Chapter.2 ประธานคนใหม่
"น้าพอร์ช น้องพายหายป่วยแล้วนะคะ น้าพอร์ชจะกลับมาเมื่อไหร่คะ น้องพายคิดถึงน้าพอร์ช"
"กำลังจะขึ้นเครื่องครับ คิดถึงน้าพอร์ชหรือว่าคิดถึงของฝาก" เจ้าแก้มฟูอมยิ้มแล้วรีบส่งโทรศัพท์ให้แม่ตัวเองทันที เจ้าแสบกลับไปถึงเมื่อไหร่จะฟัดให้หายคิดถึงเลยคอยดู
"โดนหลานหลอกอะไรอีก ที่ส่งมาจะไม่มีที่เก็บอยู่แล้ว" พี่พิมบ่นผมเรื่องของฝากหลานอีกแล้ว ก็ผมรักของผมมีหลานคนเดียวก็อยากเปย์ แล้วดูน้องพายพูดกับผมแต่ละครั้งสิ เสียงอ่อนเสียงหวานจะไม่ให้หลงได้ยังไง
"ก็อยากซื้อให้ อย่าบ่นนักสิ"
"มีเป็นของตัวเองสักทีสิ"
"หมายถึงอะไร เมียหรือว่าลูก"
"ไอ้น้องคนนี้ ทั้งสองอย่างนั่นแหละ ไม่มีเมียแล้วจะมีลูกได้หรือไง" เรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของผมเลยสักนิด เห็นพี่เขยตัวเองอดหลับอดนอนช่วยพี่พิมเลี้ยงน้องพายแล้วผมก็นึกกลัว ผมยังไม่พร้อมเสียสละแบบนั้น เพิ่งเรียนจบก็อยากลุยงานให้เต็มที่ก่อน
"ถ้าไม่พลาดทำใครท้องก็อย่าหวังว่าผมจะอยากมีเลย" พูดไปแบบนั้นแหละ คำว่าพลาดจะไม่เกิดขึ้นกับคนอย่างผมแน่นอน
"อย่าเชียวนะ อยากถูกส่งไปนอกโลกหรือไง" ผมกลั้นขำ ที่ถูกส่งมาเรียนเมืองนอกก็เพราะก่อเรื่องไม่เว้นวัน หาเรื่องชกต่อยกับคนอื่นไปทั่ว นึกถึงตอนนั้นแล้วก็ตลกตัวเอง อยู่รอดมาได้ยังไงก็ยังสงสัยเหมือนกัน
"พี่ก็ ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก เลี้ยงน้องพายก็ได้ไม่เห็นต้องมีเป็นของตัวเองเลย"
"ตามใจ แล้วนี่จะขึ้นเครื่องหรือยัง"
"ใกล้แล้ว พี่เกื้อไปทำงานแล้วเหรอ" พี่เขยผมบ่นผมทุกวัน งานที่บริษัทหนักจนไม่มีเวลาหยุดอยู่บ้านเล่นกับน้องพายผมก็เลยตั้งใจเรียนแล้วรีบจบมารับตำแหน่งประธานบริษัทต่อ ถ้าไม่ได้พี่เกื้อช่วยงานบริษัทก็คงแย่เพราะพ่อผมสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนพี่พิมก็ไม่เก่งด้านนี้อีกอย่างก็ต้องเลี้ยงน้องพายด้วย
"ไปแล้ว พี่ไล่ให้ไปทำงานแล้ว หยุดนานเดี๋ยวที่บริษัทจะวุ่นวาย"
"พี่เขยผมนี่เก่งจริง ๆ กลับไปต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว"
"ไม่ต้องลากกันไปเที่ยวเลยนะ ถ้าไปก็ต้องพาน้องพายไปด้วย" การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมแล้วสินะ เลี้ยงเด็กดริ้งพี่เขยผมคงโดนเมียฟาดหัวแตกเอา
"เข้าใจแล้วครับ ต้องขึ้นเครื่องแล้ว อีกหกชั่วโมงเจอกันนะพาหลานมารับที่สนามบินด้วย"
"เดินทางปลอดภัย " ผมกดวางแล้วเตรียมตัวขึ้นเครื่อง กลับไทยคราวนี้คงได้อยู่ยาวลงหลักปักฐานที่นั่นเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง เปลี่ยนไปมากแค่ไหน
"ยัยโบใหญ่"
ประเทศไทย
'บริษัทเราไม่ได้มีงานครึกครื้นแบบนี้มานานมากแล้วเนอะ รู้สึกสดชื่นยังไงก็ไม่รู้ '
