บทที่ 1 แผนร้าย
บทที่ 1
แผนร้าย
@ ความเดิมจากเรื่องสัญญาแค้นแฝงรัก
“ถามหาน้องสาวผมทำไม คุณหนูอินกับนายชาวินเป็นคู่หมั้นก็กำลังจะแต่งงานกันแล้วไม่ใช่หรือครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ อิน…อินกับพี่วินเราถอนหมั้นกันแล้ว พี่วินเสียใจมากและรู้สึกผิด เขาตามหาพี่น้ำไปทั่ว อินก็เลยมาช่วยพี่วินตามหาอีกแรง”
“อย่างนั้นหรือ แล้วหนูอินไม่เสียใจเหรอที่ถอนหมั้นกับชาวิน” พาทิศเอ่ยถาม
“อิน ……ก็เสียใจ แต่เห็นใจพี่น้ำกับพี่วินมากว่าพวก อินสงสารพวกเขา”
“แล้วไม่สงสารตัวเองเหรอ”
“ไม่ค่ะ อินอยากให้พวกเขาสมหวัง”
“ถึงแม้ตัวเองจะเจ็บก็ยอมใช้ไหม”
“ใช่ค่ะ อินทนได้” แววตาสีนิลเปล่งประกาย ถึงแม้จะมีแววเศร้าหมองอยู่มาก แต่มันก็เต็มไปด้วยความจริงใจ
พาทิศชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง เรื่องนี้ตัวเขาเองก็มีส่วนผิดในเรื่องความรักของน้องสาว และตอนนี้พัชชาภาก็ยังคงรักชาวินมากและรักมาตลอด ใครจะไปกีดขวางความสุขของทั้งสองได้ลงคอล่ะ
“ได้ผมจะบอกว่าน้ำอยู่ที่ไหนบอกแต่…”
“แต่อะไร” อรอินลุ้นกับคำพูดของเขา
“แต่มีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”
“เงื่อนไขอะไรคะ”
“คุณหนูอินต้องอยู่ที่เกาะนี้เป็นเวลาสามเดือน”
“ฮ่ะ…ทำไมต้องเป็นอิน”
พาทิศยกคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ อรอินจ้องหน้าชายหนุ่มแต่ในหัวก็ครุ่นคิดอยู่ ให้อยู่ที่เกาะนี้สามเดือน ก็คงไม่เท่าไรมั่ง ที่นี่ก็สะดวกสบายดีทุกอย่างถือว่ามาพักผ่อนแล้วกันที่สำคัญยังหาพี่น้ำเจออีก
“โอเค ตกลงสามเดือน แล้วพี่น้ำอยู่ที่ไหน”
“ห้ามกลับคำนะ”
“อืม…ไม่กลับคำ”
“ก็อยู่ที่เกาะนี้ไง” พาทิศยิ้มเจ้าเล่ห์ อรอินฟังแล้วขมวดคิ้ว
“นี่….เอ๊ะ” หญิงสาวฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ต้องอยู่ที่เกาะนี้อยู่แล้วสิ เพราะตัวเขาที่เป็นพี่ชายก็ยังยืนอยู่ที่นี้ นี้เธอหลงกลเขาเข้าให้แล้ว
“บอกแล้วนะว่าไม่กลับคำ”
@ ปัจจุบัน
หลังจากจบงานแต่งของน้องสาว พาทิศจำต้องรีบกลับมาที่เกาะดอกไม้ เพื่อดูแลเกาะและฟาร์มหอยมุกของเขา
ตอนนี้ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่มีวี่แววของอรอินเลย ชายหนุ่มเองก็เฝ้ารอเธออย่างใจจดจ่อ
“หรือเธอจะไม่มา จะผิดคำพูดกับผมหรือหนูอิน” ชายหนุ่มพึมพำเบา ๆ คนเดียว
ทางด้านอรอินพอจบงานแต่ง เธอก็กลับมากรุงเทพ ภายในใจยังนึกถึงพาทิศอยู่ตลอด เธอรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่คิดถึงเขา และคำสัญญาที่รับปากชายหนุ่มไว้ว่าจะอยู่ที่เกาะดอกไม้นั้นสามเดือน
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะไปที่เกาะ เพราะเธอก็อยากรู้ใจตนเองเช่นกันว่ารู้สึกยังไงกับพาทิศกันแน่ เธอจึงได้บอกแม่ของเธอว่าอยากไปพักผ่อน คุณหญิงอรพินเห็นลูกสาวซึม ๆ จึงได้ตามใจปล่อยให้ลูกสาวได้ไปเที่ยวพักผ่อนในที่ใหม่ ๆ บ้าง
