CHAPTER 7 จูบแรก
หลังจากนั้นดัสตินพยายามเข้าใกล้เฟรินทร์โดยการไปบ้านของเหมยหลินแทบทุกวัน จนเริ่มมีข่าวออกมาว่าทั้งสองกำลังคบหากันอย่างจริงจัง
เขากำลังคิดหาแผนร้ายเพื่อเข้าให้หญิงสาว เจอหน้ากันทีไรเขาพยายามลวนลามตลอด และมันต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดเสมอเขาศึกษาท่วงท่ามาแล้วรับรองรอบนี้ เฟรินทร์ทำอะไรเขาไม่ได้
“ว่าไงจ๊ะคนสวยของไอ้ดัสติน”
“โรคจิตหรือไง”
เธอเริ่มกลัวเขาขึ้นมาเสียแล้วเฟรินทร์ถอยหลังเมื่อเขาคุกคามเข้ามา จนแผ่นหลังของเธอชนกับผนังพอดี เขาใช้มือยันตัวเธอไว้
“ถะ...ถอยออกไป”
“รอบนี้คนสวยทำอะไรพี่ไม่ได้อีกแล้วจ้ะ” สรรพนามเปลี่ยนไปจนหญิงสาวขนลุก สายตาหวานเยิ้มยามที่อยู่ใกล้เฟรินทร์
“ไอ้โรคจิตป่วยก็ไปรักษา”
“อยากให้คนสวยรักษามากกว่า”
“คุณดัสตินอยู่แถวนี้ไหมคะ?” เหมยหลินกำลังเดินใกล้เข้ามา
ทันทีได้ยินเสียงเหมยหลินเขาฉุดรั้งเธอเข้ามุมมืดของบ้าน และรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอพร้อมกับดันขึ้นเหนือหัวและกดตรึงไว้กับผนัง ก่อนจะบดเบียดปากหนาลงอย่างหื่นกระหาย เฟรินทร์พยายามเบือนหน้าหลบ แต่ก็ถูกมือหนาอีกข้างบีบปลายคางเอาไว้ เมื่อจูบจนพอใจก็ผละออก แล้วกระซิบข้างหู
“จูบแรกสินะ หวานจัง หวานจนพี่อยากจะชิมอย่างอื่นแล้วสิ”
“อื้อ อ๊ะ” ริมฝีปากของเขาบดคลึงริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง เขาจูบเธอเนิ่นนานจนเธอแทบจะขาดใจ แม้ว่าพยายามดันร่างของเขาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม และบีบบังคับให้เธอรับจูบร้อนแรงนั้นต่อ
เขาปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระจูบที่ไร้เดียงสาทำให้เขาแทบคลั่ง ไม่อยากเธอไปไหน
เพียะ เพียะ
เฟรินทร์ตบหน้าเขาเต็มแรงถึงสองครั้ง โกรธเขาจนตัวสั่นที่ทำรุ่มร่ามกับเธอทั้งที่กำลังคบหากับเหมยหลินแท้ๆ หญิงสาวใช้หลังมือถูปากตัวเองอย่างนึกรังเกียจสัมผัสของเขา
‘ตบครั้งเดียวเหมือนคนอื่นไม่ได้รึไง!’
ดัสตินไม่โกรธเลยสักนิดกลับยิ้มเยาะสมใจที่เขาได้จูบแรกของเฟรินทร์มา เขาเดินออกไปจากบ้านหลังนี้โดยไม่ร่ำลาเหมยหลินสักคำ
การกระทำครั้งนั้นเหมยหลินเห็นตั้งแต่ต้น แต่เธอเลือกที่จะไม่โวยวายแล้วมาจัดการกับตัวปัญหาทีหลัง เพราะกลัวว่าจะเสียดัสตินไป หลังจากที่เขากลับไปแล้วเธอมุ่งหน้าไปจัดการตัวต้นเหตุทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เฟรินทร์แอบส่องตาแมวดูเห็นว่าเป็นเหมยหลินมายืนเคาะประตูจึงแปลกใจเพราะหญิงสาวไม่เคยมาหาเธอถึงที่นี่
เพียะ เพียะ
ทันทีที่เฟรินทร์เปิดประตูกลับถูกเหมยหลินตบหน้าถึงสองครั้ง
“คุณเหมยหลิน”
“ถ้าแกยังไม่เลิกยั่วคุณดัสติน แกจะโดนหนักกว่านี้ และฉันก็เฉดหัวเธอออกจากบ้านหลังนี้ จำใส่สมองแกไว้อีลูกเมียน้อย”
จากนั้นเฟรินทร์ระวังตัวและเลี่ยงที่จะเจอกับเขา หากเขามาเธอก็จะขึ้นมาหลบบนห้อง รอจนกว่าดัสตินจะกลับไปเธอจึงจะลงทำงาน
แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหมยหลินพอใจเลยสักนิด ยังคงคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอด คืนนี้ดัสตินโทรนัดเหมยหลินออกไปเที่ยว โดยไม่ลืมหันมาเยาะเย้ยเฟรินทร์
“ความแตกต่างระหว่างฉันกับแกแล้วหรือยัง? อย่างแกก็แค่ดอกไม้ริมทางไม่มีค่า ไม่มีใครอยากจะจริงจังด้วยหรอกเหมือนแม่แกนั่นแหละ”
คล้อยหลังที่เหมยหลินออกไปเฟรินทร์ก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บใจ เธอไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเลย และไม่เคยคิดจะแข่งขันกับเหมยหลินด้วย ทำไมเธอต้องถูกทำแบบนี้ด้วย
.
“ทำอะไร!”
“คุณทำอะไรหนูปล่อยนะ” มินนี่ร้องเสียงดังเมื่อถูกเขาจับได้ว่าเธอกำลังแอบเข้ามารื้อค้นเอกสารในห้องทำงานของเขา
“ฉันถามว่าจะทำอะไร”
“หนูจะกลับเมืองไทย” เขาไม่มีสิทธิ์กักขังเธอไว้ทำเหมือนว่าเธอเป็นนักโทษของเขา
“ฉันไม่ให้กลับ!” พูดไม่รู้เรื่องหรือไงพอเขาตะคอกใส่น้ำตาเรียกคะแนนความสงสารจึงไหลอาบแก้ม เขาพยายามใจดีกับมินนี่แต่หญิงสาวไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาพูด
“ฮึก ฮือ คุณจะขังหนูไว้เป็นนางบำเรอของคุณทำไม”
“มินนี่เลิกร้องได้แล้ว”
แดนนี่ดึงหญิงสาวมากอดไว้แน่นเขาไม่เคยตามง้อใครจึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร มินนี่ถึงจะเลิกร้องไห้ตอนนี้เขายังไม่พร้อมปล่อยเธอไปไหน
“ปล่อย คอยดูนะหนูจะหนีไปจากคุณให้ได้”
“รอให้ฉันตายก่อนคอยคิดทางหนี”
“กรี๊ดดด ไอ้สาระเลว”
เขาอุ้มหญิงสาวพาดบ่าพอมินนี่ดิ้นเขาฟาดมือลงที่ก้นงามทุกครั้ง พอถึงเตียงกว้างเขาโยนลงไปสุดแรงแล้วรีบตามมาขึ้นคร่อมหญิงสาว
“ถอยออกไปอย่าทำ...”
“เธอห้ามฉันได้เหรอ” เขาบีบคางหญิงสาวเพื่อให้ไม่ให้หันหน้าหลบหนี ปากหนาจูบลงมาอย่างร้อนแรง เขาไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ในตอนนี้ ใครจะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้เขากำลังใจติดใจแม่กวางน้อย
“อื้อออ”
“เอาใจฉันสิทำให้ฉันพอใจ” เขาทิ้งลงนอนลับตัวมินนี่ให้ขึ้นมานอนบนตัวเขาแทน มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของหญิงสาว
“ถ้าฉันพอใจอะไรก็ให้เธอได้ทุกอย่าง”
มินนี่ได้ยินแบบนั้นไม่รอช้าทำตามที่เขาต้องการทันที เธอไม่อยากอยู่เป็นนางบำเรอของเขาหากวันไหนที่เขาต้องแต่งงาน แล้วเธอจะต้องทำอย่างไรคงไม่พ้นต้องออกจากบ้านหลัง สิ่งเดียวที่กลัวคือตกหลุมรักผู้ชายโฉดคนนี้
.
“ผมอยากได้ที่ดินในมาเก๊า” ไห่ฉงบอกความต้องการไปพ่อของเขามีที่ดินผืนงาม เขาอยากได้ไปทำกาสิโนแข่งกับดัสติน
“พ่อคงให้ไม่ได้”
“ทำไมครับผมเป็นลูกชายคุณพ่อเหมือนกัน”
“พ่อขายมันให้คนอื่นแล้ว”
ชิงอีนั่งอ่านเอกสารไปเขาไม่ทุกข์ร้อนเพราะที่ดินผืนนั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
“คุณพ่อขายมันไปให้ใครทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย?”
“แกจะไปรู้เรื่องอะไรวันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่” ชิงอีวางปากกาลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองลูกชายที่ไม่เอาไหน
“มันชื่ออะไรครับผมจะไปซื้อกลับมา”
“25ล้านเหรียญ”
ไห่ฉงถึงกับพูดไม่ออกเพราะราคาที่เอ่ยมานั้นเขาไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อกลับคืนมาได้แน่ เจ็บใจที่พ่อไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย
“แล้วเงินคุณพ่อเอาไปไหนหมด”
“เอาลงทุนสิถามได้จะนอนอยู่เฉยๆ เงินไม่งอกเงยขึ้นมาหรอก”
“ผมจะตามสืบให้ได้ว่าเป็นใคร”
เฟรินทร์ได้ยินในสิ่งที่สองพ่อลูกพูดเรื่องทรัพย์สินเงินทองเธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่ต้องการเงินจากใครด้วยตอนนี้หาทางเก็บเงินให้ได้แล้วออกไปจากที่นี่
“คุณพอลเรื่องที่ดินในมาเก๊าห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่าตอนนี้เป็นชื่อใคร” ชิงอีวางสายเขากลัวว่าเจ้าของที่แท้จริงจะได้รับอันตราย หากสิ้นเขาไปแล้วใครจะตามปกป้องได้