'ตอนนี้ฉันอยากเห็นหน้าท่านประธานคนใหม่มากกว่า ได้ข่าวว่าหล่อมากแก'
'ได้ยินว่าเป็นนักเลงเก่าด้วย'
'หล่อแบดงี้เหรอ'
'สเปคอะ'
ไม่รู้จะยิ้มหรือว่าหัวเราะดี พอถึงวันจริงพนักงานทุกคนต่างพากันตื่นเต้นยกใหญ่ เรื่องความหล่อของท่านประธานคนใหม่ฉันได้ยินพี่ทุกแผนกพูดถึง คงหล่อแหละเพราะพี่พิมสวยขนาดนั้น พี่น้องก็ต้องหน้าตาดีเหมือนกันสิ
"น้องโบยังไม่เปลี่ยนชุดอีกเหรอ" ฉันทำหน้างง พี่ดาเดินเข้ามาสะกิดแขนแล้วถามเรื่องชุด
"ชุดอะไรคะพี่ดา"
"ตายจริง ป้าแดงนี่ไม่ได้เรื่องอีกแล้ว วางไม้กวาดก่อนลูก ตามพี่มาเร็วๆ" พี่ดายื่นมือมาดึงไม้กวาดออกจากมือฉันอย่างรวดเร็ว
"พี่ดาอะไรกันคะ" ฉันงงไปหมดแล้ว วันนี้ท่านประธานคนใหม่จะมาฉันต้องทำความสะอาดให้เสร็จก่อนจะกลับไปที่ห้องแม่บ้านได้
"ก็ยัยมิ้นน่ะสิ เมื่อคืนเมาหนักเช้ามาก็เลยลุกไม่ไหว ได้ยินว่าเดินตกท่อขาหักไปอีก พี่ล่ะปวดหัวแต่เช้า" อ่อ พี่มิ้นเลขาของพี่เกื้อแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ไม่ใช่หน้าที่ฉันเลยสักนิด
"เดี๋ยวค่ะพี่ดา พื้นตรงนั้นยังไม่สะอาดเลยนะคะ"
"เดี๋ยวให้คนอื่นจัดการ มีงานใหญ่มากกว่ากวาดพื้นรออยู่ค่ะ" น้ำเสียงพี่ดาฟังดูหงุดหงิด งานน่าจะมีปัญหาเพราะเห็นพี่ดาวิ่งวุ่นอยู่คนเดียว ส่วนพี่เกื้อฉันก็เห็นแวบ ๆเดินไปเดินมาแถวนี้
"โบไม่ต้องกวาดพื้นแล้วใช่มั้ยคะ" ฉันถามย้ำอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา ฉันแค่ห่วงหน้าที่ของตัวเองก็เท่านั้น ถ้าพี่ดาบอกว่าจะมีคนอื่นมาทำแทนก็ค่อยโล่งใจหน่อย
"หนูต้องใส่ชุดนี้นะน้องโบ" พี่ดายื่นผ้าถุงและเสื้อเข้าชุดมาให้ ฉันชี้ตัวเองสลับกับมองชุดที่พี่ดายื่นให้
"หน้าที่โบใช่มั้ยคะ"
"ใช่แล้ว ช่วยพี่หน่อยนะ พี่เกื้อเขาแนะนำมา" พี่ดามองไปที่ประตูที่มีพี่ชายของฉันยืนยิ้มอยู่ พี่เกื้อหางานให้ฉันเหรอเนี่ย
"พี่เกื้อ โบต้องทำอะไรคะ ทำไมต้องใส่ชุดนี้ด้วย" พี่เกื้อน่าจะอธิบายเหตุผลได้มากกว่าพี่ดาที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ตอนนี้
"ต้อนรับท่านประธานคนใหม่น่ะ ที่จริงเป็นหน้าที่พี่มิ้นแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อคืน พี่ก็เลยแนะนำน้องสาวของพี่มาทำหน้าที่นี้แทน" ฉันยินดีที่จะช่วยพี่เกื้อแล้วก็พี่ดา แต่สิ่งที่กลัวคือเสียงซุบซิบนินทาที่จะตามมาแต่เวลานี้ฉันควรมองข้ามเรื่องนั้นไปก่อน
"หน้าที่ของโบมีอะไรบ้างคะ" คำถามฉันทำให้พี่ดายิ้มออก อย่างน้อยฉันก็มีส่วนช่วยทำให้พี่ดายิ้มได้ นั่นเป็นเรื่องที่ดี
"แค่ยืนถือช่อดอกไม้ พอประธานคนใหม่เดินมาก็ยื่นให้ แค่นั้นเอง หมดหน้าที่โบแล้ว" ง่ายๆแบบนี้ ฉันทำได้อยู่แล้ว
"เสร็จงานพี่อนุญาตให้โบกลับบ้านไปพักได้เลย"
"ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะพี่ดา โบทำงานต่อได้" ฉันปฏิเสธข้อเสนอ เอาเป็นว่าฉันเต็มใจช่วยงานนี้ แค่ยื่นช่อดอกไม้เองไม่เห็นยากตรงไหน ไม่เหนื่อยด้วย ทุกคนเหนื่อยกันหมด หน้าที่แค่นี้ฉันทำได้
"ได้นะน้องพี่"
"ได้ค่ะพี่เกื้อ"
"โอเคงั้นแต่งตัวเลย พี่แต่งหน้าให้อีกนิด" เอาไงก็เอา เพราะเวลาใกล้เข้ามาทุกที ท่านประธานคนใหม่หน้าตาเป็นยังไงฉันก็ไม่เคยเห็น รูปถ่ายที่บริษัทก็ไม่มี ทำตัวลึกลับยากเข้าถึง
"อย่าเข้มมากนะครับพี่ดา น้องสาวผมสวยอยู่แล้ว"
"รู้แล้วค่ะคุณเกื้อ เป็นห่วงน้องสาวจังเลยนะคะ แล้วนี่ว่าที่ประธานลุกจากที่นอนหรือยังคะ"
"แต่งตัวเสร็จตั้งแต่เช้าแล้วครับ ไปส่งน้องพายที่โรงเรียนมาด้วย ติดหลานยิ่งกว่าอะไร" น้องพายก็หลานฉันเหมือนกัน ฉันเข้ามาแต่งตัวในห้องน้ำฟังพี่ดากับพี่เกื้อคุยกันเรื่องท่านประธานคนใหม่ พี่พิมคือพี่สาวของประธานคนใหม่ ส่วนพี่เกื้อคือพี่เขย ได้ยินว่าท่านประธานคนใหม่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอกกะทันหัน งานแต่งงานของพี่เกื้อก็ไม่ได้กลับมา ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าและทำความรู้จัก รู้แค่ว่าเขาเป็นน้องชายพี่พิม
"ดีจังเลยนะคะ น้องโบเสร็จหรือยังลูก"
"ค่า ออกไปแล้วค่ะ" ชุดค่อนข้างพอดีตัว ไม่คับไม่หลวมจนเกินไป
"ว้าว พอดีเป๊ะ คุณเกื้อเกลี้ยกล่อมให้น้องโบทำงานตำแหน่งอื่นได้หรือยังคะ" พี่ดาหันไปถามพี่เกื้อเรื่องงาน พี่ดาคืออีกหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ฉันเป็นพนักงานทำความสะอาด
"เรียบร้อยครับพี่ดา"
"ดูสิ หุ่นก็ดีหน้าก็สวย อนาคตยังอีกไกลเลยนะโบ เรียนต่อเถอะจะได้มาช่วยพี่กับคุณเกื้อทำงาน"
"โบสมัครเรียนไปแล้วค่ะ"
"พูดจริงหรือเปล่า" ฉันยิ้มให้พี่เกื้อที่ทำหน้าตกใจ
"จริงสิคะ เงินค่าเทอมงวดแรกคงต้องรบกวนพี่เกื้อก่อน พอเงินเดือนออกเมื่อไหร่โบจะรีบผ่อนคืนให้ทันทีเลยนะคะ"
"น้องสาวน่ารักมากเลยค่ะคุณเกื้อ"
"ได้สิ เอาเท่าไหร่บอกได้เลย เรื่องผ่อนคืนเอาไว้หลังเรียนจบก็ได้" ทั้งพี่ดาและพี่เกื้อยินดีกับเรื่องสมัครเรียนของฉัน ฉันเองก็คิดว่ามันดีกับตัวเอง แม้จะใช้เวลานานในการคิดเพราะตอนนั้นคิดแค่ว่าไม่อยากรบกวนคนอื่น แต่ตอนนี้ฉันมีงานประจำทำหารายได้เลี้ยงตัวเองพอไปรอด สมัครเรียนต่อก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
"ไม่เยอะหรอกค่ะเพราะโบมีในบัญชีอยู่นิดหน่อย"
"เอาของพี่เนี่ยแหละ โบจะได้มีเงินเก็บ"
"ก็ได้ค่ะ" ฉันอยากตามใจพี่เกื้อบ้าง ไม่อยากดื้อให้พี่เกื้อเหนื่อยอีกแล้ว คำว่าครอบครัวของพี่เกื้อทำให้ฉันไม่อยากหนีและเดินไปไกลมากกว่านี้อีกแล้ว
-------