หลายวันต่อมาอรอินก็มาถึงเกาะ โดยที่เธอไม่ได้บอกพาทิศเลย หญิงสาว เช็คอินเข้าพักตามปกติเหมือนลูกค้าทั่วไป
จนกระทั่งถึงเวลาเย็นพระอาทิตย์จวนจะตกดิน อรอินเดินทอดน่องอยู่ริมชายหาด มองคลื่นทะเลและขอบฟ้าที่พระอาทิตย์จวนจะตก มันออกสีแดง ๆ อมส้มตัดกับสีน้ำทะเลดูสวยงามและสบายตา หญิงสาวยืนหันหน้าออกทะเล เหม่อมองอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ลมทะเลพัดผ่านปะทะร่างบางจนเส้นผมปลิวไสว
“ผมดีใจนะ ที่หนูอินมา” ร่างบางสะดุ้งเบา ๆ เธอจึงหันหน้ากลับมาดู
พาทิศยืนอยู่ด้านหลังเธอตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ถ้าเขาไม่พูดออกมาเธอก็รู้ไม่รู้ตัว
อรอินมองชายหนุ่มที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบจะสองอาทิตย์ได้
เขาอยู่ใส่ชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้น แถมกระดุมเสื้อก็ไม่ติดสักเม็ด ยามลมพัดเสื้อก็ปลิวไปตามแรงลม เผยให้เห็นหุ่นล่ำ ๆ
นี้อยากจะโชว์มากหรือไง เธอคิดในใจแล้วหันหน้ากลับมามองทะเลต่อ
“ทำไมไม่บอกก่อน ผมจะได้ออกไปรับ” พาทิศเดินมายืนข้าง ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ อินไม่อยากรบกวน” เธอพูดไปงั้น ๆ เพราะเธอมาถึงตั้งแต่เช้าแล้ว แต่พึงจะมาเจอเขาก็เกือบค่ำ
“เดี๋ยวผมเปลี่ยนห้องให้ หนูอินไปพักที่บ้านใหญ่” พาทิศเอ่ยบอก
“ได้ไงกันคะ อินก็เป็นลูกค้าทั่วไป เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด”
ทั้งสองหันมาสบตากันพาทิศอ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดออกมา เพราะคิดว่าจะไม่ถึงเวลา
“ไปทานข้าวเย็นกัน” ชายหนุ่มเอ่ยชวน
“ค่ะ” เธอรับคำแล้วทั้งสองก็เดินเคียงกันไป แต่พอถึงทางแยกที่จะไปสวนอาหาร อรอินเดินเลี้ยวไปทางนั้น แต่พาทิศเดินแยกไปอีกทาง ทั้งสองจึงหยุดแล้วหันกลับมามองหน้ากัน
“ไม่ไปทานที่สวนอาหารเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัย
“ไม่…” พูดจบเขาก็หันกลับมาจูงมือหญิงสาวให้เดินตามไปอีกทาง ซึ่งก็คือทางกลับไปบ้านพักของเขา เธอเดินตามชายหนุ่มไป ดวงตามองแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินนำหน้า เขารู้สึกยังไงกลับเธอกันแน่ ที่ทำดีกับเธอมันเพราะอะไรกัน หรือเพราะเขาแค่สงสารที่เธอต้องเป็นฝ่ายถอนหมั้น เพื่อให้น้องสาวของเขาได้แต่งงานกับคนที่รัก อรอินคิดในใจอย่างสับสน
ในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ท้ายรีสอร์ต พาทิศพาเธอมานั่งที่โต๊ะที่ถูกจัดแจงไว้แล้วทั้งสองนั่งลง เพียงครู่เดียวก็มีคนมาจุดเทียนที่กลางโต๊ะ และมีอาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับไวน์ขวดหรู
อรอินมองหน้าชายหนุ่มสลับไปมากับของบนโต๊ะ
“ไม่เห็นต้องเตรียมเยอะขนาดนี้เลย เรากินที่สวนอาหารก็ได้” เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย
“ไม่ได้ มื้อพิเศษต้องกินกับคนที่พิเศษสิ”
“คนพิเศษเหรอ” หญิงสาวทวนคำพูดเขา
พาทิศยิ้มกริ่ม ผายมือไปที่แก้วไวน์ให้เธอได้ลองชิม
“อืม…รสดี..หอมละมุม” หญิงสาวเอ่ยชมหลังจากไว้ชิมรสชาติไวน์…
อีกมุมหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนั้น” จันทร์ฉายน้องสาวของนุ้ยคนงานที่สนิทของพาทิศเอ่ยถามพี่ชาย หลังจากที่เห็นพาทิศพาอรอินมาที่บ้าน เธอจำได้ว่าอรอินเคยมาที่นี่แล้ว และวันนั้นยังเห็นเจ้านายตนอุ้มอรอินไปส่งถึงห้องด้วย
“แขกของนายนะ เอ็งอย่าไปยุ่งเลย” นุ้ยเอ่ยห้ามเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตนแอบชอบเจ้านายอยู่
“.......” จันทร์ฉายไม่พูดอะไรแต่ยังคงมองอรอินด้วยสายตาที่อิจฉา เธอแสดงออกว่าชอบพาทิศเสมอ ซึ่งชายหนุ่มไม่เคยจะสนใจเธอเลยสักนิด แถมจันทร์ฉายยังค่อยกีดกันพนักงานหญิงคนอื่น ๆ ไม่ให้เข้าใกล้ชายหนุ่มจนพนักงานหญิงคนอื่นต่างหวาดเกรง
“เลิกมอง แล้วกลับบ้านได้แล้ว” นุ้ยเอ่ยเตือนน้องอีกครั้ง
“ไม่ได้ ยังไงฉันก็จะต้องทำให้นายมาชอบให้ได้” สายตาเธอยังมองไปยังทั้งสอง
“เลิกฝันเถอะเอ็ง หางตานายเขาก็ยังไม่แล”
“พี่..” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป
“ค่อยดูนะสักวันฉันจะเป็นเมียนายให้ได้”
หญิงสาวกล่าวอย่างมาดมั่น
จันทร์ฉายเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง หุ่นอวบอิ่มหน้าอกหน้าใจนี้ไม่ต้องพูดถึงมันล้นทะลัก เดินไปทางไหนมีแต่หนุ่มเหลียวมอง แต่หญิงสาวไม่สนใจเลยสักนิด เธอสนใจแค่เจ้านายหุ่นล่ำอย่างพาทิศคนเดียวเท่านั้น
หลังจากทานอาหารเสร็จ พาทิศจึงเดินมาส่งเธอที่ห้องพัก ระหว่างทางก็พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงหน้าห้อง
“พรุ่งนี้ไปดำน้ำไหม” ชายหนุ่มเอ่ย
“ไปค่ะ อยากไปพอดีเลยมาคราวก่อนยังไม่ได้ไปดำเลย”
“งั้นพรุ่งนี้สาย ๆ ผมมารับนะแล้วเราไปด้วยกัน”
“ค่ะ” เธอตอบรับแล้วยิ้มหวานสั่งให้เขา ก่อนจะหันไปเปิดประตู
“ฝันดีนะ” พาทิศเอ่ยบอก ทำเอาอรอินเขินตัวแทบบิด เธอทำอะไรไม่ถูก จึงรีบปิดประตูหนี เข้าห้องมาได้รีบเอามือยกขึ้นมาประกบแก้มตนเองไว้พ่นลมออกทางปาก ด้วยอาการตื่นเต้น
“ฝันดงฝันดีอะไร บ้าน่าาา” หญิงสาวพึมพำเบา ๆ แล้วบิดไปบิดมาระบายความเขิน
พาทิศยืนยิ้มเก้ออยู่หน้าห้อง แค่เขาบอกว่าฝันดี เธอก็ปิดประตูหนีขนาดนี้ ถ้าสารภาพไปตรง ๆ ว่าเขาชอบเธอ เธอคงจะเกลียดเขาแน่ ๆ ชายหนุ่มเม้นปากเป็นเส้นตรง และเดินกลับไป
มีเวลาอีกสามเดือน ยังไงก็ต้องมีโอกาสบอกเธอบ้างล่ะว่ะ แต่ถ้าเธอไม่ชอบล่ะ ไอ้เรามันก็คนมีตำหนิด้วย ไม่ใช่คนดีอะไร พาทิศคิดอย่างหนักใจ กับความรักครั้งนี้
วันต่อมาอรอินรอพาทิศตามที่ได้นัดกันไปดำน้ำดูปะการัง แต่เธอรอเขาตั้งแต่สายตอนนี้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้วพาทิศก็ยังไม่มา
เธอจึงได้ออกมาเดินเล่น เจอเข้ากับพนักงานขอรีสอร์ตจึงได้เอ่ยถามก็ได้ความว่า ที่ฟาร์มหอยมุกมีปัญหาพาทิศจึงต้องรีบไปจัดการ
จนกระทั่งเวลาค่ำพาทิศจึงได้กลับมาหาเธอ
“ขอโทษนะ ที่ไม่ได้มาตามนัด หอยมุกบ่อใหม่อยู่ในช่วงอนุบาล ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ อินเข้าใจไว้ไปวันหลังก็ได้”
ทั้งสองอยู่คุยกันจนดึกดื่น และเป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน อรอินจะได้เจอกับพาทิศแค่ช่วงเย็นถึงดึกเท่านั้น
จนกระทั่งวันนี้ อรอินเบื่อ ๆ เธอเดินเล่นจนมาเจอกับนุ้ย พอดีพอได้ถามไถ่ก็รู้ว่าพาทิศยังอยู่ที่ฟาร์มหอยมุกเช่นเคย เธอจะอยากจะไปดูบ้าง นุ้ยจึงได้ขับรถพาเธอมา เพราะเห็นว่าเธอเป็นเเขกพิเศษของเจ้านาย
เมื่อมาถึงหญิงสาวก็เห็นว่าพาทิศขะมักเขม้น ทำงานของเขาอยู่อยากไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอมองเขาด้วยความชื่นชมและเห็นว่าพาทิศก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ถึงจะเคยทำผิดมาบ้าง แต่ตอนนี้เขาเป็นคนใหม่แถมยังขยันขันแข็งถึงเพียงนี้
เมื่อหญิงสาวเห็นพาทิศเดินมานั่งพักเหนื่อยเธอจึงเดินเข้าไปหาเขา แค่พาทิศดูท่าทางแปลกใจมาก
“หนูอินมาได้ยังไง” เข้ากล่าวเสียงแข็ง เงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์และแสงแดดที่กำลังร้อนระอุ
“อิน..อินแค่..” เธอถึงกับพูดไม่ออกที่เข้าขึ้นเสียงใส่ เหมือนไม่พอใจที่เธอมาหา
พาทิศมองสำรวจร่างกายของตนเองที่เปรอะเปื้อนและเหม็นกลิ่นคาว เขาก้าวเท้าถอยหลังออกห่างจากหญิงสาวกลัวว่าเธอจะรังเกียจ และมองคาดโทษไปยังนุ้ยที่เป็นคนพาเธอมา
“อย่าโทษพี่นุ้ยเลยค่ะ อินให้พี่เขาพามาเอง งั้นอินกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวหนูอิน” พาทิศรั้งเธอไว้
“นุ้ยไปส่งคุณอินที่บ้านพักริมผาก่อนเดี๋ยวผมตามไป” ชายหนุ่มหันไปสั่งลูกน้อง
“หนูอินไปรอที่นั่นก่อนนะ เดี๋ยวผมตามไป” พาทิศหันไปบอกเธอ เธอพยักหน้ารับแล้วจึงตามนุ้ยรถไป
“คุณพาทิศคงเห็นว่าแดดร้อนเลยไม่อยากให้คุณอินรอ”
“เหรอคะ ก็แค่แดดร้อนอินไม่ได้บอบบางขนาดที่จะโดดแดดไม่ได้สักหน่อยแค่นี้ก็ต้องขึ้นเสียงใส่” เธอกล่าวอย่างงอน ๆ
“แล้วที่นี่มีบ้านพักอีกเหรอคะ”
“มีครับปกติคุณพาทิศจะพักที่นี่เสียเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้กลับไปที่บ้านใหญ่ครับ”
“เอ๊ะ…” ก็มีบ้านอีกหลังหนึ่งนี่แล้วตอนนั้นบอกไม่มีที่นอน เธอได้แต่คิดในใจ นึกไปถึงวันนั้นที่พาทิศมาขอนอนด้วย
ไม่นานอรอินก็มาถึงบ้านพักแห่งนี้ นุ้ยเปิดประตูให้แล้วขอตัวกลับก่อน เธอจึงได้เดินเข้ามารอด้านใน หญิงสาวเดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่มีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน
“นี้คงเป็นห้องนอน” อรอินเปิดประตูเข้าไป เป็นห้องนอนตามคาด แต่เธอถึงกลับตาลุกวาว ห้องนอนของพาทิศนี้ตั้งอยู่บน จะเรียกว่าหน้าผาก็ว่าได้เพราะมองออกไปด้านนอกที่มีเพียงแค่กระจกกั้น พบเพียงแค่โขดหินและท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา เธอค่อย ๆ ก้าวขามายืนชิดบานกระจกสองมือเกาะแนบมองลงไปยังด้านล่าง ร่างบางถึงกับใจหายวาบมันสูงมาก ๆ ทำเอาเธอใจหวิว ก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ
“เอ๊ะ…” อรอินก้าวถอยออกมาจากกระจก หลังเธอสัมผัสได้ถึงบางอย่าง จึงได้หันกลับมา
“คุณ…” ชอบมาไม่ให้สุ้มให้เสียง ดวงตาของเธอมองอยู่ระดับอกเขาก่อนจะเลือนต่ำลง…
เอาอีกแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวโชว์ซิกแพคให้ใครดู แต่ก็มีเธออยู่คนเดียวนี้ คิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบหันหน้ากลับมาทางกระจกที่เดิม เขานี้ชอบทำให้เธอหวั่นไหวตลอดเลย
“ตัวผมเหม็นใช่ไหม” เขาเอ่ยถามเพราะเห็นเธอหันหน้าหนี
“ก็มีกลิ่นคาว ๆ อยู่ค่ะ” เธอตอบกลับไปแต่ไม่หันหน้ามามอง
“หนูอินรังเกียจไหม” ชายหนุ่มถามเพราะอยากรู้ว่าเธอคิดยังไง
“ไม่ได้รังเกียจ ก็คุณต้องทำงาน” อรอินอึ้งกลับคำถามของเขา แต่ก็ตอบไปตามที่เธอรู้สึกจริง ๆ
“แล้วทำไมถึงหันหน้าหนี”
“ก็ ๆ ก็ ๆ” อรอินพูดไม่ออกนี้เขาจะแกล้งเธอหรือไง
พาทิศจึงเอื้อมมือไปจับให้หญิงสาวหันกลับมา แต่เธอก็ยังหันหน้าหนี
“คุณไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนได้ไหม”
“ไหนบอกไม่รังเกียจ”
“ก็คุณโป้อยู่” เธอสวนกลับ พาทิศจึงได้เข้าใจ เธอไม่ได้รังเกียจที่เขาต้องทำงานเปรอะเปื้อนและตัวเหม็นคาว
“โป้ที่ไหน มันเรื่องปกติของผู้ชายใคร ๆ เขาก็ถอดเสื้อกันทั้งนั้น”
“แต่อินเป็นผู้หญิงยืนอยู่ตรงนี้ คุณไม่อายแต่..อินอาย” เธอพูดออกมาอย่างหมดเปลือก พาทิศได้ฟังก็ยิ้มขำกับท่าทางของเธอ
“หนูอินอายเหรอ เห็นชอบมอง” พาทิศแกล้งแหย่
“ไม่ใช่สักหน่อย ใครจะไปมอง ไม่มี๊” อรอินหันกลับมาเผชิญหน้ากลับชายหนุ่ม ดวงตาจ้องไปที่ใบหน้าคมเข้ม แต่เจ้ากรรมทำไมเธอควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนี้นะ ไอ้สายตาบ้านี้ทำไมตามองต่ำลงไปทุกที่เลยนะ เธอกำลังก่นด่าตนเองในใจ ที่ขณะที่กำลังจ้องที่ซิกแพคหกลูกของเขา จนได้ยินเสียงชายหนุ่มขำเบา ๆ อรอินรีบหลับตาปี๋ สองมือยกขึ้นมารัวฟาดตีใส่อกพาทิศ
“คุณ…จงใจแกล้งอิน…คุณมันชอบยั่วยวน ไปเลยนะไปอาบน้ำใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” อรอินไล่ตีจนพาทิศถอยกู่เข้าห้องน้ำไป
“ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วค่อยออกมา” เธอตะโกนเข้าไปอีก
เมื่อชายหนุ่มเข้าห้องน้ำไปแล้ว เธอหันหน้าออกมาทางกระจกใช้มือโบกพัดใบหน้าเบา
“คนอะไรชอบยั่วยวนจริง ๆ คิดว่าตัวเองหุ่นดีนักหรือไง” เธอพึมพำบ่นเบา ๆ แต่พอคิดไปคิดมาเขาก็หุ่นดีจริง ๆ แหละ ภาพเมื่อครู่ที่พาทิศนุ่งผ้าขนหนูนั้นก็แวบเขามาในหัวจนหญิงสาวเคลิบเคลิ้ม แต่แล้วเธอก็รีบสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป..
