บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 | เห็นเป็นผู้หญิง

ตอนที่ 3 เห็นเป็นผู้หญิง

ท้ายไร่องุ่นในยามสาย แสงแดดเริ่มจ้า แต่เพราะมีต้นไม้ทั้งเล็กทั้งใหญ่รายล้อม สายลมจึงพัดโชยแทบตลอดทั้งวัน ขณะที่ชายหนุ่มหล่อ คิ้วเข้ม ร่างกำยำอยู่ในชุดธรรมดา เสื้อแขนยาวสีดำคุมทับเสื้อยืดสีขาวด้านใน ท่อนล่างสวมใส่กางเกงสีเดียวกับเสื้อแขนยาว ยืนนิ่งอยู่หน้าเจดีย์เก็บกระดูกของภรรยา โดยมีไม้ค้ำยืนช่วยพยุงตัว เนื่องจากขาที่หักยังไม่หายดี ดวงตาคมดิ่งเวลานี้เอ่อนองไปด้วยน้ำตาของความเจ็บปวดปนกับความรู้สึกผิดอยู่ในแววตา

ตั้งแต่เกิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ส่งแต่ลูกน้องปลายแถวมาเจรจาชดใช้ค่าสินไหม หยามหน้าคนอย่างภูตะวันนัก ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้าเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน เขาก็ไม่สน เงินพวกนั้นไม่เท่าชีวิตเมียที่ตายจากไปหรอก

ตึก! ตึก!

เสียงฝีเท้าของใครบางคนใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ภูตะวันรีบใช้หลังมือปาดน้ำตาลูกผู้ชายออกจากแก้มสากลวก ๆ สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น…

“ไอ้ภู”

ภูตะวันชำเลืองมองเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามายืนข้างหลังทางหางตา ก่อนจะเลื่อนไปมองรูปภรรยาที่ติดตรงหน้าเจดีย์เก็บกระดูกนิ่ง ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร เจ้าของประโยคอย่างองศา เจ้าของห้างชื่อดังหันมองหน้าปริญเพื่อนสนิทอีกคนอย่างมีความรู้สึกตรงกัน ปริญเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง และเป็นหมอกระดูกรักษาภูตะวัน

“ขามึงยังไม่หายดี กูบอกมึงแล้วไม่ใช่ ไม่จำเป็นไม่ต้องเดินออกมาไกล ๆ แบบนี้” ปริญเตือนเชิงบ่นด้วยความเป็นห่วง ในฐานะเพื่อนสนิทและหมอเจ้าของไข้ สร้างความเบื่อหน่ายให้กับภูตะวันไม่น้อย ที่ต้องฟังประโยคซ้ำ ๆ จากเพื่อนสนิทที่เป็นหมอ

“พวกมึงมีธุระอะไร” ถามโดยที่ยังยืนหันหลังให้เพื่อนสนิททั้งสอง ปริญก็ได้แต่ส่ายหน้า ห้ามหรือเตือนอะไรไป ไอ้เพื่อนจอมดื้อรั้นก็ไม่เคยฟัง

“เรื่องคดีมะปราง” ประโยคขององศาทำเอาภูตะวันหูผึ่ง หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเพื่อนสนิททั้งสอง แม้จะเงียบไม่ถามต่อ แต่สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าสนใจเป็นอย่างมาก

“ตำรวจปิดคดีแล้วนะ เตรียมส่งต่อให้อัยการ และ กูคิดว่าศาลคงตัดสินให้ฝ่ายนั้นรอลงอาญา”

“ทำไมถึงไปติดคุกทันทีวะ” ผู้หญิงคนนั้นขับรถด้วยความประมาท ฝ่าไฟแดง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนเขาต้องสูญเสียภรรยาที่เป็นดั่งดวงใจไปตลอดกาล แต่ทำไมเธอถึงยังจะได้รับอิสระ

“ก็ฝ่ายนั้นมีพยาน ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ ก็อยู่แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ ไม่หนีไปไหน และกูคิดว่าถ้าขึ้นศาล ฝ่ายนั้นคงรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียชีวิต ศาลก็น่าจะตัดสินคดีอย่างที่กูว่านั่นแหละ” ปริญอธิบายและแสดงความคิดเห็น

“พยาน?” จำได้คร่าว ๆ ว่าเวลาที่เกิดเหตุแทบไม่เห็นรถคันอื่น อีกทั้งสถานที่บริเวณนั้นบ้านคนค่อนข้างห่างไกลกัน มีแต่ต้นไม้ และ เสาร์ไฟตามไหล่ทาง

“อือ” ปริญตอบรับสั้น ๆ ข่าวใหม่ที่ได้รับจากเพื่อนสนิททำให้ภูตะวันยิ่ง งุนงง เข้าไปใหญ่ เพราะสิ่งที่คู่กรณีให้การตรงกันข้ามกับภาพที่เขาเห็น

“มึงรู้ไหม คู่กรณีมึงอะ เป็นถึงลูกน้องคนสนิทของเทวิน วรภัทรรจิรธาดา เจ้าของบริษัท AD กรุป เลยนะ เบื้องหลังเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย ทำธุรกิจผิดกฎหมายมากมาย แถมยังมีอำนาจล้นมืออีก ตำรวจเองก็ยังหาหลักฐานเอาผิดไม่ได้” องศากล่าวถึงสถานะของมาเฟียใหญ่ด้วยใบหน้าที่จริงจัง

“ต่อให้ใหญ่แค่ไหนกูก็ไม่กลัว แต่มึงแน่ใจเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นแค่ลูกน้อง?” หากบอกว่าเป็นเมียหรือเด็กเอ็นยังดูน่าเชื่อมากกว่า แม้ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอายุเท่าไหร่

“ผู้หญิง?” องศาและปริญต่างจ้องหน้าเพื่อนสนิทอย่างไม่เข้าใจ

“อือ ทำไม”

“คนขับเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ” องศาแย้งขึ้นด้วยความงวยงงสับสน ไม่ต่างจากปริญ และ ภูตะวัน โดยเฉพาะภูตะวันครั้นเกิดอุบัติเหตุตนยังมีสติ และ เห็นเหตุการณ์ช่วงแรกทุกอย่างก่อนสลบไป

“เป็นไปไม่ได้ คนที่กูเห็นเป็นผู้หญิง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งพาตัวออกจากรถไป”

“ฮะ! ผู้หญิงอย่างงั้นเหรอ?” องศาส่งเสียงเป็นคำถามออกมาอย่างตกใจเช่นเดียวกับปริญ ที่ผ่านมาภูตะวันแทบไม่พูดถึงอุบัติเหตุให้ฟังเลย เอาแต่จมอยู่กับความทุกข์ ไม่ออกไปไหน และโทษตัวเองที่พาภรรยาไปตาย

-----------------

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel