แค้นรักอสูรทมิฬ

“ชาล็อต...แน่ใจนะว่าเธอจะไปงานคืนนี้?”

คาลล่าเอ่ยถามขณะนั่งมองหญิงสาวเจ้าของเรือนร่างเพรียวบางในชุดราตรีสั้นเกาะอกปักเลื่อมสีงาช้างยืนหมุนไปมาอยู่หน้ากระจกนานหลายนาทีแล้ว เธอมีความสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบสองเซ็นติเมตรแต่กลับดูดีอย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออยู่ในชุดแสนสวย

เพราะความบอบบางของร่างอรชรแต่แอบซ่อนความอวบอิ่มด้วยเนินอกที่ล้นออกมาจากชุดเกาะอกแต่ดูยังไงก็เซ็กซี่แบบไม่น่าเกลียด ดวงหน้าสวยหวานใต้กรอบเรือนผมดำขับสะท้อนประกายเงางามใต้แสงไฟเอียงกลับมายังเพื่อนของเธอ

“มันก็แค่งานเลี้ยงนะคาลล่า”

“ใช่...มันเป็นงานเลี้ยง และมันก็เป็นงานเลี้ยงที่จัดในวันหมั้นหมายของแฟนเก่าเธอนะ ชาล็อต”

เพื่อนสาวรูปร่างระหงเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ทองลุกจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปหาชาลิสาซึ่งยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก ผิวขาวราวหยวกผุดผ่องสะท้อนแสงไฟนีออนแต่ทว่าใบหน้าของเธอกลับหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด ชาลิสายิ้มกับเพื่อนแก้เก้อ

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ฉันเลิกกับโคลินนานแล้วนะคาลล่า”

“อดาลีนไม่น่าเชิญเธอไปงานหมั้นของตัวเองกับ...แฟนเก่าของเธอนะชาล็อต”

ชาลิสาถอนหายใจ “จะทำยังไงได้ล่ะ...ฉันปฏิเสธงานนี้ไม่ได้หรอกนะ ฉันเป็นแดนเซอร์ของอดาลีน และแดนเซอร์ในวงทุกคนก็ต้องไปเป็นสักขีพยานในความรักของเธอกันทั้งนั้น เธอเป็นนักร้องดัง ฉันควรดีใจกับเธอไม่ใช่หรือ”

“อดัม...ผู้ชายเฮงซวย!” คาลล่าขบฟันดังกรอด “มันคบกับเธออยู่ได้ตั้งนาน แต่พอมาเจอแม่นักร้องดังไฮโซโก้หรูนั่นก็ถึงกับเปลี่ยนเป็นคนละคน!”

ชาลิสานิ่งเงียบขณะหันกลับไปมองตัวเองในกระจก คำแดกดันของคาลล่าซึ่งเป็นเพื่อนสนิททำให้เธอนึกถึงภาพในอดีตที่เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ วันที่เธอได้รู้จักกับโคลิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ตามจีบชาลิสาเธอจนตกลงใจเป็นแฟนกับเขาและคบหากันมานานกว่าปี

เขาสัญญาว่าจะไปเที่ยวเมืองไทยเพื่อกราบพ่อและแม่ของเธอ สัญญาว่าจะจัดงานแต่งงานริมชายหาด ให้เธอเป็นเจ้าหญิงของเขาท่ามกลางดอกไม้และแสงเทียนบนพื้นทราย

แต่แล้วฝันหวานของชาลิสากลับต้องพังทลายเมื่อวันหนึ่งเขาตามมาดูเธอซ้อมเต้นที่เวทีคอนเสิร์ตใหญ่ใจกลางจัตุรัสไทม์ แสควร์ ที่นั่นเขาได้พบกับอดาลีน นักร้องสาวไฮโซชื่อดัง