CHAPTER 5 อยากลองของ
แดนนี่นั่งหน้าเครียดเขาพอได้ยินข่าวมาบ้างว่าตอนนี้กำลังมีคนตามจีบเหมยหลินแต่ไม่คิดว่าเขาคนนั้นจะเป็นดัสติน ผู้ชายที่เขาไม่อยากวุ่นวายด้วย
“คุณโอเคไหมคะ”
“ผู้หญิงเขาไม่เลือกผมจะทำอะไรได้”
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เฟรินทร์กำลังจะลงจากรถแต่ดัสตินคว้าแขนเธอไว้ก่อน เหมือนเขามีบางอย่างถามแต่เขากลับไม่พูด ใบหน้าของทั้งสองคนหันมองกันหากใครเห็นต้องเข้าใจว่ากำลังจู๋จี๋กัน
ปัง!
“ว้าย โอ๊ยฉันเจ็บ” เฟรินทร์ตกใจที่เห็นเขาคนนั้น แถมยังลากเธอลงมาจากรถของแดนนี่ตอนนี้มือของเขาราบเอวเธอไว้แน่น ทำให้หน้าอกของเธอเสียดสีกับหน้าอกของเขาพอดี
“ปล่อยเธอนะคุณดัสติน”
“มึงชอบแส่อีกแล้วนะ” เผลอหน่อยไม่ได้เลยยัยหนูของเขาไปกับคนอื่นเสียแล้ว อะไรที่เขาหมายตาไว้เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ
“คุณปล่อยผู้หญิงดีกว่าน้องเขาเจ็บนะ”
“น้อง? มึงมีน้องสาวเมื่อไรกูไม่เห็นรู้” เขาโกรธจนเผลอบีบต้นแขนของเธอแน่น จนเกิดเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้ว
“คุณปล่อยฉัน!”
“เผลอไม่ได้เลยนะ...มึงอย่าเสือกตามมา”
“คุณแดนนี่กลับไปเถอะค่ะ”
แดนนี่จึงหยุดมองดัสตินลากเฟรินทร์ขึ้นรถ เขางงเป็นไก่ตาแตกกำลังตามจีบเหมยหลินอยู่แล้วทำไมถึงทำท่าทีหวงเฟรินทร์เสียขนาดนั้น
“เปิดประตู!”
“ไม่วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอให้เข็ด” เขาโกรธมากที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น
“ไม่เปิดใช่ไหม”
“เออ ไม่เปิดทุบให้ตายกระจกไม่แตกหรอก”
เพียะ!
“โอ้ยยยย” หัวกูแตกแทนยัยหนูของเขามือหนักจังเลย ตบมาทีเล่นเอาเขามึนศีรษะไปหมด
โทนี่กับลี่ถังมองสบตากันจังหวะที่เขามองกระจกหลังเป็นช็อตที่หญิงสาวกำลังตบหัวเจ้านายของเขาพอดี ตบแรงจนหัวโยกไปหมด
“เปิดประตูฉันจะลง”
“เธอกล้าตบฉันเหรอมานี่” เขากระชากข้อมือของเธอจนตัวปลิวมานั่งอยู่บนตักของเขา ปากหนาต้องร้องดังลั่นอีกครั้ง
“โอ๊ยยยย ยอมแล้วๆๆๆ...ไอ้ลี่ถังเปิดประตูดิวะ!”
ดัสตินมองหลังมือที่ตอนนี้มีรอยเขี้ยวฟันกัดจนเห็นได้อย่างชัดเจน น่าโมโหโดนตบหัวต่อหน้าลูกน้องไม่พอยังมากัดมือของเขาจนมีเลือดไหลซิมออกมา
“เอ่อ...ไปทำแผลไหมครับ”
“ดูถูกกูโดนผู้หญิงทำร้ายแค่นี้ไม่ตายหรอก” แต่ตอนนี้เริ่มมึนหัว การจะเข้าใกล้เฟรินทร์ไม่ใช่เรื่องง่ายวันนี้เกือบเหลือแต่ชื่อ วันหน้าจะเหลืออะไร
เฟรินทร์รีบวิ่งเข้ามาในบ้านเธอยังตกใจไม่หายที่เขาฉุดเธอขึ้นรถไปแบบนั้น วันหน้าต้องเจออะไรบ้างเหมยหลินชอบเขาได้อย่างไร ผู้ชายมักมากเอากันไม่เลือกสถานที่
“แกไปไหนมานานจังเลย”
เฟรินทร์ออกมากับแดนนี่ตั้งนานสองนานแต่ไม่ถึงบ้านเสียที หรือว่ามันจะไปเล่าอะไรให้ชายหนุ่มฟัง
“พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะสร้อยของคุณค่ะ”
“อย่าพูดเรื่องของฉันให้แดนนี่ฟังอีกเราสองคนจบกันแล้ว อีกอย่างอย่าสาระแนไปอ่อยคุณดัสตินอยู่ให้ห่างจากเขา” ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ถามถึงเฟรินทร์จนเธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาจีบใครกันแน่
“ค่ะ”
.
แดนนี่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ มือข้างหนึ่งจับแก้ววิสกี้ที่เหลือเพียงครึ่งเดียว เขาหมุนมันเบาๆ มองน้ำสีอำพันไหลวนไปตามแรงเหวี่ยงของข้อมือ แสงไฟนีออนสีแดงส้มสะท้อนผ่านของเหลวในแก้ว สร้างเงาทอดยาวลงบนเคาน์เตอร์ไม้ขัดมัน เสียงเพลงจังหวะหนักแน่นจากลำโพงดังกลบทุกเสียงรอบข้าง แต่ในหัวของเขากลับเงียบสงัด มีเพียงความคิดวกวนกับรสชาติขมปร่าที่ติดปลายลิ้น
“ตกลงไปไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้น
แดนนี่มองคนที่นั่งอยู่ข้างกายที่พยายามตามตื๊อให้เขาซื้อขาย ฟังไม่ผิดซื้อขายบริการอายุเข้าเลขสองหรือยังเขาไม่แน่ใจเพราะหน้าเด็กมาก
“ร้านเงินเหรอ?”
มินนี่กัดปาดหยักหน้าเธอมาทำงานตามคำแนะนำของญาติผู้พี่ แต่กลับถูกหลอกให้มาทำงานขายบริการในเมื่อชีวิตมันบัดซบ จึงเลือกลูกค้าด้วยตัวเองเป้าหมายก็คือเขาคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน
“อายุเท่าไร”
“24 ค่ะ” พูดแล้วต้องรีบหลบสายตาเพราะเธอไม่กล้าสบตาอันคมกริบของเขา หนุ่มหล่อลูกครึ่งหน้าตาดูดีมากการแต่งตัวก็ดี
“ไหนหลักฐาน”
“เอ่อ...ไม่มีค่ะพอดีหนูถูกยึดพาสปอร์ต”
“ไม่ใช่คนที่นี่” แดนนี่เห็นหญิงสาวส่ายหน้าใบหน้าเขานึกว่าคนจีนผิวขาวดวงตากลมโตหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักไม่เบา
“ฉันจะซื้อตามขึ้นไปบนห้อง” บนไนต์คลับแห่งนี้ชั้นบนสุดจะมีห้องวีไอพีเอาไวบริการแขกกระเป๋าหนัก มินนี่เดินตามเขามาถึงห้องสุดหรู
“ดะ เดี๋ยวค่ะคุณจะเอาเลยเหรอ”
“จะขายก็อย่าถามเยอะ”
แดนนี่กระโจนใส่สาวน้อยเขารีบจนลืมถามชื่อ จะชื่ออะไรไม่จำเป็นต้องสนใจพอเช้ามาจ่ายเงินจบแยกย้าย ไม่มีอะไรผูกมัดกัน
“อ๊า อื้อ พะ...แล้ว” อีตาบ้าเกิดคึกอะไรขึ้นมาถึงจับเธอคิดเสียหลายรอบ ตอนนี้ส่วนล่างของเธอระบมไปหมด
แดนนี่กดปากหนักๆ ลงไปที่แก้มทั้งสองข้างของคนใต้ร่าง หญิงสาวยังบริสุทธิ์ผุดผ่องหวานจนเขาไม่อยากปล่อยไปไหน
“อืม...อ๊า” เสียงร้องครั้งสุดท้ายเขาปลดปล่อยน้ำกามเข้าไปในรูร่องทุกหยาดหยด ไม่ยอมดึงตัวตนออกมาเขาเสียบคารูไว้แบบนั้น เอาสนุกไม่พอจนเขาลืมป้องกันไปเสียสนิท
05.00 น.
“อื้อ ถือว่าเป็นค่าตัวหนูก็แล้วกันจะได้มีเงินกลับเมืองไทย” มินนี่หยิบเงินของเขาออกมาจนหมดกระเป๋าแต่มีไม่กี่ใบ เมื่อหันไปเห็นของมีค่าจึงรีบคว้าแล้วรีบออกมาจากขุมนรกนั่น
“จะไปไหน!”
“ว้าย คะ..คุณตื่นตั้งแต่เมื่อไร”
“หึ ยัยแมวขโมย”
คิดจะขโมยนาฬิการาคาหลายล้านของเขา เขาตื่นตั้งแต่หญิงสาวลุกไปสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว
“หนูเปล่าพอดีมีธุระจะรีบออกไป”
“อย่ามาโกหกมาให้ฉันตีก้นเสียดีๆ” แดนนี่คว้าตัวของหญิงสาวแต่เธอหลบทันทำให้เขาคว้าได้แต่กระเป๋า จึงยื้อฉุดกระชากกันไปมา
ปึก
เขาเห็นเอกสารพาสปอร์ตร่วงหล่นแล้วไหนบอกไม่มี ยัยเด็กนี่กำลังโกหกเขาอยู่ มือหนารีบเปิดดูว่ามีอะไรที่หญิงสาวปกปิดเขาไว้อีก
Thailand เป็นคนไทยชื่อมีนรญา คณานาง เขาไล่อ่านไปเรื่อยๆ จนถึงวันเดือนปีเดือนที่หญิงสาวบอกเขาว่าอายุ 24
“นี่อะไร”
“พาสปอร์ตหนูไงคะ”
“เธอเล่นตลกอะไร ห๊ะ! บอกมาว่าเธอเข้ามาทำอะไรแล้วใครให้ทำงาน!”
“โอ๊ย ปล่อยสิไอ้แก่ทำตัวเป็นตำรวจไปได้” เธอไม่ใช่คนร้ายที่ต้องตอบคำถามเขา
“เธอด่าใครไอ้แก่!” รับไม่ได้ที่ถูกเด็กอายุไม่ถึงสิบแปดเรียกไอ้แก่ เขาอายุห่างจากหญิงสาวสิบกว่าปีก็ไม่แก่เท่าไร
“ปล่อยฉัน”
“พูดไม่เพราะฉันจะทำเธอส่งตำรวจ”
“โอ๊ยยย ปล่อยฉันจะกลับ”
“ไม่ปล่อยโว้ย มานี่!” เขาอุ้มหญิงสาวพาดบ่าเดินออกจากห้อง สั่งให้ลูกน้องเก็บข้าวของตามไปที่เพ้นท์เฮาส์ เจ็บใจที่ถูกเด็กหลอก เอาจนเอวเคล็ดเธอบอกว่าไอ้แก่...
เดี๋ยวเขาจะสั่งสอนว่าอย่ามาหยามเขา คนอย่างแดนนี่ คารุกโซ ไม่ยอมแพ้ให้ใครมาด่าว่าแก่
“ปล่อยฉันไอ้แก่”
“โอ๊ย ยัยเด็กบ้า...พวกมึงพาผ้ามาหมัดดิ” หน้าหล่อๆ ของเขามีรอยช้ำรอบดวงตาเมื่อถูกสาวน้อยต่อยเข้าเต็มเบ้า เขาจับหญิงสาวเข้าในรถแล้วกลับเพ้นท์ฮ้าส์ทันที ยังไม่เบื่อจะรีบหนีจากกันไปไหน
