Chapter.6 บ้านตุ๊กตาหมี
ฉันเดินห่างออกมาสิบก้าวแล้วก็ต้องชะงักเพราะเสียงคุณป้าวจีดังขึ้นเรื่อย ๆ แอบห่วงตาบื้อนั่นเหมือนกันแต่อีกใจก็แอบสมน้ำหน้าไหวพริบเรื่องง่ายๆ แบบนี้ทำไมไม่มี รู้ความจริงแล้วต่อไปก็เลิกแซะฉันเรื่องพี่เกื้อสักที น่ารำคาญจนกลายเป็นน่าเบื่อ
"มาแล้วแล้วเหรอ มาช่วยพี่จัดโต๊ะพอดี"
"สวัสดีค่ะพี่พิม น้องพายไปไหนคะไม่เห็นมาวิ่งวุ่นเลย"
"พี่เกื้อจับอาบน้ำอยู่จ้ะ แอบเอาสีน้ำมาเล่นเลอะมอมแมมไปทั้งตัวเลย" ฉันพลอยหัวเราะไปกับพี่พิมด้วย ถ้ามาเห็นตอนที่ยังไม่ได้อาบน้ำก็คงจะขำไม่หยุด น้องพายเป็นเด็กน่ารักความซนก็เป็นไปตามวัย
"แล้วเรื่องโรงเรียนเป็นยังไงบ้างคะ"
"พี่เกื้อก็ให้ไปๆ หยุดๆ กลัวว่าจะป่วยกลับมาเหมือนคราวที่แล้ว"
"เด็กเล็กก็แบบนี้ละค่ะ ให้น้องพายกินวิตามินเสริมบ้างหรือเปล่าคะพี่พิม" ฉันเป็นห่วงหลานมากพอๆ กับพี่พิมและพี่เกื้อ บางเรื่องที่แนะนำได้ฉันก็จะพยายาม บางเรื่องก็มีศึกษารายละเอียดก่อนแล้วมาคุยกับพี่พิมเพิ่มอีกทาง
"กินจ๊ะ หมอแนะนำมาอันไหนว่าดีพี่เกื้อก็จัดมาหมด อ้อ พี่ว่าจะถามเรื่องสอนพิเศษ น้องโบยังสนใจอยู่มั้ย" น้องพายค่อนข้างติดฉัน พี่พิมก็เลยอยากให้ฉันเข้ามาช่วยสอนพิเศษพื้นฐานให้ แต่ฉันคิดว่าเรื่องเรียนของน้องพายเด็กวัยนี้น่าจะให้ผู้เชี่ยวชาญมาสอนมากกว่า
"แต่ว่า"
"พี่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องประสบการณ์แล้วก็วุฒิการศึกษาเลยนะ" ฉันยิ้มบางๆ ให้พี่พิม
"ก็ได้ค่ะ โบยังสนใจอยู่แต่ต้องเป็นช่วงเย็นนะคะ"
"ช่วงไหนก็ได้จ้ะ พี่นึกว่าน้องโบจะปฏิเสธแล้วรู้มั้ย"
"โบก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันค่ะ"
"น้องพายมีความสุขมากนะที่ได้อยู่กับอาของเขา คงไม่มีครูคนไหนได้ใจน้องพายเหมือนน้องโบหรอกจ้ะ" ฉันดีใจที่หลานรัก ดีใจที่หลานมีความสุขที่ได้อยู่กับฉัน แม้ว่าฉันกับพี่เกื้อจะไม่ได้มีแม่คนเดียวกันแต่ทุกคนก็ไม่เคยรังเกียจ อ้าแขนต้อนรับฉันด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นตลอดมา
"อาโบ"
"ว่าไงคะคนสวย ได้ข่าวว่าแอบเล่นสีน้ำ" เจ้าเด็กแก้มฟูวัยสามขวบวิ่งดุ๊กๆ เข้ามาพร้อมกับเสียงสดใสที่เรียกอาโบจนทำให้ใจฉันอ่อนยวบ
"พ่อเกื้อเก็บไม่ดี" ทุกคนหัวเราะกันหมด น้องพายพูดเก่งบางคำอาจยังไม่ชัดแต่ก็พอฟังออกและเข้าใจความหมายเพราะพี่พิมเก่งเลี้ยงน้องพายมาอย่างดี เอาใจใส่และตั้งใจฟูมฟักจนหลานรักของฉันคนนี้เก่งเกินวัย
"น่าตีมั้ยคะ ให้อาโบตีพ่อเกื้อเลยมั้ย"
"ไม่ตี ไม่ตี สงสารพ่อเกื้อ" พี่เกื้อโน้มตัวลงกอดลูกสาวแล้วหอมแก้มฟูๆ นั่นฟอดใหญ่
"ขอบคุณนะคะ"
"โบพาน้องพายไปเล่นก่อนก็ได้จ้ะ ตรงนี้พี่กับมดแดงจัดการเอง" พี่มดแดงเดินออกมาจากในครัวพอดีฉันพยักหน้าแล้วจูงมือน้องพายไปที่ห้องนั่งเล่นระหว่างรออาหารและแขกผู้มีเกียรติพร้อม อาหารมื้อนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อต้อนรับท่านประธานคนใหม่ที่ถูกอบรมชุดใหญ่อยู่หน้าบ้าน น่าสงสารเขาอยู่นะ น่าจะใช้สมองให้มากกว่านี้
"อาโบเป็นครู"
"อยากให้อาโบเป็นครูมั้ยคะ"
"อยากค่ะ น้องพายไม่อยากไปเรียนแล้ว น้องพายกลัวเชื้อโรค" ป่วยคราวที่แล้วหนักจนทำให้หลานรักของฉันเข็ด คงเป็นเพราะสภาพอากาศและความบกพร่องของภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยก็เลยทำให้น้องพายป่วย
"น้องพายของอาหายแล้ว ไม่ต้องกลัวนะคะต่อไปนี้น้องพายจะแข็งแรงไม่ป่วยง่ายๆ แน่นอน" ฉันพูดให้กำลังใจหลานเพราะอยากให้เขาไปโรงเรียน
"แต่น้องพายยังเจ็บแขนอยู่เลย" เด็กน้อยทำปากยู่แล้วยื่นแขนที่มีรอยแดงมาให้ดู
"โอ๋ๆ อาโบเป่าให้นะคะ เพี้ยง " เป็นรอยเข็มน้ำเกลือจุดแดงเล็กๆ มันเจ็บมากสำหรับเด็ก ฉันเห็นแล้วยังเจ็บแทนเลย
"อาโบไม่ไปหาน้องพายเลย" แอบรู้สึกผิดจนต้องดึงหลานเข้ามากอดแล้วพูดเหตุผลให้ฟัง
"อาโบต้องทำงานค่ะ อาโบขอโทษนะคะที่ไม่ได้ไปหาน้องพายที่โรงพยาบาลเลย"นอกจากงานประจำก็ยังมีงานพิเศษที่ฉันรับเสริม
"ไม่เป็นไรค่ะ" หลังจากขอโทษโอบกอดกันจนหายคิดถึงน้องพายก็ชวนฉันเล่นบ้านตุ๊กตาหมีด้วยกัน อยู่กับน้องพายมีแต่รอยยิ้มและความสบายใจ น้องพายเป็นเด็กพูดเก่ง ช่างถาม แล้วก็ขี้อ้อน แบบนี้ไม่ให้หลงหลานได้ยังไง
"หิวหรือยังคะ"
"ยังเลยค่ะ น้องพายยังไม่หิวค่ะ ทำไมน้าพอร์ชยังไม่มาสักที" น้องพายชะเง้อมองไปที่ประตูแล้วบ่นพึมพำถึงน้าของเขา ฉันเองก็เริ่มสงสัยว่าทำไมถึงยังไม่เข้ามา หรือว่าจะโดนไล่กลับบ้านไปแล้ว
"วันนี้น้องพายแต่งชุดน่ารักจังเลยค่ะ" น้องพายก้มมองที่ชุดตัวเองแล้วยิ้มเขิน พี่เกื้อช่างเลือกชุดน่ารักให้ลูกก็เป็น
"อาโบแต่งตัวสวย" น้องพายชี้มาที่ฉันแล้วยิ้มหวาน ฉันเองก็ยิ้มเพราะชุดนี้พี่เกื้อก็เป็นคนเลือกให้ นานมากแล้วที่ฉันไม่มีโอกาสซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ใส่
"สวยเหมือนน้องพายไงคะ" ฉันใช้นิ้วจิ้มลงบนแก้มฟูนั่นจนเด็กน้อยหัวเราะคิก
"พ่อเกื้อบอกว่าอาโบยังไม่มีแฟน" น้องพายไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน ใครพูดให้น้องพายได้ยิน
"น้าพอร์ชก็ยังไม่มีแฟนครับ" ฉันมองบนพยายามไม่สนใจคนมาใหม่ ใครถาม ใครอยากรู้ไม่ทราบ ตอนนี้สิ่งที่อยากรู้คือน้องพายเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหนเด็กวัยสามขวบไม่มีทางคิดเรื่องแบบนี้ได้แน่นอน
"ก็เป็นแฟนกันเลยสิคะ"
"น้องพาย ไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหนคะ ไม่เอาแล้วนะคะไม่พูดแล้วนะ"
"น้องพายแค่ " หลานรักของฉันทำปากเบะน้ำตาคลอเบ้า อายังไม่ได้ดุอะไรเลยหรือว่าฉันใช้น้ำเสียงดุดันจนเกินไป
"น้องพายมาหาน้าครับ อย่าร้องนะไม่มีใครดุหนูเลย" ใจฉันสั่นเพราะไม่เคยทำให้หลานมีอาการแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ซ้ำเติมฉันให้รู้สึกผิดไปมากกว่าเดิม เจ้าหญิงตัวเล็กเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดน้าเขาเรียบร้อย
"น้องพายได้ยินพ่อเกื้อกับแม่พิมพูดค่ะ" เพราะแบบนี้เอง เด็กวัยนี้กำลังจดจำและชอบพูดตาม เป็นฉันเองที่ใจร้อน
"อาโบขอโทษนะคะ ดีกันได้มั้ย"
"น้าพอร์ชขาเป็นแฟนกันดีมั้ยคะ" หลานเมินฉันแล้วหันไปถามน้าของเขา ยังไม่พ้นเรื่องแฟนที่เป็นประเด็น
"อืม จะให้น้าอธิบายยังไงดี เอาแบบนี้พ่อเกื้อกับแม่พิมเคยเป็นแฟนกันมาก่อนที่จะมีน้องพาย พอเป็นแฟนกันก็แต่งงานกันอยู่ด้วยกันจนมีน้องพายครับ" เขาเลี่ยงอธิบายอย่างลึกซึ้งแล้วยกตัวอย่างพี่เกื้อและพี่พิมขึ้นมาให้น้องพายมองเห็นภาพ เด็กหญิงตัวเล็กพยักหน้าเข้าใจแล้วยิ้ม
"น้าพอร์ชกับอาโบอยากมีน้องพายมั้ยคะ"
"ช่างถามจังเลยเรา" น้าหลานเขาเล่นกันจนฉันรู้สึกเป็นส่วนเกิน น้องพายยังโกรธฉันอยู่แน่ๆ เลย
"อาโบไปช่วยแม่พิมก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวสิ ในครัวคนเยอะแล้ว อยู่นี่แหละ"
"คุณอยู่กับน้องพายเถอะค่ะ คนเยอะแล้วแต่ฉันก็อยากเข้าไปช่วย"
"อาโบอยู่เล่นบ้านตุ๊กตาหมีก่อนสิคะ น้าพอร์ชเล่นด้วยกันนะคะ" ฉันไม่อยากอยู่เพราะเขานั่นแหละไม่ใช่เพราะน้องพายหรอก รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้าเขายังดูถูกฉันว่าเป็นชู้กับพี่เกื้ออยู่เลย
"อยากให้อาโบเล่นด้วยจริงๆ เหรอคะ"
"อยากสิคะ"
"อาโบเป็นแม่หมีนะคะ น้าพอร์ชเป็นผู้ชายต้องเป็นพ่อหมี น้องพายจะเป็นลูกหมี" ฉันมองหน้าเขาแล้วพยายามกลั้นขำ น้องพายแต่งตัวให้พ่อหมีค่อนข้างเต็ม ต่อหน้าน้องพายฉันจะไม่แสดงกิริยาที่ไม่ดีออกไปเด็ดขาดฉันไม่อยากให้หลานเสพติดสิ่งไม่ดี อยากให้เขาได้จำแต่สิ่งดีๆ
"พ่อหมีดูไม่ชอบเขาบนหัวเลยนะคะ"
"ไม่ใช่เขาสักหน่อย นี่มันหู" เขาค้านแล้วหันไปยิ้มให้น้องพาย ฉันชื่นชมที่เขาก็คิดเหมือนฉันต่อหน้าหลานเราจะไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกมา
"ออ เหรอคะ ดูเหมือนเขายังไงก็ไม่รู้"
"น้องพายครับ พ่อหมีเหนื่อยจังเลย อยากได้กำลังใจจังเลย"
"อยากได้กำลังใจมากอดลูกหมีกับแม่หมีได้เลยค่ะ" รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าของพ่อหมีเจ้าเล่ห์
"พ่อหมีต้องไปอาบน้ำก่อนนะคะถึงจะกอดแม่หมีได้"
"น้องพายเห็นพ่อเกื้อกลับมาก็กอดแม่พิมเลยค่ะ กอดได้เลยค่ะพ่อหมี" ฉันไม่ทันตั้งตัว พ่อหมีมีเขาก็ขยับเข้ามากอดฉันไว้แน่น สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ลูกหมีเป็นอย่างมาก
"หลานหัวเราะใหญ่เลย"
"กอดแน่นไปมั้ยคุณ พอได้แล้ว" ฉันขัดขืนแล้วส่งยิ้มไปให้น้องพายที่กำลังเตรียมอาหารให้เราทั้งสองคน
"ก็ คิดถึงไง"
"อาหารเสร็จแล้วค่ะ อุ๊ย "
"แม่พิมขาพวกเรากำลังเล่นบ้านตุ๊กตาหมีกันอยู่ค่ะ" ฉันสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนเขาแต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเขาเลยสักนิด
"ปล่อยได้แล้ว"
"ขอโทษนะเรื่องที่ปากไม่ดีแล้วก็เข้าใจผิด"
"คุณน่าจะมีเขาบนหัวจริงๆ นะคะ ปล่อยได้แล้วค่ะ"
"ขอโทษอยู่เนี่ยฟังหน่อยสิ" ฉันถอนหายใจ ขอโทษตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไรแต่ละอย่างที่เขาเข้าใจไม่เคยถามฉันสักคำ
"อย่าบังคับ ฉันไม่ชอบ"
"ฉันเคยบังคับเธอได้ด้วยหรือไง เธอต่างหากที่กำลังบังคับฉันให้ทำแบบนี้อยู่"
---------------------
