เหลียนฮวาสองภพ

202.0K · จบแล้ว
จิ้นอิ๋ง
56
บท
15.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

บัวชมพูกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานตามประเพณีดั้งเดิมของจีน แต่กลับมีผู้หญิงท้องโตสามคนมาปรากฏตัวกลางแต่ง พร้อมกับชี้หน้าว่าเจ้าบ่าวของเธอเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทั้งยังมีหลักฐานความสัมพันธ์และการร่วมหลับนอนเป็นคลิปในโทรศัพท์มือถือ แล้วใครมันจะไปทนได้!! เธอจึงไล่ฟาดเจ้าบ่าวสารเลวไปจนถึงสระบัวหน้าบ้าน พอตามมาได้ทัน หญิงสาวก็ยกขาถีบเจ้าบ่าวเฮงซวยตกลงไปในสระบัวที่เต็มไปด้วยปลาแรด เพื่อให้สมกับความแรดของมัน แต่นั่นก็ยังไม่สาแก่ใจ!!! บัวชมพูจึงกระโดดตามลงไปเล่นงานมันซ้ำ แต่เมื่อเธอลงไปในสระบัว กลับหาร่างของอดีตคนรักไม่พบ งมอยู่เป็นนาน จึงตัดสินใจขึ้นจากน้ำ และทันทีที่โผล่พ้นน้ำ สิ่งที่รอบัวชมพูอยู่กลับไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่เจ้าบ่าวเฮงซวย แต่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ กำลังชี้ปลายกระบี่มาที่คอของเธอ! ที่สำคัญคือ ผู้ชายคนนั้น...หล่อมากจริง ๆ นะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายรักข้ามมิติโรแมนติกนิยายย้อนยุคฟินๆ

บทที่ 1 วิวาห์เดือด!

หญิงสาวเจ้าของเรือนร่างสมส่วนยืนมองตัวเองในกระจกอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อเธอดูราวกับเพิ่งก้าวออกมาจากซีรีส์ชื่อดังของจีน ที่นางเอกกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับพระเอกในตอนสุดท้าย

ชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลายนกยูงอย่างงดงามด้วยความละเอียดประณีตทุกฝีเข็ม แม้นกยูงจะไม่ได้รำแพนขน แต่ขนทุกเส้นที่ทิ้งตัวลงมาตามความยาวของชุดเจ้าสาวก็ดูงามสง่า คงไว้ซึ่งท่าทีสูงศักดิ์ ไหมที่ใช้ปักลายประกอบด้วยสีขาวไข่มุกและสีทองที่ไม่ฉูดฉาด ดูอบอุ่น อ่อนละมุน ส่งให้ชุดเจ้าสาวยิ่งงดงาม สมเป็นชุดที่หญิงสาวผู้หนึ่งจะได้สวมใส่สักครั้งในชีวิต

ชุดเจ้าสาวที่บัวชมพูกำลังสวมใส่อยู่นี้ ได้รับการตัดเย็บโดยช่างฝีมือชาวจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะได้ชุดนี้มาครอบครอง แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เมื่อคิดว่านี่อาจเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิตที่จะได้สวมชุดเจ้าสาว

“เครื่องสำอางพี่กันน้ำหมดเลยนะคะน้องบัว เผื่อว่าหนูจะซาบซึ้งจนร้องไห้” เชอร์รี่ ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองคนสวยเอ่ยแซว ขณะมองบัวชมพูที่ยืนยิ้มอยู่หน้ากระจกด้วยความปลาบปลื้ม

“ขอบคุณค่ะพี่เชอร์รี่” บัวชมพูกล่าวขอบคุณโดยที่ยังไม่หยุดหมุนกายไปมา เพื่อสำรวจหาความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

แน่นอนว่าย่อมไม่มีความผิดพลาดใด ๆ ให้เห็น บัวชมพูเป็นคนที่จัดว่ามีรูปร่างสมกับที่เกิดมาเป็นผู้หญิง ทั้งสัดส่วนโค้งเว้าต่าง ๆ ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และความสูงในเกณฑ์ที่สามารถเป็นนางแบบอาชีพได้ไม่ยาก ประกอบกับที่เธอมีใบหน้าโดดเด่น อันเกิดจากการผสมผสานหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย จีน และฝรั่งเศส ทำให้หญิงสาวค่อนข้างสะดุดตาคนมอง ติดก็ตรงที่บัวชมพูมีทั้งความทะลึ่งและทะเล้นที่มาลดทอนความงามบนใบหน้าลงไปหลายส่วน เพื่อน ๆ ของเธอจึงมักกล่าวเสมอว่า บัวชมพูสามารถกลายร่างเป็นเจ้าหญิงได้ หากอยู่เฉย ๆ นั่งนิ่ง ๆ และไม่พูดอะไรเลย

ทว่าเรื่องยากแบบนั้น บัวชมพูไม่มีวันทำได้!

ดีกรีความทะลึ่งทะเล้นของเธอเทียบเท่าเหล่าเพื่อนผู้ชายที่เธอเรียกเหมารวมว่า ‘แก๊งสัปดน’ นิสัยใจคอแบบนี้จะไปคบเพื่อนผู้หญิงก็สงสารเพื่อน บัวชมพูจึงได้มารวมกลุ่มกับเพื่อนผู้ชายอีกเจ็ดคน แล้วสัปดนไปด้วยกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

“เพื่อนฝูง!” บัวชมพูเปิดประตูห้องแต่งตัวออกไปหากลุ่มเพื่อนที่พากันมารอลุ้นอยู่หน้าห้อง เพื่อดูว่าลิงจะเปลี่ยนเป็นหงส์ได้หรือไม่

“พวกแกว่าฉันดูดีหรือยัง” หญิงสาวถามพลางหมุนกายไปมาอวดเพื่อน

“เกือบดูดีแล้ว ถ้าอยู่นิ่ง ๆ แล้วก็ไม่อ้าปากพูด” วิวัฒน์ หนึ่งในเพื่อนแก๊งสัปดนเอ่ยตอบ

คำตอบของวิวัฒน์ทำเอาเชอร์รี่เกือบจะหัวเราะออกมา จริงอย่างที่ชายหนุ่มพูดไม่มีผิด ก่อนหน้านี้ที่บัวชมพูอยู่เฉย ๆ ภายใต้เครื่องสำอางและทรงผมที่เข้าที่เข้าทาง เธอดูสมบูรณ์แบบและโดดเด่นสมเป็นเจ้าสาว แต่พอเริ่มพูดและขยับตัวเท่านั้นแหละ จากเจ้าสาวผู้งามสง่าก็กลายเป็นม้าดีดกะโหลกขึ้นมาทันที

“ไม่ให้อ้าปากพูด จะให้อ้าปากกัดเลยไหมล่ะ!” บัวชมพูทำท่าจะถลาออกไปกัดหัวเพื่อน หากไม่ใช่เพราะเชอร์รี่รีบเข้ามาห้ามไว้

“น้องบัว! อย่าเล่นมาก เดี๋ยวหน้าเละ!” เชอร์รี่แผดเสียงดังลั่น ด้วยกลัวว่าใบหน้าและทรงผมของเจ้าสาวที่เธอตั้งใจแต่งมาหลายชั่วโมงจะพังพินาศเพราะตัวเจ้าสาวเอง

ทุกคนกำลังจะหัวเราะให้ท่าทีที่ดูคล้ายกระต่ายตื่นตูมของเชอร์รี่ แต่ยังไม่ทันมีใครได้หัวเราะ ธัญกรณ์ผู้เป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับบัวชมพูก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

“ไอ้บัว! งานเข้าแล้ว!”

“มีอะไร” บัวชมพูถาม “หรือว่าพี่ว่านหนีงานแต่งฉัน!”

