บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1-3

แม้จะไม่ได้มีรูปร่างเทียบเคียงนางแบบ แต่ใบหน้าของยลรดากลับมีความหวานละมุน แลดูจิ้มลิ้มชวนมอง แม้เจ้าตัวตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงเบาบางไม่เน้นหนัก ล้อมกรอบด้วยเส้นผมนุ่มสลวยดำสนิทที่วันนี้เกล้ายกสูงขึ้นเป็นหางม้า เผยให้ดวงหน้าสวยชวนมองมากขึ้นไปอีก

ในระหว่างรอเรียกตัวเพื่อเข้าสัมภาษณ์ในด่านสุดท้าย ซึ่งหนึ่งในสามคนรวมเธออยู่ด้วยจะมีหนึ่งคนที่สมหวังและอีกสองคนต้องพลาดงานนี้ไป ยลรดาหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหากคนที่ต้องกลับบ้านโดยพลาดโอกาสทองครั้งนี้จะต้องเป็นเธอ

แม้จบจากคณะอักษรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐบาลชั้นนำของประเทศพ่วงด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับสอง ความรู้ความสามารถไม่เป็นรองใคร แต่หลายเดือนแล้วที่เธอยังหางานทำไม่ได้ บริษัทหลายแห่งที่เรียกไปสัมภาษณ์บอกว่าอยากได้ล่ามที่มีประสบการณ์มากกว่าเด็กจบใหม่เพราะต้องทำงานเคียงข้างเจ้านาย เด็กจบใหม่ โปรไฟล์การศึกษาดีเยี่ยมอย่างเธอจึงเคว้งคว้าง ต้องทำขนมไทยส่งขายยังชีพไปก่อนในระหว่างหางาน แต่ด้วยพอมีฝีมือในการทำขนมที่ประณีตชวนกินทำให้เธอมีลูกค้าไม่น้อย มีรายได้เข้ามาในแต่ละเดือนเลี้ยงชีพได้สบาย

แต่เอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ร่ำเรียนมาจนจบได้รับปริญญาแล้ว ยลรดาก็อยากจะใช้ความรู้ความสามารถทำงานในอาชีพที่ใฝ่ฝันมากกว่าทำขนมไทยส่งขาย และงานนี้เป็นงานที่เธออยากได้มากเป็นพิเศษ เพราะว่าล่ามสัญญาจ้าง 1 ปีที่ทางบริษัทประกาศรับสมัคร นอกจากจะได้รับค่าจ้างที่สูงมากยังต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศลิเบียด้วย ‘ลิเบีย’ เป็นประเทศในแอฟริกาเหนือที่อยู่ระหว่างประเทศอียิปต์ไปทางตะวันออกประเทศซูดาน ความฝันที่จะได้ไปเยือนพีระมิดในอียิปต์สักครั้งคงจะใกล้ความจริงเข้ามาหากเธอได้รับการคัดเลือก

แวบแรกที่ถูกเลขาฯ สาวสวยตาคมที่รวบผมดูดีสมกับเป็นเลขาฯ ของผู้บริหารเรียกชื่อ ยลรดายืนตัวเกร็งแล้วเร่งเดินตามเข้าไปในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด ความรู้สึกมั่นใจในความสามารถแต่ขาดความเชื่อมั่นเรื่องสรีระที่มีส่วนสูงน้อยเกินไปหน่อย เมื่อก้าวผ่านประตูเข้ามา ความหวังนั้นกลับดำดิ่งตกลงไปในหุบเหว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องมายืนให้ถูกดวงตาเยียบเย็นราวน้ำแข็งคู่นั้นแช่แข็งเอาไว้ เธอจำดวงตาล้ำลึกสีฟ้านี้ได้ดี ผู้ชายคนที่เธอเจอในร้านกาแฟสตาร์บักส์เมื่อหลายวันก่อน

“เธอนี่เอง!”

“คุณ!”

นี่แหละมั้งที่เขาว่าความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลมาถึงอนาคต หากรู้ว่าในร้านกาแฟมีผู้บริหารสูงสุดของ EDI นั่งอยู่ เธอจะไม่มีวันวิ่งทะเล่อทะล่าโดยไม่ดูป้ายชื่อร้านก่อนแบบวันนั้น

ดวงตาเข้มกวาดมองหญิงสาวที่เขาต้องสัมภาษณ์เป็นคนสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจว่าจะหนีบใครเดินทางไปทำงานด้วยยังประเทศลิเบีย แฟ้มสีดำในมือถูกวางลงบนโต๊ะทำงานหรูและเรียบร้อยราวกับภาพถ่าย เพราะชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้เกลียดความไร้ระเบียบ ไม่ชอบความผิดพลาด

ยรลดาเนื้อตัวเยียบเย็น รับรู้ในทันทีว่าความผิดพลาดเมื่อหลายวันก่อนที่ชายตรงหน้าพบเห็นเข้าโดยบังเอิญ จะทำให้เธอต้องเดินออกไปจากประตูบริษัทแห่งนี้ด้วยมือเปล่า

งานนี้หลวงพ่อวัดไหนก็ช่วยลูกให้ได้งานนี้ไม่ได้แล้ว

ดวงตาสุกใสเต็มไปด้วยความกังวลไม่รอดพ้นจากดวงตาคมเฉียบ เควินหรี่ดวงตาจับจ้องมายังร่างเล็ก เขานึกคลางแคลงสงสัยถึงคะแนนเต็มของผลการทดสอบข้อเขียนในแฟ้มประวัติเมื่อครู่

“ถามจริง เธอทำข้อสอบเอง หรือว่าแอบติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อซื้อข้อสอบกันแน่”

แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มใบหน้าที่เรียบเฉยไร้ความรู้สึกก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาดูรื่นรมย์มากขึ้น เขามองสำรวจผู้สัมภาษณ์รายสุดท้ายที่ยืนตัวเกร็งหน้าเจื่อนอยู่ตรงหน้า

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดจริงจังและจ้องหน้าเธอเขม็ง

“ไหนบอกมาซิ คุณมีดีอะไรพอที่ผมจะรับคุณเข้าทำงาน”

เจอกันครั้งแรกคือเรื่องทั่วไป...เจอกันครั้งที่สองคือเรื่องบังเอิญ...แต่สำหรับเธอและเขาคงไม่มีวันได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สาม เกือบชั่วโมงในห้องแช่แข็งทางความรู้สึก คนบ้านั่นทำให้เลือดในกายของเธอตีรวนไปหมด ทั้งโกรธ ทั้งกดดัน ทั้งตัวสั่น ทั้งอยากจะเป็นลม

ยลรดาต้องเก็บสีหน้ากรุ่นโกรธแกมหงุดหงิดกับสายตามีอคติคู่นั้น ความคิดอยากจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาในระหว่างการสัมภาษณ์ผุดขึ้นมาหลายครั้ง เพราะผ่านการอบรมสั่งสอนจากรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำ เรียนรู้เรื่องมารยาทสังคมมาแล้วเป็นอย่างดี ยลรดาจึงต้องอดทนอดกลั้นรอจนเขาไล่เธอออกจากห้องเอง

“ฉันหมดคำถาม ไม่มีอะไรจะถามเธอแล้ว”

เธอยังจำสายตาคู่คมที่กวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้ววกกลับขึ้นมาจ้องตาเขม็ง ก่อนจะยิ้มหยิ่งใส่เธอเป็นครั้งสุดท้าย

“จบการสัมภาษณ์เพียงเท่านี้ ออกไปได้แล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ แล้วโบกมือออกห่างตัวเป็นการไล่ให้เธอรีบๆ ออกไปให้พ้นหน้าเขา

“ค่ะ”

หญิงสาวหันไปกล่าวลาอีกหลายภาษาให้กับคนสองสามคนในห้องที่เพิ่มเข้ามาทีหลัง รวมถึงเจ้าของดวงหน้าเข้มหล่อเหลาในชุดสูทสีเทาราวกับเจ้าชายอาหรับ ซึ่งดูเป็นมิตรที่สุดในห้องนี้ เหมือนเขาจะไม่ใช่พนักงานของที่นี่ แต่เธอไม่มีเวลาสนใจเขามากนัก เพราะคนที่นั่งโดดเด่นอยู่หลังโต๊ะทำงานสุดหรูและเป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ส่งแววตาเย็นเฉียบเชิงคำถามมาว่า

‘ไล่แล้วยังไม่ออกไปอีก?’

ยลรดาที่ยืนตัวเกร็งลีบหันหลังก้าวเร็วๆ ออกจากห้อง รีบเดินไปกดลิฟท์ลงไปที่ชั้นจี

ชายหนุ่มที่เดินตามหลังมาเห็นสาวถูกใจก้าวเข้าประตูลิฟต์ไปแล้ว ประตูกำลังจะปิดลง สายตาคู่คมลุ่มลึกสอดแทรกผ่านรอยแยกของช่องประตูลิฟต์เข้าไปสบตากลมโตดำสนิทแช่นิ่งอยู่เพียงเสี้ยวนาที เขาเห็นแววตาท้อแท้ สิ้นหวัง ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดสนิท

“เดี๋ยวสิ” แต่ไม่ทันเสียแล้ว โอกาสทำความรู้จักกับเธอปิดลงพร้อมประตูลิฟต์

น่าเสียดาย...

ยลรดาเดินมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อแลกบัตร เมื่อได้มาแล้วก็เก็บเข้ากระเป๋าอย่างเรียบร้อยแล้วกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่สาวสวย

เมื่อเดินออกมาพ้นประตูอาณาจักรของเควิน ลาซอนเนติ หญิงสาวพลางถอนหายใจความคิดลอยค้างอยู่กลางอากาศ

“คนบ้า เอาอะไรมาตัดสินความสามารถของฉัน อคติสิ้นดี”

แฟ้มสีดำถูกวางแรงๆ ตรงหน้าลูก้า คนสนิทผู้พ่วงตำแหน่งหัวหน้าบอดีการ์ดและเลขาฯ ชายไปพร้อมกัน ท่าทางไม่พอใจของเจ้านายทำให้ลูก้ารีบเอ่ยขึ้น

“คุณเควิน ไม่ชอบสักคนเลยหรือครับ ผมว่าแต่ละคนโปรไฟล์ก็ไม่ได้แย่ ออกจะ...”

“ไม่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel