2
“นิจะหาทางออก จะกล่อมแม่ค่ะพี่หนึ่ง พี่อย่าโมโหนะคะ”
“จะมีประโยชน์อะไรแล้วรู้ไหมแม่ฉันเข้าโรงพยาบาลตอนนี้ รู้มั้ย!”
“คุณป้า !ขนาดนั้นเลยหรือคะ”
อยากเข้าไปกอดเพื่อปลอบโยนแต่เขาถอยหลังหนี แววตาอ้อนวอนเธอไม่มีความหมาย
“บ้านของยายพ่อยังอยากให้แม่เธอเข้าไปอยู่ อย่าหวังว่าจะได้ไปง่ายๆ ถึงพ่อจะโอนให้เป็นชื่อแม่เธอแต่ฉันจะเอามันคืนมาให้ได้”
บ้านเรือนไทยสีขาวหลังสวยที่แม่บอกว่าคือบ้านหลังใหม่ และคือความสุขของแม่คือบ้านคนรัก เธอไม่รู้ว่าสีหน้าตนเองเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าสายตาพี่หมอหนึ่งตอนนี้มีแค่ความเย็นชา
“นิไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่เกี่ยวกับนินะคะ”
“เหมือนแม่เธอหรือเปล่าที่ไม่รู้ว่าแม่ฉันเป็นโรคหัวใจ โกหกหน้าด้านๆ แม่เธอรู้เรื่องนี้นานแล้ว ก่อนหน้านี้ยังเคยพาแม่ฉันไปโรงพยาบาลเลยนี่ ฉันชักแน่ใจแม่เธอคงคิดเรื่องจับพ่อฉันมานานแล้ว แม่เองไม่ชอบอยู่ที่ไร่ พ่อเลยมีข้ออ้างไปที่นั่นเสมอ”
มันไม่เกี่ยวกันเลย เธออยู่ใกล้ไร่ผสุชามาเนิ่นนาน ใช้ชีวิตในบ้านเช่าราคาถูกกับแม่ แม่ขยันทำงานเพื่อส่งเธอไปเรียนมหาลัยในกรุงเทพ เธอบอกเขาไป ความทรงจำของเธอและเขาอยู่ที่นี่จึงไม่อยากย้ายไปไหน
แต่เขาไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้นอีก
“อย่าเอาเรื่องนั้นมาอ้าง ยิ่งพูดจะยิ่งเข้าตัวเอง เธอน่ะไม่ต่างจากแม่”
พี่หนึ่งที่ไม่เคยดื่มเหล้า วันนี้มีกลิ่นเหล้าหึ่ง เขากำลังบีบคอเธอ ปากก็สบถ ด่าทอ นิทราดิ้นรน
“อึก อึก พี่หมอ พิ…”
พี่ชายที่แสนดีกับเธอเสมอ แม้ตอนโตจะห่างกันเพราะเขาย้ายไปเรียนกรุงเทพก่อน ได้เจออีกครั้งเธอตามตื้อเขาอย่างที่หัวใจเรียกร้อง แต่กว่าจะได้เข้าใกล้และเป็นแฟนไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องกลายเป็นผู้หญิงหน้าด้านให้เพื่อนๆ หลายคนหัวเราะเยาะ
ด้านทำไมในเมื่อเธอรักจริง รักมานาน
ไม่มีใครรู้ว่าเธอรู้จักรุ่นพี่สุดฮอตแห่งคณะแพทย์ศาสตร์คนนี้มาก่อน เธอหมายมั่นต้องทำให้ทุกคนแปลกใจ และดีใจเหลือเกินเมื่อความหลังครั้งเก่าทำให้เธอได้ใกล้พี่หนึ่ง และเอื้อมหัวใจเขามาครองสำเร็จ
ตื้อแบบหน้าด้านคือเธอ
หนีแบบไม่ตั้งใจหนีคือเขา
เพราะหัวใจเราตรงกันนิจึงคว้าหัวใจพี่ไปง่ายๆ อย่าทำมันหายเสียล่ะ
วันที่ตกลงเป็นแฟนเหมือนโลกทั้งใบเป็นของเธอ แม่เองยังยินดีและกอดเธอแน่น
“ลูกแม่น่ารักขนาดนี้เขาไม่ตกลงก็โง่แล้ว”
รู้ว่าแม่หวังจะได้ลูกเขยที่ดีพร้อม เธอเองไม่พูดอะไรกับแม่มัวแต่เขินอายและดีใจ
แต่เขากลับโยนความรักนั้นทิ้งเสียเอง ความรักกำลังจะจบลงเพราะเขาไม่รับฟังอะไร ในใจเขามีแต่ความแค้น ชิงชัง ทว่าแม้เธอเจียนบ้าก็สั่งใจให้ตื้อ เจ็บหัวใจ เจ็บตัวสารพัดก็ไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ
“พี่หมออย่าทำอย่างนี้นะคะ นิไม่รู้มาก่อน อย่าทิ้งความรักของเราเลย นิรักพี่มาก รักมากนะ ”
ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาตกใจ แต่เหมือนเขาจะไม่สนใจ
รักมั่นเพียงไหนขอให้ใจเธอรับรู้
ห่างกันเสี้ยวนาทีหดหู่ ห่วงหา
รักมั่นตลอดไปขอเธออย่าร้างลา
คำมั่นเรามาสัญญาเพื่อรักยืนนาน…
วงแขนกลมกลึงกอดร่างใหญ่แน่น คิดถึงกลอนเชยๆ ที่พี่หมอบอกว่าชอบและขำอย่างที่ไม่เคยเห็น น้ำมูกน้ำตาเปื้อนเสื้อผ้าราคาแพง หวังให้เขาอย่าผลักไสกัน กอดอย่างไม่หวงเนื้อหวงตัวอีกต่อไป แต่กลับโดนคนหน้าแดงหน้าดำผลักอย่างแรง แววตาชิงชังเจ็บยิ่งนัก ไม่ต้องการให้เขามองแบบนี้ อยากได้สายตาห่วงใยคืนมา แต่สุดท้ายโดนไล่ลงจากรถอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้เธอเดินฝ่าสายฝนกลับบ้าน
ใจร้ายเพราะกำลังโกรธ นิทรารู้ว่ากำลังหลอกตนเอง แต่ก็ยังคิดจะหลอก
วันต่อมาเขามาอาละวาดที่อพาร์ทเม้นท์ เธอใจกล้าอีกครากอดเขาแน่น เหมือนทุกครั้งที่เกิดการง้องอนกัน บอกว่ายอมเขาทุกอย่างแค่เขาหายโกรธ มุมปากสีสดยิ้มหยัน ไม่มีแววเสน่หาเหมือนวันวาน
คราก่อนเคยเว้าวอนอ้อนขอแต่ตอนนั้นแม้ถอดเสื้อผ้าจนหมดสิ้นเขาก็ไม่หันแล
“ฉันขยะแขยงเธอออกไปให้พ้น ไม่อยากแตะต้องอีกแล้ว สกปรกไม่ต่างจากแม่แน่ๆ คงขายตัวไปทั่ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาเสนอตัวให้ฉัน มาตื้อฉัน ฉันกลับมาบ้านไร่ครั้งนี้ ได้เปิดหูเปิดตา เสียงคนพูดเรื่องแม่ของเธอมันอื้ออึงในหูจนแทบจะอ๊วก”
ไม่มีอะไรดี ไร้ค่าไร้ราคา การเข้าไปหาคนที่เฝ้าปองก่อน มาวันนี้เขาเหยียบย่ำด้วยคำพูดเหมือนเธอเป็นผู้ร้ายก็ไม่ปาน
“พี่หนึ่งอย่าใจร้ายกับนิเลยนะคะ อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนนิก่อนนะ”
“อ่อยจังเลยนะเมื่อรู้ว่าฉันไม่สนใจแล้ว เสียใจด้วย ไม่สมหวังแน่นอน ฝากบอกแม่เธอด้วยล่ะ โชคสองชั้นชวดแล้ว ”
อายเหลือเกิน นิทรารีบติดกระดุมเสื้อสองสามเม็ดที่หลุดเพราะแรงมือใหญ่ ขณะเดียวกันนั้นเขาเดินออกห้องพร้อมเขวี้ยงรูปถ่ายเธอและแม่ กระถางต้นไม้ที่ดอกกุหลาบกำลังชูช่อสวยโดนเขาทำลายเช่นกัน
เพล้ง!เศษแก้ว กระถางแตกกระจัดกระจาย
กระถางพวกนั้นเธอดูแลมานาน คือหัวใจของเธอ เขาปลุกมันกับเธอแต่ตอนนี้มาทำลาย นิทรายืนมองน้ำตาไหลพราก
“พี่หนึ่ง”
“แม่ฉันตาย เธอรู้หรือเปล่า”
ร่างกายทุกส่วนชาดิก ดอกไม้ที่มีคุณค่าทางจิตใจไม่ได้รับความสนใจอีก ป้าผานิตตายแล้ว ไม่จริงใช่ไหม น้ำตาเธอไหลริน นัยน์ตาแดงก่ำของคนรักเหมือนจะสื่ออะไรมากกว่านั้น เหมือนปากเขาจะพูดอะไรอีกแต่กลับเลือกจะเดินจากไป
รักของเธอที่วาดหวังว่าจะหวานชื่น มีความสุขอย่างที่ไม่เคยพานพบคงปิดฉากลงแล้ว
“ฮือๆๆ แม่ทำไมทำอย่างนี้กับนิ พี่หมอหนึ่ง ฮือๆๆ อย่าเพิ่งไป”
ร่างอวบอัดวิ่งไปรั้งเขา แต่ก้ไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีตนนั่งตัดดอกกุหลาบที่บอบซ้ำไว้ในมือ
แต่มันคงซ้ำไม่มีทางสวยงามดังเดิม หัวใจแห้งแล้วเศร้าหมอง
“มาทำอะไรตรงนี้ดึกแล้วไปนอนสิพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
นิทราป้ายน้ำตาหันมองป้าแม่บ้านที่มองเธอด้วยสายตาดูแคลน ก่อนจะย้อนด้วยน้ำเสียงนาบเรียบ “ป้าจะมองนิแบบนี้ทำไม จะมาสั่งทำไม นิจะนอนเวลาไหนใช่เรื่องของป้าหรือ นิไม่เคยบกพร่องในนหน้าที่นะ”
ว่าแล้วเดินผ่านแม่บ้านสูงวัยที่สีหน้าดำคล้ำ แต่เธอหาได้สนใจเพราะรู้ดีที่นี่ไม่มีใครต้อนรับเธออีกแล้ว ทุกวันนี้เธออยู่ในฐานะคนรับใช้ที่ต้องทำงานมากกว่าคนอื่นๆ แต่ให้คนอื่นโขกสับนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องทน
