บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1-3

แต่ลูกเขยตัวดีของแม่ยายดันบอกแก่มารดาของเธอเมื่อเช้าก่อนที่เขาจะออกไปทำงานว่านึกอยากกิน ‘ขนมจีนน้ำย้อย’ เน้นย้ำว่าต้องเป็นฝีมือเธอ มารดาที่ไม่รู้เรื่องราวคิดว่าเธอกับเขารักกันปานจะกลืนจนเกิดวิวาห์สายฟ้าแลบ อยากเอาใจลูกเขยจึงไล่ให้เธอทำขนมจีนน้ำย้อยเอาใจสามีตั้งแต่เช้า

“หมอผีบ้า อยากกิ๋นคนเดียว เดือดฮ้อนคนอื่น” (หมอบ้า อยากกินเอง เดือดร้อนคนอื่น) ถึงปากจะบ่นแต่มือของหญิงสาวก็ระวิงจัดกลุ่มขนมจีนสีสวยลงจาน แล้วสังเกตว่าที่จัดเป็นกลุ่มพอดีคำไว้ได้เกือบสิบคำ พอหันมาอีกทีกลับเหลือขนมจีนเพียงไม่กี่คำ

สีตลาปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นเป็นเม็ดบนหน้าผาก พลางยิ้มผุดพราวทำให้ใบหน้าหวานอยู่แล้วยิ่งชวนน่ามองมากขึ้นอีก คนที่ทำให้เธอยิ้มออกแต่ดุไม่ออกไม่ใช่ใคร แต่เป็นน้องสาววัยห้าขวบลูกหลงของพ่อและแม่ที่มีอายุห่างจากพี่สาวร่วมยี่สิบปี

หญิงสาวย่อตัวลงไปส่ายหน้ายิ้มๆ ให้กับแม่คนเจ้าเล่ห์ที่อาสาจะมาเป็นผู้ช่วยตัวน้อย แต่ดูทรงแล้วมาเป็นผู้ช่วยกินมากกว่า เด็กน้อยกำลังหยิบขนมจีนสีชมพูหย่อนใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ พลางบ่นอุบอิบว่า

“ลำแต้ๆ เจ้า” (อร่อยมากๆ ค่ะ) เด็กหญิงยิ้มแป้น นอกจากสีสันสวยงาม ความหนึบเหนียวของเส้นขนมจีนที่ทำใหม่ๆ ทำให้เด็กหญิงอยากจะกินอีก

“ลูกต๋าวเจ้า เอื้อยสีตลาสอนแล้วใจ้ก่อเจ้า ว่าห้ามหยิบของคนอื่นกิ๋นก่อนได้ฮับอนุญาต” (ลูกตาวคะ พี่สีตลาสอนแล้วใช่ไหมคะ ว่าห้ามหยิบของคนอื่นกินก่อนได้รับอนุญาต)

สีตลาไม่ได้หวงขนมจีนเส้นสดที่เตรียมไว้เพื่อรอใครบางคนที่รู้ว่าเขากลับมาแล้ว เพียงแต่เธอยังไม่อยากออกไปเจอหน้าลูกเขยตัวดีของแม่

เด็กหญิงหน้าตาน่าเอ็นดูเกล้าผมมวยเผยวงหน้าจิ้มลิ้มในชุดผ้าฝ้ายตัดเย็บสไตล์พื้นเมือง กลืนขนมจีนสดนุ่มหนึบลงคอไปแล้ว แต่ในขณะที่ท้องกลมๆ ยังเก็บขนมจีนเส้นสดสีสวยได้อีกเยอะรีบตอบพี่สาว

“จะอั้น เอื้อยสีตลาก่ะอนุญาตให้ลูกต๋าวกินนักๆ ก่ะเจ้า” (ถ้างั้น พี่สีตลาก็อนุญาตให้ลูกตาวกินเยอะๆ สิคะ) เด็กหญิงเอียงคอมองแล้วยิ้มให้อย่างน่ารัก

สีตลาจะไม่บ่นเลย หากไม่รู้ว่าก่อนจะหนีลงจากเรือนหลังใหญ่ที่ปลูกสูงไล่ระดับขึ้นไปจากเรือนหลังเล็กซึ่งเธอใช้อยู่ร่วมกับหมอครองฤทธิ์เป็นเรือนหอ แม่น้องสาวตัวแสบกินอาหารเย็นจนอิ่มแปล้มาแล้ว แต่พอรู้ว่าเธอถูกไล่มาทำขนมจีนน้ำย้อย แม่หนูที่กินเผ็ดไม่ได้แต่ชอบกินเส้นขนมจีนก็วิ่งปร๋อลงจากเรือน แอบหนีแม่มายืนให้กำลังใจและเป็นผู้ช่วยชิม

ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นแค่การแต่งงานจอมปลอมที่เธอและเขาต้องเล่นละครตบตาผู้คนต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่สีตลาจำทนต้องทำทุกอย่างให้เหมือนภรรยาของเขา สีตลาบอกว่าจะทำเส้นสดให้ลูกตาวพิเศษอีกจาน แม่คนแก้มป่องถึงได้ยืนดูอย่างสงบได้

มือเล็กบีบเป็นเส้นจากแป้งหมักลงในหม้อน้ำร้อน ก่อนจะสาวขึ้นมาล้างน้ำเย็น แล้วจัดเป็นกลุ่มคำสวยงามพอดีคำ ขนมจีนเส้นสดที่สีตลาทำมีรสชาติเหนียวนุ่ม ส่วนสีสันที่สวยงามนั้น สีม่วงเกิดจากน้ำดอกอัญชัน สีชมพูหวานเกิดจากบีทรูตที่ปลูกไว้หลังบ้าน ขุดขึ้นมาคั้นน้ำ นำมาผสมกับตัวแป้งข้าวเจ้า ส่วนสีเหลืองได้จากสีของขมิ้นชัน

“ลูกต๋าวเจ้า เดียวกิ๋นแล้วต้องฟั่งไปแปร๋งฟัน แล้วกลับขึ้นเฮือนได้แล้วเน้อ” (ลูกตาวคะ เดี๋ยวกินเสร็จต้องรีบแปรงฟัน แล้วขึ้นบ้านได้แล้วนะ)

สีตลาเงี่ยหูฟัง แต่เสียงร่าเริงสดใสของแม่จอมแสบหายไป จนกระทั่งหญิงสาวนึกแปลกใจจึงเงยหน้าขึ้นมาจากหม้อต้มที่กำลังเดือดพล่าน เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างกำยำหนั่นแน่นพาหุ่นล่ำๆ เข้ามาเบียดแนบชิด สีตลาหันมาก็ไม่เห็นแม่ตัวน้อยที่มายืนให้กำลังใจในครัว เห็นเพียงแต่คนตัวโตที่เมื่อครู่แอบติดสินบนลูกตาวให้กลับขึ้นเรือนไปก่อน แล้วพรุ่งนี้จะซื้อป๊อกกี้กล่องสีชมพูที่แม่หนูชอบมาฝาก

เท่านั้น เด็กหญิงก็พร้อมจะวิ่งปร๋อจากไปจากห้องครัวทันทีเพราะป๊อกกี้สีชมพูเป็นของโปรดมากกว่า พอเห็นคนตัวโตยักคิ้วกวนมาให้ พานเอาหัวใจดวงน้อยเต้นระทึก ความรู้สึกวูบโหวงถาโถมมาใส่อย่างไม่หยุด เมื่อเขาพามือหนาถือโอกาสวางหมับที่เอวคอดบาง พลางส่งเสียงกระซิบแหบพร่าในขณะที่สายตาจดจ้องดวงหน้าหวานที่กำลังออกอาการเหวอ

“ขนมจีนน้ำย้อย ฉันก็อยากจะกิน” คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสีหน้าสดใสของสีตลาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นซีดเซียว “แต่ตอนนี้ของฉัน น้ำมันเยิ้มเรี่ยราดแล้วละ เธอไปช่วยฉันกินก่อน แล้วหลังจากนั้น ฉันจะกลับมาฟาดขนมจีนน้ำย้อยของเธอให้หายอยาก ได้รึเปล่า”

“ปาโลขนาด! หมอผีบ้า” (ลามก! หมอบ้า!)

น้ำเสียงของหญิงสาวออกอาการร้อนรนว่าทนฟังไม่ได้ ครั้นจะยกมือปิดหูมือทั้งสองข้างก็เปื้อนเปรอะ สีตลาฟังแล้วตกใจอยากจะเป็นลม คนอย่างหมอพูดจาแบบนี้ก็ได้เหรอ เธอเพิ่งเห็นเขาเป็นคนแรก จนต้องยกมือขึ้นทาบอกอิ่มที่เวลานี้เพิ่งรู้ตัวว่าลืมติดกระดุมเม็ดบนจนต้องทำบุญทำทานให้กับสายตาซอกแซกของใครบางคนที่จ้องมองไปเพื่อพิสูจน์ความขาว

สีตลาไม่อยากจะเชื่อว่าหมอครองฤทธิ์ คุณหมอคนดีที่เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อมาช่วยคนบนดอย พระเอกของทุกคน แต่พอได้สัมผัสใกล้ๆ เขามันไอ้หมอหื่นกาม ป่าเถื่อน จอมยียวน กวนประสาท ขัดกับบุคลิกสร้างภาพที่เมื่อก่อนเธอเองยังหลงเชื่อ

“ฉันบ้าตรงไหนกัน ตอนนี้ มันเยิ้มจวนเจียนจะแตกออกมาแล้ว ไปเถอะ อย่าเรื่องเยอะสิ”

สีตลาจ้องเขาเขม็งแล้วถอยห่างออกจากเขาอีกสองข้าง “อะหยังปะล้ำปะเหลือ” ซึ่งมีความหมายว่าอะไรกันนักหนา

ครองฤทธิ์เห็นสายตาคู่สวยที่หันขวับจ้องมองเขาอย่างกลัวๆ ปนรังเกียจ เขารู้ว่าสีตลากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแต่ว่าน้ำที่เยิ้มของเขากับเธอมันคงจะสื่อไปคนละความหมาย

หญิงสาวมองหน้าสามีมาดดีที่มีบรรดาสาวๆ แอบเก็บไปพูดลับหลังว่าหมอครองฤทธิ์นั้นหล่อน้ำเยิ้ม จนคนฟังอย่างเธอได้ยินเข้าหูแล้วรู้สึกเขินแทน

“คุณหมอจะไปน้ำเยิ้มน้ำย้อยตี้ไหนก่ะไปเต๊อะ ข้าเจ้าขอยะอาหารหื้อแล้วก่อน แล้วจะยกไปหื้อกิ๋น” (คุณหมอจะไปน้ำเยิ้มที่ไหนก็ไปเถอะ ฉันขอทำอาหารให้เสร็จก่อน แล้วจะยกไปให้กิน)

คนตัวสูงจดจ้องใบหน้าหวานที่ก้มซ่อนเก็บหน้าราวกับไม่ต้องการให้เขาเห็นแก้มแดงระเรื่อ กดรอยยิ้มร้ายกาจ แต่ไม่อยากให้สีตลาคิดมากเกินไปกว่าเรื่องจริง

“พอดีวันนี้มีคนไข้ที่ฉันทำคลอดให้ สามีเขาให้กุ้งแม่น้ำมา ก่อนเดินมา ฉันเผามันเอาไว้ เห็นแตกมันเยิ้มเลยจะมาเรียกเธอไปกินด้วยกัน”

คำพูดของเขาทำเอาคนฟังหน้าชา ใจคอไม่ดี ขาสั่นไปหมดหายจากสีหน้าลำบากใจ “แล้วเป๋นหยังบะบอกดีๆ ล่ะเจ้า ว่าจะมาจวนข้าเจ้าไปกิ๋นกุ้งแม่น้ำ” (แล้วทำไมไม่บอกดีๆ ล่ะคะว่าจะมาชวนไปกินกุ้งแม่น้ำ)

มือน้อยๆ ช่วยตัวเองด้วยการแกะมือที่เขาเอามาฝากไว้บนเอวออก แต่กลับถูกเขาดึงเข้ามากอดทั้งตัวแน่นยิ่งกว่าเดิม

ดวงตาสีนิลสลดวูบเมื่อถูกคนตัวสูงคุกคาม “คุณหมอยะอะหยังเจ้า” (คุณหมอทำอะไรคะ)

“กอดเธอไง”

“เป๋นหยังต้องกอดตวยล่ะเจ้า” (ทำไมต้องกอดด้วยล่ะคะ)

“ผัวกอดเมียไม่ได้เหรอ ผิดตรงไหน”

ร่างเล็กพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง แต่เขาแข็งแรง มีกำลังกว่าเธอมาก สีตลาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ขับไล่ความโมโหทั้งที่เขารู้อยู่เต็มอกว่าการสวมบทผัวเมียจอมปลอมมันแค่การแสดงบทหนึ่งซึ่งเขาอยากตบตาคุณหมอวินัย

‘แล้วทำไม...’

หมอหนุ่มจ้องมองคนตัวเล็กที่เปรียบเหมือนลูกแมวที่ถูกเขาหนีบกอดเอาไว้ แล้วกรอกเสียงกระซิบ “ฉันเปลี่ยนใจแล้วที่จะให้เธอเล่นบทเป็นเมียตามแผน เราเป็นผัวเมียกันจริงๆ เลยไหม ตอนนี้ ฉันโสด”

“อะหยังก่อเจ้า หมอโสด แต่ข้าเจ้าบะอยากเสียความสดหื้อหมอนี่เจ้า” (อะไรนะคะ หมอโสด แต่ฉันไม่อยากเสียความสดให้หมอนี่คะ) หลังเขารู้ความจริงว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์ด้วยการจับไปตรวจ สีตลาก็ไม่จำเป็นต้องโกหกอะไรอีกแล้ว “หมอเป๋นไบโพลาร์ใจ้ก่อเจ้า ถึงได้อยากเปลี่ยนแผนก๋ารกะทันหัน ทั้งที่เป็นคนวางแผนก๋ารตึงหมดขึ้นมาเอง” (หมอเป็นไบโพลาร์ใช่ไหมคะ ถึงได้อยากเปลี่ยนแผนการกะทันหัน ทั้งที่เป็นคนวางแผนการทั้งหมด ขึ้นมาเอง)

สักพักเดียวที่สีตลาวางหน้า ทำตัวไม่ถูกแล้วเห็นเขาผุดรอยยิ้มร้ายที่เจือไปด้วยแวบขบขัน

“ช่วยไม่ได้ คุณแม่ยื่นคำขาด ฉันกับน้องสาว ใครมีหลานให้ท่านก่อนจะยกโรงพยาบาลวนารมย์ธานีให้เป็นของขวัญรับขวัญหลานคนแรก”

น้องสาวของเขาซึ่งเป็นหมอแพทย์ผิวหนังตกล่องปล่องชิ้นจะแต่งงานกับลูกบุญธรรมของหมอวินัย ลุงแท้ๆ ของเขา ฝ่ายนั้นรู้เรื่องระหว่างสีตลากับเขาแล้ว เขาคงต้องรีบเร่งผลิตทายาท ในเมื่อเตือนแล้วแต่ผู้หญิงที่คิดว่าตนเองฉลาด มีความสามารถรอบด้านแบบ ‘ไอรดา’ หรือ ‘หมอพลอย’ ไม่คิดจะฟังคำทักท้วงจากพี่ชาย แล้วยังมาปรึกษาวางแผนมีทายาททันทีหลังการแต่งงาน เขาจะทำอย่างไรได้นอกจากชิงลงมือผลิตทายาทตัดหน้า ขัดขวางแผนการฮุบสมบัติเนียนๆ ของคนเป็นลุง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel