แดนรักมาเฟียเถื่อน

103.0K · จบแล้ว
วรัมพร หงสรถ
92
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

(ภาคต่อ บัญชารักเทพบุตรเถื่อน ((อ่านแยกได้ค่ะ)) “ที่รัก ตัวคุณหอมเหลือเกิน” มาเฟียหนุ่มกระซิบชิดปากอิ่ม ลากฝ่ามือสัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มที่เขาเริ่มชื่นชอบ เพราะไม่ว่าตรงไหนก็นุ่มไปเสียหมด “หยุดทำแบบนี้กับฉันสักที” คำสั่งจากหญิงสาวฟังแทบไม่รู้เรื่อง และอีกคนก็ไม่คิดจะใส่ใจถามไถ่ให้รู้ความ เพราะเขากำลังลุ่มหลงอยู่กับซอกคอหอมกรุ่นที่เย้ายวนใจยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหน ฝ่ามือร้อนผ่าวเริ่มเกเรไปทั่วผิวเนียนหนักขึ้น ราวกับจะกลั้นแกล้งอีกคนให้ขาดใจตาย “คุณห้ามผมไม่ได้หรอก ที่รัก” มาเฟียหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงคล้ายเย้ยหยัน “ปล่อยฉัน” เธอร้องบอกเสียงแผ่วๆ เหมือนคนใกล้ขาดอากาศ “ผมบอกคุณไปแล้วว่าคุณห้ามผมไม่ได้หรอก แล้วคนอย่างผม ถ้าอยากได้ก็ต้องได้ ฉะนั้นที่รักอย่าห้ามผมให้เสียเวลาเลย ไม่งั้นผมจะไม่ปราณีคุณอีกต่อไป” เขาบอกด้วยน้ำเสียงพร่า ปัดป่ายริมฝีปากหยอกเย้ากับกลีบปากอิ่มสวย ขบเม้มหยอกเอินกระตุ้นอารมณ์สาวให้แตกกระเจิงมากยิ่งขึ้น ผลงานเรื่องนี้เคยได้รับการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แสนรัก เมื่อปี 2556

นิยายสืบสวนสอบสวนนิยายปัจจุบันประธานพลิกชีวิตนักฆ่ารักแรกพบมาเฟียเศรษฐี

บทนำ

บทนำ

ปราสาทเคลมองโซ

ชายหนุ่มรูปร่างสูงสวมแว่นกันแดดสีดำยื่นมือไปรับกล่องสี่เหลี่ยมฉะลุลวดลายสวยงามสีทองจากชายอาหรับที่มุมลับสายตาคน หลังจากเขาเดินทางมาเที่ยวที่ปราสาท แล้วจู่ๆ ก็ได้รับการติดต่อจากบิดาให้มารับของสำคัญจากชายอาหรับและบิดายังกำชับให้รักษากล่องนี้เท่าชีวิต แต่ระหว่างพูดคุยกับบิดาเพื่อสอบถามความเป็นมาของของสิ่งนี่ สัญญาณการติดต่อก็ขาดหายไปเสียก่อน โดยที่เขายังไม่รู้เลยว่าทำไมต้องรักษาเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมชิ้นนี้เท่าชีวิต

ชายหนุ่มพยายามติดต่อบิดาทว่าติดต่อไม่ได้เลย เขาจึงหันไปมองคนที่นำของมามอบให้เพื่อสอบถามถึงเรื่องราว ทว่าชายอาหรับคนนั้นได้วิ่งหายไปทางด้านหลังของปราสาทอย่างรวดเร็ว

“ดอม! แมค! รีบตามไป” เสียงทุ้มของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สั่งสองบอดี้การ์ด จากนั้นทั้งสามคนก็วิ่งตามชายอาหรับคนนั้นไป ทว่าเมื่อไปถึงกลับมีเสียงปืนดังขึ้นทำให้ทั้งหมดรีบหาที่หลบ และก็ได้แต่เฝ้ามองชายอาหรับสิ้นใจและเสียงที่ตามมาก็คือคำสั่งให้ออกตามล่าหาคนที่ได้เพชรสีชมพูไป

‘แสดงว่าของในกล่องคือเพชรสีชมพู’ คนที่ได้ครอบครองเพชรโดยไม่รู้ที่มาที่ไปพึมพำอยู่ในใจ ก่อนหันไปทางคนสนิทแล้วพยักหน้าบอกให้พากันถอยออกไป

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เสียงสบถดังขึ้นเมื่อทั้งหมดออกจากปราสาทและพยายามติดต่อกับบิดาแต่ติดต่อไม่ได้เลย จากนั้นเขาจึงเปิดกล่องและพบว่ามันเป็นเพชรสีชมพูจริงพร้อมกันนั้นยังมีของบางอย่างลักษณ์คล้ายล็อกเก็ตแต่มันกับมีเพียงครึ่งเดียวและยังมีการสลักตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษบนสิ่งที่เขาเรียกมันว่าล็อกเก็ตอีกด้วย

“ฉันชักสงสัยแล้วสิว่าเพชรสีชมพูกับล็อกเก็ตครึ่งเดียวอันนี้มันมีความสำคัญอะไร” พูดจบก็หยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาส่องดูสักพักก่อนจะเก็บลงกล่อง

“คุณทามครับ ผมว่าเรารีบกลับอิตาลีก่อนเถอะครับ” ดอม บอดี้การ์ดมือดีของทายาทคนโตตระกูลอันน์เบริกส์พูดขึ้นและได้สั่งให้ลูกน้องจัดเตรียมเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับอิตาลีให้เร็วที่สุด หลังจากได้รับรายงานว่าคุณแอนโทนี่ บิดาของคุณเจ้านายหนุ่มถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส

ส่วนผู้เป็นเจ้านายพยักหน้ารับแล้วออกคำสั่ง “แมค แกรีบจัดการสั่งเพิ่มกำลังคนให้คุ้มกันคุณแม่และน้องสาวฉันที่เมืองไทยด่วน ส่วนแก ดอม เอากล่องเพชรไปเก็บ แล้วไปเจอกันที่สนามบิน” สิ้นคำสั่งของเจ้านาย ทั้งสองหนุ่มก็รับคำจัดการตามคำสั่งอย่างเร่งด่วน โดยทั้งสามคนได้แยกย้ายกันระหว่างทางและอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งหมดก็ไปขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางกลับอิตาลี

และทันทีเมื่อถึงบ้านพัก ซึ่งขณะนั้นกำลังเกิดความวุ่นวาย เมื่อก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงมีนักฆ่าบุกเข้าไปทำร้ายคุณแอนโทนี่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนั่นทำให้ผู้ลูกชายโกรธเป็นอย่างมาก ยิ่งได้เห็นสภาพของบิดาความโกรธแค้นยิ่งแล่นพล่าน

"ตามล่าพวกมัน แล้วหาตัวคนบงการพวกมันให้เจอ" จบคำคนสั่งการก็หันไปยืนพ่นลมหายใจระงับความโกรธแค้นเพื่อจะได้มีสติจัดการปัญหา ที่เขาเองก็ไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ แล้วไหนจะยังเพชรสีชมพูนั่นอีก มันเกี่ยวข้องอะไรกับบิดาของเขา ทำไมท่านถึงต้องมาเจ็บตัวปางตายแบบนี้

ผ่านไปสักพักเอเรสก็โทรหามารดาเพื่อสอบถามท่านและเมื่อได้รู้ว่าท่านและน้องสาวปลอดภัยดีแล้ว เขาจึงเดินขึ้นห้องพักไปเปิดกล่องเพชรดูอีกครั้งเพื่อค้นหาความเชื่อมโยงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นั่งมองเป็นทั้งคืนเขาก็ยังหาอะไรไม่พบ