บทที่ 5 (2)
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” เสียงห้วนเอ่ยอนุญาต และยอมปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระแต่โดยดี
“คุณเจด้าขอเข้าพบครับบอส” เชสเอ่ยรายงานทันทีเมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าเจ้านาย แล้วลอบมองแก้วตาที่กำลังนั่งลูบข้อมือตัวเองป้อยๆอย่างสงสัย
“มาทำไมวะ”
“ไม่ทราบครับบอส”
“ฉันไม่ได้ถามแกเชส แล้วตอนนี้เจด้าอยู่ที่ไหน” อันเดรสถามอย่างหงุดหงิด แต่ถึงยังไงก็ไม่ลืมที่จะลอบสังเกตอาการของคนข้างตัวไปด้วย
“ตอนนี้อยู่ที่มุมรับแขกด้านนอกครับ และเธอยืนยันว่าจะเข้าพบบอสให้ได้เช่นเคยครับ”
“เรื่องเยอะจริงเชียว งั้นแกก็ไปบอกให้เข้ามา” อันเดรสส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
“ครับบอส” เชสโค้งศีรษะลงเล็กน้อย แล้วสาวเท้าออกไปอย่างไม่เร่งรีบ เพราะรู้ว่าเจ้านายต้องการให้ทำอย่างนั้นเวลาที่มีแขกไม่ได้รับเชิญมาหา
“คุณมีแขกงั้นแก้วขอตัวกลับเลยนะคะ อย่าถ่วงเวลาแก้วเอาเลยค่ะคุณอันเดรส” ครั้งนี้แก้วตาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเลี่ยงออกไปไกลเกินกว่าที่มือของอันเดรสจะคว้าได้
“คิดว่าหนีไปยืนตรงนั้นมันจะทำให้เธอปลอดภัยงั้นเหรอสาวน้อย” อันเดรสย่างกายเข้าไปประชิดเพียงเสี้ยววินาที พอดีกับที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก
“อันเดรสขา” เสียงหวานหยดของเจด้าดังเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงเสียอีก
แก้วตาเลยถือโอกาสถอยห่างอันเดรสทันทีเมื่อได้ยินเสียงหวานๆนั่น แล้วมองตามสาวสวยคนดังกล่าวที่เข้ามาได้ก็ตรงปรี่เข้าสวมกอดว่าที่เจ้านายของเธอเสียเต็มรัก
“มาทำไมเจด้า” อันเดรสแกะแขนเหนียวหนึบออกให้พ้นตัว ด้วยความที่แรงเยอะกว่าจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา สลัดหลุดก็ยืนเท้าเอวจ้องหน้าเจด้าเขม็ง
“ก็เจด้าคิดถึงคุณ เราสองคนไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ” เจด้าทำท่ากระเง้ากระงอด แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นคนแปลกหน้ายืนมองเธออยู่ “ยัยผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะอันเดรส ทำไมถึงมาอยู่ในห้องทำงานของคุณได้” ดวงตาคู่เฉี่ยวทอประกายความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
“อย่าเสียมารยาทกับคนของผมนะเจด้า พูดจาอะไรก็ควรระวังปากหน่อย ถ้าหมดธุระแล้วก็เชิญออกไป บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาสร้างความน่ารำคาญที่นี่ ผมจะทำงานเข้าใจไหม” อันเดรสลอบสบตากับแก้วตา แล้วจ้องหน้าของเจด้านิ่งเป็นเชิงเตือน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งั้นฉันขอตัวเลยนะคะ อีกสองวันจะมาเริ่มงานนะคะคุณอันเดรส สวัสดีค่ะ” แก้วตาไม่อยากจะมีปัญหาเลยรีบออกตัว แล้วยกมือขึ้นไหว้อันเดรสเพื่อกล่าวลาทันที
“พรุ่งนี้แก้วตา งานของเธอเริ่มพรุ่งนี้เป็นวันแรก ไม่ใช่อีกสองวันข้างหน้า สิบโมงเช้าเจอกันที่นี่นะอย่าลืม” อันเดรสกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงเข้มติดห้วน
“โอเคค่ะ พรุ่งนี้จะมาเริ่มงานเป็นวันแรก ในเวลาสิบโมงเช้า ขอตัวก่อนนะคะ” แก้วตากรอกตาก่อนจะก้มศีรษะลงเป็นเชิงลา โดยมีสายตาสองคู่แต่การมองแตกต่างกันสิ้นเชิงมองตามหลังไป
เมื่อออกมาได้แก้วตาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วยิ้มให้กับอีกสามชีวิตที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“พี่คิดว่าน้องแก้วจะยังไม่ออกมาเสียอีก ความจริงน่าจะอยู่เป็นเพื่อนบอสก่อนนะคะ” กิ่งเพชรย่นจมูก แล้วพยักเพยิดไปทางห้องทำงานของเจ้านาย
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ” เชสถาม
“แล้วจะเริ่มงานวันแรกเมื่อไหร่ครับน้องแก้ว” เจมส์ถามอย่างเป็นงานเป็นการ
“แก้วหมดธุระแล้วก็ต้องกลับสิคะ แค่นี้แฟนคุณอันเดรสก็เขม่นแก้วแย่แล้วค่ะ ส่วนเรื่องงานแก้วเริ่มทำวันพรุ่งนี้ค่ะพี่ๆ” แก้วตาตอบครบทุกคำถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“น้องแก้วเข้าใจผิดแล้วค่ะ คุณเจด้าเธอไม่ได้เป็นแฟนบอสนะคะ คุณเธอตามตื๊อบอสแบบนี้มานานแล้วค่ะ พี่เองยังโดนเขม่นอยู่บ่อยๆเลยค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องหึงหวงพี่กับบอสหรอกนะคะ เป็นเพราะว่าคุณเธอไม่ชอบหน้าพี่ค่ะ พี่ไม่เอาอกเอาใจหล่อนเลยโดนเกลียดขี้หน้า” กิ่งเพชรพูดเสียงเบาแล้วเหลือบมองทางประตูห้องทำงานของเจ้านายไปด้วย เชสกับเจมส์ก็พลอยหัวเราะไปด้วย
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ถึงว่าคุณอันเดรสถึงได้ดูเย็นชากับคุณเจด้านัก” แก้วตาพึมพำ
“พรุ่งนี้เจอกันนะคะ พี่มีเรื่องนั้นเรื่องนี้อยากจะคุยกับน้องแก้วตามประสาสาวๆเยอะเลยค่ะ พี่เบื่อที่จะคุยกับสองคนนี้เต็มทนแล้ว วันๆเอาแต่เพ้อถึงสาวๆ ไม่ค่อยสนใจพี่เลย ชอบปล่อยให้เหงาอยู่คนเดียวเรื่อยเลย” กิ่งเพชรยิ้มหวานให้แก้วตา แล้วมองหน้าหนุ่มรุ่นน้องทั้งสองคนอย่างงอนๆ
“โอเคค่ะพี่กิ่ง พรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่ๆ วันนี้แก้วขอตัวก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ” แก้วตายิ้มหวานให้กับทุกคนและโบกมือลาอย่างน่ารักเป็นการทิ้งท้าย
“บายค่ะน้องแก้ว”
“บ๊ายบายครับ พรุ่งนี้พี่เจมส์จะตั้งตารอนะครับ”
“เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
“ค่า” แก้วตาหันหลังกลับมายิ้มตาหยี ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง
