บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 สนามอารมณ์

หลังจากเหตุการณ์ยุ่งเหยิงรักสามสี่ห้าเศร้าของพวกเจ้านาย ตอนนี้ก็ผ่านมาได้เกือบสามปีแล้ว ธันยวีร์ยังคงทำงานเป็นเลขาให้อวัชเหมือนเดิม ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากเงินเดือนและโบนัสที่เพิ่มมากขึ้นตามความหนักใจที่เธอจะต้องแบกรับมา

“สวัสดีค่ะคุณท่าน” ธันยวีร์ปลีกตัวออกมาจากกลุ่มสนทนาระหว่างคู่ค้ากับเจ้านายที่กำลังคุยกันติดพัน

เลขาสาวเดินออกมาห่างจากจุดนั้นพอสมควรเพื่อรับสายโทรศัพท์ที่โทร. เข้ามาเบอร์ส่วนตัวของเจ้านายมากว่าห้าสาย จนเจ้าของโทรศัพท์ยื่นโทรศัพท์บอกให้เธอจัดการต่อ

หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อได้ยินคำพูดมากมายที่หลั่งไหลมาตามสาย ทั้งต่อว่าต่อขาน ทั้งข่มขู่คุกคาม แม้จะมาในรูปแบบผู้ดีก็ตาม

“ตาวัชอยู่ไหน! แล้วทำไมเธอเพิ่งรับสาย! ธันยวีร์เธอเป็นเลขาประสาอะไรหา! ก็รู้นี่ว่าฉันรับนัดกับลูกสาวท่านผู้การไว้! หายหัวไปไหนกันหมด!!” ธันยวีร์แน่ใจว่าตัวเธอเองปฏิเสธนัดของเจ้านายกับคนที่บ้านเจ้านายไปแล้ว

แต่คุณท่านคุณย่าของเจ้านายมาพูดเหมือนเธอไม่ได้แจ้งล่วงหน้า

“ตอนนี้คุณวัชติดธุระค่ะ ยังไงธันจะให้คุณวัชรีบโทร. กลับนะคะ” เธอตอบปลายสายเสียงเรียบ แต่ก็ได้เป็นคำพูดเผ็ดร้อนเจือดูถูกกลับมา

“บางทีฉันก็คิดนะว่าที่เธออยู่กั๊กกันแบบนี้เพราะมีหวังอะไรหรือเปล่าธันยวีร์ สลัดนังนางเอกนั่นไปได้ก็อย่าคิดว่าจะขึ้นมาแทนที่ อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอรอเคลมหลานชายฉัน! ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!” ธันยวีร์รับฟังเฉย ๆ ไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกับน้ำคำดูถูกของครอบครัวเจ้านาย

ช่วงแรก ๆ เจ้านายเธอก็ออกตามหานางเอกสาวบ้าง แต่เมื่อโดนอำนาจมืดของคุณย่าที่ยังคงเข้มข้นเสมอต้นเสมอปลาย ผู้ชายที่มีชนักติดหลังอย่างอวัชก็ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะโรคประจำตัวคุณย่าจะกำเริบเมื่อไหร่ก็ได้ ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรสุดท้ายของธนโยธินแล้ว

ตั้งแต่เกิดเรื่องในคราวนั้นแน่นอนว่าทั้งอวัชและณัฐนารีไม่ได้ติดต่อกันอีก ทุกอย่างมันควรจะจบลงไม่ต้องพูดถึงเพื่อเปิดบาดแผลกันอีก แต่มันไม่ใช่กับคุณย่าของเจ้านายเธอ

ทุกครั้งที่ท่านไม่ได้ดั่งใจไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าเป็นเรื่องของหลานชายคนนี้ ท่านก็จะเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอยู่เสมอ ๆ

เมื่อคนที่เป็นสนามอารมณ์อย่างณัฐนารีไม่อยู่แล้ว ก็จะใครเล่านอกจากธันยวีร์ที่จะทนอารมณ์ร้าย ๆ ของคนที่หาที่ลงไม่ได้อย่างคุณย่าเจ้านาย

“มีคุณธนิกมาด้วยค่ะ ธันไม่ได้มากับคุณวัชแค่สองคน และมีลูกค้าอีกหลายท่าน…” คำอธิบายของเธอหรือจะเป็นผล เมื่อคุณท่านไม่เคยฟังเธออยู่แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสามปีก่อน เรื่องของณัฐนารี อวัช วิลาวรรณ และปริญ

“ทำเป็นพูดดีไป บอกให้ตาวัชโทร. กลับหาฉันด่วน!” และปลายสายก็วางไปเสียงดังโครม ธันยวีร์ไม่ชอบที่อีกฝ่ายใช้โทรศัพท์บ้านเพราะเมื่อวางแรง ๆ แก้วหูเธอเหมือนจะทะลุเลย

ธันยวีร์มองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ยังคงส่องไฟสว่างอยู่ คุณท่านด่าเจ้านายเธอไม่ได้ก็ต้องด่าลูกน้องอย่างเธอนั่นแหละ

‘เพราะเธอธันยวีร์ ถ้าเธอไม่ปิดบังเรื่องราวทั้งหมดหลานฉันก็ไม่ใฝ่ต่ำแบบนี้! ตอนนี้สะใจเธอแล้วใช่ไหม!!’

และคุณท่านก็หัวใจวายจนต้องได้รับการผ่าตัดด่วน และการเจ็บป่วยในครั้งนั้นก็ลุ่ม ๆ ดอม ๆ มาจนถึงปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านไปนานเป็นปี ๆ แล้วก็ตาม

ในเมื่อธันยวีร์เป็นคนจัดแจงกุมความลับทุกอย่างของทั้งอวัชและวิลาวรรณไว้ ครอบครัวธนโยธินที่แสนจะบิดเบี้ยวอยู่แล้วจะเกลียดเธอก็คงไม่แปลก เพราะตัวธันยวีร์เองก็ยังคงรู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้

หญิงสาวถอนหายใจ แต่ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าครัชใบเล็กที่ถืออยู่ในมือบั้นเอวเธอก็ถูกรวบไปกอดไว้หลวม ๆ ธันยวีร์หันไปมองคนผู้นั้น ก่อนที่รอยยิ้มบางเบาจะปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“คุณวัชให้ดิวมารับของกับคุณธันค่ะ” เลขาสาวเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างสุภาพ มือข้างหนึ่งของธันยวีร์แตะฝ่ามือบางที่จับสะโพกเธอเบา ๆ

“คุณดิวรอสักครู่นะคะ” ธันยวีร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย

ดวงตาพราวระยับจ้องมองมาทางเลขาสาว เมื่อเห็นธันยวีร์หันไปคุยกับใครสักคนในชุดสูทดูดีที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคงเป็นนักธุรกิจที่มาร่วมงานนี้ และเมื่อธันยวีร์หันกลับมามองเธอ ดาวันก็เมินหน้าไปทางอื่นประหนึ่งว่ารอได้เสมอ

ดาวัน หรือ ดิว เป็นคู่นอนคนล่าสุดของเจ้านายเธอ ธันยวีร์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นและหันไปหยิบแก้วค็อกเทลสีสวยที่บริกรนำมาเสิร์ฟ เลขาสวยไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่อดีตผู้หญิงของเจ้านายบอกว่ากำลังรอบางอย่างจากเธออยู่

“ขอธันดื่มน้ำสักครู่นะคะ” ธันยวีร์เอ่ยบอกเรียบ ๆ แต่แววตาของเธอจับจ้องจับผิดดาวัน และดาวันก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อวัชไม่รับสายเธอมาสองวันแล้ว เรื่องคีย์การ์ดก็ไม่ใช่เรื่องจริงเธอกุเรื่องขึ้นเพราะอยากจะคุยกับอวัช

“ได้ค่ะคุณธัน” ดาวันรู้กิตติศัพท์ของเลขาส่วนตัวของอวัชดี ถ้ามีปัญหากับธันยวีร์ก็เหมือนมีปัญหากับอวัช อยากจะอยู่กับอวัชได้นานหรือไม่ก็วัดกันตรงนี้แหละ

“คุณธันคะ…” ผ่านไปเกือบสิบนาทีที่ธันยวีร์ยืนละเลียดดื่มค็อกเทลอยู่แบบนั้น เลขาสาวหันไปตามเสียงเรียก

“คะ?” 

“คุณธันไม่ชอบดิวเหรอคะ…”

“ไม่ใช่ไม่ชอบค่ะ เพียงแต่คุณวัชไม่ได้บอกอะไรธันไว้นะคะ แต่ถ้าคุณดิวอยากได้กุญแจเราก็ขึ้นไปด้วยกันได้”

ธันยวีร์คิดว่าการแสดงออกแบบนี้ก็เป็นคำตอบที่สุภาพแล้ว แต่ถ้าดาวันอยากจะทำในสิ่งที่อยากทำ เธอก็ไม่คิดจะห้ามปรามอะไร เพราะเลขาสาวไม่ได้รู้จักดาวันเป็นการส่วนตัว ก็แค่ไม่ได้ต้องการให้เพศเดียวกันถูกตะเพิดออกมา

ดาวันกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ก่อนจะเม้มริมฝีปาก ภาษากายของเลขาสาวอย่างธันยวีร์ฟ้องชัดก็แค่ดึงเวลาพร้อมกับแบ่งรับแบ่งสู้ตามมรรยาท

“ดิวท้องค่ะ…” คำบอกเล่าของดาวันวูบหนึ่งที่ธันยวีร์รู้สึกตกใจ ก่อนสายตาจะแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยและมองเลยไปด้านหน้าเวที ทั้งที่ธันยวีร์มองไม่เห็นร่างสูงของอวัช แต่เธอก็มั่นใจว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนั้น

“คุณวัชไม่เชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขา…” ธันยวีร์รับฟังและเบนสายตากลับมามองหน้าดาวัน

“พูดกันตามตรงธันก็ไม่เชื่อค่ะ คุณดิวกลับไปก่อนดีไหมคะ เรื่องนี้ธันจะแจ้งคุณวัชให้”

ถ้าอยู่ ๆ เธอโพล่งไปถามเจ้านายมีหวังว่าคงโดนแหกกลับมา และดาวันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะใสเหมือนอากัปกิริยาที่เธอแสดง ธันยวีร์รู้ดีเชียวแหละ!

“เพราะแบบนี้ดิวถึงได้บากหน้ามาขอให้คุณธันช่วยไงคะ” หยดน้ำตาสีใสไหลรินลงมาไม่ขาดสายราวกับสั่งได้

ธันยวีร์กะพริบตามองดาวันร้องไห้เงียบ ๆ ก่อนที่เธอจะยื่นกระดาษทิชชูแถวนั้นส่งไปให้อดีตผู้หญิงของเจ้านาย

“เห็นแก่เด็กตาดำ ๆ เถอะนะคะ คุณธันได้โปรดช่วยดิวกับลูกด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel