บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ไม่เคยหรือไง

“ขะ ขอโทษค่ะ” เมื่อตั้งสติได้มาศรวีก็รีบขอโทษโจเฉินที่ความตื่นเต้นของเธอเกือบทำให้งานเสีย ในขณะที่รถก็เคลื่อนตัวออกจากสนามบินเพื่อไปยังโรงแรมที่พัก

“ยังไม่เคยหรือไง”

“คะ คุณหมายถึงอะไรคะ” มาศรวีขมวดคิ้วอย่างสงสัยพร้อมเอียงคอถาม

“คุณไม่เคยอยู่ท่ามกลางแฟนคลับของดาราศิลปินแบบนั้นหรือไงถึงยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น” เสียงเรียบเอ่ยถามแบบไม่จริงจังนัก สายตามองออกไปนอกรถที่ตอนนี้กำลังมุ่งสู่ถนนใหญ่

“ขอโทษอีกทีนะคะถ้าหากว่าครั้งแรกก็ทำให้คุณไม่ประทับใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของฉันที่เห็นแฟนคลับมากมายของบรรดาศิลปินหรอกค่ะ แต่เป็นครั้งแรกที่ฉันเป็นหัวหน้าทีมดูแลศิลปิน” เสียงที่แผ่วเบาพูดออกไปตามความจริง

“ดูคุณไม่ค่อยมั่นใจที่จะมาทำงานนี้เลยนะมาศรวี” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นมือบางที่บีบเข้าหากันแน่นบ่งบอกว่าหญิงสาวกำลังกังวลอะไรบางอย่าง

“ค่ะ ฉันตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะเปลี่ยนผู้ดูแลเดี๋ยวฉันจะแจ้งไปทางบริษัทให้นะคะเพื่อให้หาคนมาแทนฉัน” เสียงสั่น ๆ บอกคนที่ตีหน้าขรึมตั้งแต่ออกมาจากสนามบิน เวลานี้มาศรวีไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่คิดแก้ต่างอะไรให้ตัวเองในสิ่งที่ถูกถามและในคำถามที่เหมือนจะแฝงไว้ด้วยคำตำหนินั้น

“คุณทำให้ผมประทับใจดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคนมาแทน” โจเฉินหันมาบอกมาศรวีเสียงเรียบก่อนจะหันกลับไปมองนอกรถดังเดิม บรรยากาศภายในรถตกอยู่ในความเงียบ มาศรวีที่รู้สึกว่าตัวเองทำงานไม่ได้เรื่องก็นั่งเงียบมาตลอดทางจนกระทั่งรถเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตโรงแรมระดับห้าดาวที่เธอได้จัดเตรียมไว้สำหรับซุปตาร์หนุ่มและทีมงาน

“เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมและทีมงานของฉันพาคุณขึ้นไปยังห้องพักโดยใช้ลิฟต์โดยสารที่อยู่ฝั่งขวามือนะคะ ลิฟต์ตัวนั้นจะพาคุณขึ้นไปยังชั้นที่พักโดยไม่หยุดชั้นอื่น” วิญญาณเออาร์มืออาชีพเริ่มเข้าสิงมาศรวีอีกครั้ง หลังจากที่หลายนาทีก่อนเธอรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง แถมยังขี้น้อยใจและหวั่นไหวง่ายโดยไม่มีสาเหตุรวมถึงแสดงความไม่เป็นมืออาชีพให้ลูกค้าเห็น

“ผมต้องการให้คุณขึ้นไปด้วย เราจะคุยงานกันนิดหน่อยเดี๋ยวให้ลี่ปาตามขึ้นไป” เมื่อรถจอดเทียบประตูทางเข้าโรงแรมก่อนที่ทั้งคู่จะเดินลงจากรถคำสั่งของซุปตาร์หนุ่มก็ทำให้มาศรวีต้องชะงักอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันอยู่รอคุณลี่ปาแล้วขึ้นไปพร้อมเธอนะคะ เดี๋ยวให้ทางโรงแรมพาคุณขึ้นไปห้องพักก่อน”

“คุณขึ้นไปพร้อมกับผม ส่วนลี่ปาให้ทีมงานคุณเป็นคนพาขึ้นไป” แม้จะเป็นคำพูดธรรมดาแต่มาศรวีรู้สึกว่ามันเป็นคำสั่งแกมบังคับเสียมากกว่า มาศรวีคิดในใจว่าทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอแต่เรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ทั้งนั้น แต่ก็ได้แค่คิดเพราะสุดท้ายเธอก็ต้องทำตามที่โจเฉินบอก ดีที่ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายนิด ๆ ผู้คนในโรงแรมจึงไม่ค่อยพลุกพล่าน และด้วยความเป็นโรงแรมหรูห้าดาวที่ราคาสูงไม่ต่างจากความสูงของตึกจึงทำให้การบริการและความเป็นส่วนตัวถูกใจแขกผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก สายตาคมของโจเฉินกวาดมองสิ่งรอบตัวอย่างประเมินสถานการณ์หลังจากลงจากรถก่อนจะเดินตามมาศรวีไปยังลิฟต์

“คุณเลือกโรงแรมได้ตรงตามสเปคที่บอกเลยนะ ผมชอบ” โจเฉินบอกมาศรวีขณะที่ทั้งคู่อยู่ในลิฟต์พร้อมเจ้าหน้าที่โรงแรมอีกหนึ่งคน

“ฉันก็พยายามจัดหาให้ตามที่ทีมงานคุณแจ้งมาค่ะ ดีใจนะคะที่คุณชอบ” รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้ซุปตาร์หนุ่มอย่างไม่ตั้งใจเพราะดีใจที่เริ่มได้รับคำชมจากการทำหน้าที่ของตนเอง ในขณะที่คนชมกลับรู้สึกแปลก ๆ กับรอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้

ติ๊ง!

เสียงเตือนของลิฟต์บอกให้รู้ว่ามาถึงชั้นที่ต้องการ พร้อมกับที่สายตาคมหลังแว่นตาสีดำต้องละจากใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มหวานไม่แพ้ใบหน้าอย่างรู้สึกเสียดาย

“เชิญครับ”เสียงเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกกับแขกวีไอพีพร้อมผายมือเชิญเพื่อเดินไปยังห้องพัก มาศรวีเดินนำออกไปจากลิฟต์โดยมีโจเฉินเดินตามไปห่าง ๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องที่ถูกจองไว้สำหรับซุปเปอร์สตาร์แดนฮ่องกง พนักงานรีบเอาคีย์การ์ดยื่นมาเสียบตรงประตูอย่างรู้หน้าที่ก่อนที่จะเดินนำเข้าไปภายในห้องที่เหมือนบ้านหนึ่งหลังถูกย่อส่วนมาไว้ในห้องเดียว

“คุณจะเดินดูรอบ ๆ ห้องก่อนไหมคะว่าตรงตามที่คุณได้แจ้งมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า” มาศรวีเริ่มชินกับการพูดคุยกับโจเฉินโดยแทบจะไม่มีอาการตื่นเต้นและเกร็งให้เห็นเหมือนก่อนหน้านี้ อาการใจเต้นตึกตักเพราะเห็นดาราที่แอบชอบยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนเมื่อชั่วโมงก่อนถูกกลบด้วยหน้าที่ที่ต้องทำอย่างมืออาชีพ จนเกือบลืมไปว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอแอบปลื้มจนอกหักซ้ำซ้อนมาเป็นปี

“ไม่ล่ะ ผมเชื่อใจคุณ” มือหนายกขึ้นมาเพื่อถอดแว่นตาออกจากใบหน้าก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนล้า มาศรวีจึงเดินไปรับเครื่องดื่มที่สั่งทางโรงแรมเตรียมไว้ให้แล้วยกมาให้โจเฉินที่ตอนนี้นั่งหลับตาอยู่บนโซฟาตัวใหญ่

“เลมอนโซดามินท์ที่คุณชอบค่ะ” เครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบถูกยื่นมาตรงหน้าชายหนุ่มด้วยมือของมาศรวี ดวงตาที่กำลังหลับ ปรือขึ้นมามองสิ่งที่ถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนที่ซุปตาร์หนุ่มจะยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือไปรับมาดื่ม

“ขอบคุณครับ”

“ฉันว่าคุณดูเหนื่อย ๆ นะคะคุณจะพักก่อนไหมแล้วค่อยคุยงานกันหลังจากคุณพักผ่อนแล้วก็ได้” เมื่อเห็นท่าทางของ โจเฉิน มาศรวีก็พูดออกมาโดยที่ไม่ทันได้คิดว่าคนฟังจะตีความหมายไปอย่างอื่น สายตาที่เจือไปด้วยความห่วงใยของมาศรวีทำให้โจเฉินต้องมองสบตากลมคู่นั้นเนิ่นนานจนหญิงสาวต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาคู่คมนั้นก่อน

“ถ้าผมนอนพักคุณจะอยู่เฝ้าผมหรือเปล่า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel