Chapter 4 โลกมันกลม
คราวนี้ชายหนุ่มหัวเราะขำอย่างจริงจัง ผู้หญิงตรงหน้าพูดตรงและไม่สร้างภาพขึ้นมาให้สวยหรู เธอดูเป็นธรรมชาติ มันทำให้เขารู้สึกอยากค้นหา
แม้ความหมายของคำว่าค้นหาที่ว่า…หมายถึงต้องถอดทุกชิ้นบนร่างกายของเธอออกหมดเสียก่อน
อันดาชักจะเริ่มรู้สึกไม่สนุก ไม่ใช่เพราะคำป้อยอแสนเลี่ยนที่ถูกส่งมาไม่หยุดจากองศา แต่เป็นเพราะสายตาของบุรีที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ละไปจากจุดที่เธอยืนอยู่เลย ถึงจะยืนอยู่ห่างกันแต่มันราวกับว่าทุกประโยคระหว่างเธอกับองศานั้นบุรีได้ยินมันชัดเจนทุกคำ
มาทำตัวเป็นหมาหวงก้างอะไรกันนักล่ะ หญิงสาวคิด
องศาไม่ได้แสดงออกว่าไม่รู้จักกับบุรี เพราะเขาไม่ชอบหากอยู่กับผู้หญิงแล้วมีสถานะเพื่อนเข้ามาเกาะแกะ เวลาล่าเหยื่อพวกเขาจะทำเหมือนเสือที่อยู่คนละถ้ำ พร้อมแย่งชิงและขย้ำเหยื่อของอีกฝ่ายเสมอ
ในขณะที่บุรีก็เฉย ๆ กับเพื่อน เพราะรู้จักนิสัยใจคอกันมาอย่างดี เขาจึงไม่ยุ่งเมื่อเห็นว่าองศาเกี้ยวผู้หญิงที่เป็นคู่หมั้นของเขาต่อหน้าต่อตา รอจนกว่าทุกอย่างมันจะเลยเถิดไปกว่านั้นนั่นแหละ เขาถึงจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง
ถึงตอนนี้ก็รู้สึกสนุกไม่น้อยที่เห็นยัยตัวแสบตั้งอกตั้งใจอ่อยผู้ชายให้เห็นต่อหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ต้องเป็นของเขาคนเดียวอยู่ดี
ภายนอกของบุรีนั้นดูสุขุม นิ่งเงียบ แต่ภายในแล้วตัวเขาเองก็ยังเป็นคนอารมณ์ดี และชอบนักเชียวกับการเอาชนะ บางทีข้อนี้อาจจะมีมากกว่าคีรติด้วยซ้ำ
“ว่าแต่ ผมเริ่มง่วงแล้วสิ” องศาพูดขึ้น ถึงนาฬิกาจะบอกว่ายังไม่ทันสี่ทุ่มเลยด้วยซ้ำ โดยธรรมดานักท่องราตรีจะหนังตาหย่อนก็ต่อเมื่อล่วงเลยวันใหม่ไปแล้วโน่น
“พูดแบบนี้นี่รู้เลยนะคะ ว่าง่วงนี่คืออะไร”
ชายหนุ่มหัวเราะขำ “คุณอยากง่วงเป็นเพื่อนผมไหมล่ะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันยังอยากดื่มต่อ อยู่แม่สอดเหมือนจะลงแดงให้ได้” หญิงสาวบอกติดตลกพร้อมกับชูมือเรียกบริกรเพื่อขอรับค็อกเทลเพิ่มอีกแก้ว
“งั้นผมอยู่ต่อเป็นเพื่อนคุณก็ได้”
หญิงสาวยักไหล่เล็กน้อยเหมือนเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร “เพื่อนเยอะแยะค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าคุณง่วงก็ไปนอนได้เลยค่ะ”
คำพูดข้างต้นทำเอาองศาเสียเซลฟ์อย่างหนัก เขาเดาะปากก่อนเดินจากไปอย่างหงุดหงิด อันดายังสนใจกับบรรยากาศและเครื่องดื่มตรงหน้าต่อ ในขณะที่อิงเดินกลับมาหา เพราะเพื่อนดื่มของเธออย่างบุรีขอตัวเดินเข้าห้องน้ำ
“หนุ่มหล่อเมื่อกี้ล่ะ” อิงถาม
“ไปแล้ว ไม่ค่อยโออะแก หยอดเก่งเกิน แถมจะลากขึ้นเตียงให้ได้อย่างเดียว” อันดามองตามองศาที่เดินเร็วจนลับตาไป
“ฉันบอกแล้ว เอาคนโน้น คุณบุรีเขาดูสนใจแกจริง ๆ นะเว้ย”
“ก็ให้เขาสนใจไปสิ เชิญสนใจไปให้พอ”
หญิงสาวพูดแล้วถอนหายใจ เธอยังโกรธไม่หายที่เห็นเขามาคอยตามตื๊อจนถึงระยองนี่
“ดูแกไม่ชอบเขาเอามาก ๆ หรือจะบอกว่าเกลียดดี”
“อือ โคตรเกลียด เกลียดขี้หน้า ยิ่งเห็นหนวดเขียว ๆ ฉันยิ่งเกลียด มางานแบบนี้ทำไมไม่รู้จักโกนให้เรียบร้อย ทำตัวน่าอาย”
“เอ้า! พูดยังกับว่าเขาเป็นแฟนตัวเองงั้นแหละ”
“คนแบบนั้นเนี่ยนะ! ถ้าให้เป็นแฟนจริงนี่ขอขึ้นคานตลอดชีวิตดีกว่า”
อิงนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าคนอย่างอันดาเป็นโสดตลอดชีวิตจะเป็นแบบไหน เธอหัวเราะ เพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
จังหวะเดียวกันเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็เดินมาหา เพราะกว่าจะหลุดจากแขกผู้ใหญ่มาได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมง ทั้งต้องถ่ายรูป ต้องคอยรับแขก วิเวียนมาถึงก็บ่นว่าน่องปูดไปหมด อันดากระดกเครื่องดื่มไปหลายแก้วแต่เพราะตำแหน่งคอทองแดงที่เธอได้รับ ทำให้ยังคงมีสติอยู่
“ไงแก ถึงจะเป็นของฟรีแต่ไม่ต้องตะบี้ตะบันดื่มเอาเป็นเอาตายแบบนี้ก็ได้นะ” เจ้าสาวทักเพื่อน
คีรติหัวเราะไปกับความสดใสน่ารักของเพื่อนภรรยา เธอไม่เคยมีฟอร์มและดูเป็นธรรมชาติจนทำให้เขายิ้มได้ทุกครั้งที่เจอ
“ขอเอาให้เต็มที่ก่อนเถอะ จบงานนี้แล้วฉันก็ต้องกลับแม่สอด ไปเป็นผ้าพับไว้ในตู้แล้วล่ะ โอกาสจะได้ทำแบบนี้น่ะแทบไม่มีแล้วนะ”
“เวอร์ไปแก” วิเวียนปราม ‘ผ้าพับไว้’ นี่ก็เป็นอีกภาพหนึ่งของอันดาที่ไม่ค่อยมีใครจินตนาการไปถึงได้มากนัก
“แกไม่รู้หรอกว่าบ้านฉันน่ะขนาดไหน พูดตรง ๆ คุณนายพูนสินนี่ดูน้อยไปเลยถ้าเทียบกับป๊าม๊าฉันเนี่ย”
“จริงสิ..พูดถึงป๊าม๊าแก เค้าจะให้แกแต่งงานกับเฮียเบิ้มเมื่อไหร่”
อันดากระดกเหล้าเข้าปากแทนคำตอบ เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ ยิ่งพูดหลังจากที่ได้เห็นหน้าหนวด ๆนั่นไปหมาด ๆ ยิ่งหมดอารมณ์ แต่เป็นฝ่ายอิงเสียอีกที่ทำตาโต เธอเองเพิ่งรู้ว่าอันดาเพื่อนซี้นั้นมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว
“แกมีคู่หมั้นแล้วเหรอ ทำไมแกไม่เคยเล่า ปล่อยให้ฉันชวนเอฟเพื่อนเจ้าบ่าวในงานอยู่ได้”
“ก็เป็นแค่คู่หมั้นที่หมั้นกันตั้งแต่ฉันลืมตาดูโลกวันแรก ฉันไม่คิดจะแต่งไง ฉันไม่ชอบอีตานั่น ก็เลยไม่เคยนับว่าเป็นคู่หมั้น มีแต่วิเวียนนี่แหละที่ชอบตอกย้ำ เอามาเป็นปมด้อยล้อฉัน”
“แล้วแกก็ออกมาล่าแต้มแบบนี้เนี่ยนะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เรื่องพวกนี้ป๊าม๊าเขาจัดการกันเอง ทำไมฉันต้องไปแคร์ด้วย” อันดายักไหล่เหมือนไม่รู้สึกแคร์แบบที่บอกออกไปจริงๆ
“ย่ะ แม่สาวสมัยใหม่” วิเวียนค้อน “แล้ววันนี้แกล่าแต้มได้สักคนหรือยังล่ะ”
“ยังดิ ฉันคิดว่างานแต่งงานของแกจะมีเพื่อนเจ้าบ่าวหล่อ ๆ ที่ไหนได้ ต่อมมโนพังทลายหมด” อันดาบ่น หันไปที่เจ้าบ่าว
“คุณคีย์ไม่มีเพื่อนเจ้าบ่าวหล่อ ๆ บ้างเลยเหรอคะ พามาแนะนำให้อันดาเก็บแต้มหน่อยสิ ไม่มีผู้ชายมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ งานมันจะกร่อยเอานะ”
“เบาได้เบาเพื่อน” วิเวียนกระแอมไอเตือน
“มีน่ะมีครับ แต่มันจะไม่ดีกับคู่หมั้นของคุณอันดาน่ะสิ”
“เนี่ย.. ก็เป็นกันซะแบบเนี้ย ไม่มีใครเข้าข้างกันเลย” หญิงสาวพ้อ ถึงจะพูดทีเล่นทีจริงแต่ถ้ามีโอกาสอันดาก็จะคว้าไว้อย่างแน่นอน เธอเคยหวังเอาไว้ว่าหากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้จริง ๆ เสียที ทางพ่อกับแม่และบุรีก็อาจจะล้มเลิกเรื่องการหมั้นไปได้เอง
