างเร็วก่อนจะหันหน้าไปอีกด้านแล้วตัดสินใจเจรจา
“มีมี่ เจ้าไม่ควรมาที่นี่ทุกวัน”
“เหตุใดจะมาทุกวันไม่ได้ พี่จิ้นบาดเจ็บ ข้าย่อมต้องมาดูแล ท่านแม่อนุญาตแล้ว” เจียงลี่มี่ทำปากยื่นแสดงท่าทางงอแง
เป็นความจริงที่เจียงฮูหยินเอ่ยปากอนุญาตด้วยสงสารชายหนุ่มซึ่งเคยให้ความเอ็นดูรับเข้าไปพักอาศัยอยู่ในจวนช่วงหนึ่ง
แต่นางเข้าใจว่าบุตรสาวมาพร้อมกันทั้งสองคนและยังมีสาวใช้อยู่ด้วยตลอดเวลา อีกทั้งเพียงนำโจ๊กมาให้เท่านั้น ไม่คิดว่าบุตรสาวจะใช้เวลาอยู่กับเขาทั้งวี่วัน
“เหตุใดเจ้าจึงดื้อรั้นเช่นนี้” เซี่ยจิ้นกว่างส่ายหัวอย่างอ่อนระอา
“ข้าดื้อรั้นเช่นนี้ตั้งนานแล้ว มิเช่นนั้นจะพาพี่จิ้นไปเล่นซนจนท่านพ่อหมดแรงจะด่าว่าหรือ” เจียงลี่มี่ใช้น้ำเสียงกระเง้ากระงอดจนเซี่ยจิ้นกว่างได้แต่ทำใจ
จากนั้นหญิงสาวก็พาเขาเดินเที่ยวเล่นไปทั่วจวน ทั้งสั่งให้สาวใช้ไปหาซื้อขนมมานั่งกินกัน ทั้งหาซื้ออาหารรสเลิศมาเป็นมื้อกลางวัน แล้วยังช่วยทำแผลให้อย่างดื้อดึงโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน
“มีมี่ เจ้าทำเช่นนี้ พี่ไม่สบายใจยิ่งนัก” แม่ทัพหนุ่มแสดงออกถึงความไม่เหมาะสมอีกครา
“พี่จิ้นไยต้องคิดมาก ข้าเป็นหญิงยังไม่คิดมากเช่นนั้นเลย” เจียงลี่มี่ไม่อยากใส่ใจคำครหา นางชื่นชอบเขาจึงอยากแสดงออกทุกทางเพื่อไม่ให้เสียใจในภายหลัง
ท่าทางที่เซี่ยจิ้นกว่างแสดงออกมาล้วนคล้อยตามนาง หากมิใช่มีใจอยู่บ้างจะตามใจนางเพียงนี้หรือ เขาเพียงกังวลเรื่องชื่อเสียงอันดีงามของสตรีเท่านั้น
หากมีคำครหาแล้วอย่างไร เพียงเร่งการแต่งงานระหว่างเขากับนางก็คงไม่เป็นอันใดแล้ว
แม้เจียงลี่มี่จะยังไม่อยากรีบแต่งงานด้วยยังเล่นซนไม่หนำใจ แต่หากต้องพลาดจากเซี่ยจิ้นกว่าง นางยอมแต่งงานเร็วดีกว่า
แฝดคนพี่บุตรสาวราชครูเจียงรุกหนักด้วยการเดินทางมาดูแลแม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่างที่จวนทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพียงไม่กี่วันคำเล่าลือย่อมหนาหูจนราชครูเจียงชงซ่านต้องมาซักไซ้เอาความกับบุตรสาวตัวดี
ขณะที่รองแม่ทัพคนสนิทคาบข่าวมาบอกกล่าวแก่แม่ทัพของตนเพื่อหาหนทางแก้ไข
สองฝ่ายยังไม่ทันได้ออกตัวทำสิ่งใดกลับกลายเป็นว่ามีอีกฝ่ายออกตัวแรงกว่าได้แก่บุตรสาวเสนาบดีกลาโหม