“เจ้าบ่าวแกยังอยู่” ธัญกรณ์พูดไปหอบไป “แต่ให้มันหนีไปก็ยังดีกว่า”

“ทำไมอะ”

“มีผู้หญิงท้องโตสามคนมาบอกว่าไอ้พี่ว่านของแกเป็นพ่อของเด็กในท้อง”

“อ้าวเฮ้ย!” แก๊งสัปดนที่เหลืออีกหกคนประสานเสียงพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียง แล้วมองไปยังบัวชมพูที่ดูเหมือนจะช็อกไปแล้ว

“ไอ้บัว เอาไงวะ”

“ไปดูกัน!” บัวชมพูพยายามตั้งสติ “ถ้ายัยพวกนั้นไม่มีหลักฐานหรือคิดจะใส่ความพี่ว่าน ฉันส่งพวกนางพุ่งไปดาวพฤหัสฯแน่!”

บัวชมพูถลกกระโปรงชุดเจ้าสาว แล้ววิ่งนำเพื่อนทั้งเจ็ดคนลงมายังชั้นล่างของบ้านซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ ผู้หญิงสามคนที่อายุครรภ์ราวเจ็ดถึงแปดเดือนกำลังยืนด่าวรกานต์เจ้าบ่าวของเธออยู่ ในขณะที่เขาเถียงหัวชนฝาว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

“พี่ว่าน!” บัวชมพูเรียกว่าที่สามีที่กำลังยืนเถียงกับหญิงมีครรภ์ทั้งสาม

“บัว!” วรกานต์รีบวิ่งมาหาเธอพร้อมกับจับไหล่ของบัวชมพูไว้ “ไม่ต้องไปฟังใครทั้งนั้นนะบัว พี่ไม่รู้จักผู้หญิงสามคนนั้น”

“ไม่รู้จักอะไร! ไอ้ที่มานอนด้วยกันจนท้องเนี่ย จะบอกว่าพวกฉันสามคนไปรุมโทรมแกเหรอ!” ผู้หญิงท้องคนหนึ่งตวาดลั่น

“ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจะมาเตือนเธอ” ผู้หญิงอีกคนที่ดูใจเย็นกว่าคนแรกหันมาพูดกับบัวชมพู “ชีวิตเธอจะยิ่งกว่าตกนรก ถ้าต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้”

“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเธอไม่ได้โกหกเพื่อใส่ความพี่ว่าน” บัวชมพูถามกลับ

“ฮึ!” ผู้หญิงคนสุดท้ายแค่นเสียงพร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือมาให้บัวชมพู “เอานี่ไปดูก็แล้วกัน งานนี้ฉันเทหมดหน้าตัก!”

“บัว อย่าไปดู!” วรกานต์พยายามจะเข้ามาปัดมือของผู้หญิงคนนั้น แต่กลับถูกบัวชมพูดึงไว้

“ถ้าพี่ว่านบริสุทธิ์ใจ ทำไมถึงให้บัวดูไม่ได้” น้ำเสียงของบัวชมพูเย็นขึ้น

เดิมทีเธอยังมีความเชื่อใจในตัวเจ้าบ่าวว่าเขาอาจจะถูกใส่ร้าย แต่ท่าทีลนลานของวรกานต์ก็ทำให้เธอไม่มั่นใจ ยิ่งได้เห็นเขาพยายามปัดโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย ใจเธอก็ยิ่งโอนเอนไปทางหญิงมีครรภ์ทั้งสามแล้ว

“ถอยไป!”

“ไม่! นี่วันแต่งงานของเรานะบัว อย่าให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาทำให้เราผิดใจกันได้สิ”

“เพื่อนฝูง” บัวชมพูหันไปฉีกยิ้มที่ค่อนข้างน่ากลัวให้เพื่อนแก๊งสัปดนของเธอ “จับไอ้พี่ว่านไว้”

“จัดไป!”

“ถอยไป! บัวอย่าไปดู! บัว!” วรกานต์ตะโกนโวยวาย แต่เขาคนเดียวหรือจะสู้แก๊งสัปดนเจ็ดคนได้ ไม่นานชายหนุ่มก็ถูกล็อคไว้ทั้งตัว แม้แต่ปากก็ยังมีผ้าอุดไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่ผ้าที่ไหน แต่เป็นแขนเสื้อที่ถูกฉีกจากชุดเจ้าบ่าวของเขาเอง

บัวชมพูหันไปรับโทรศัพท์มือถือมาจากผู้หญิงท้องตรงหน้า ภาพคลิปวิดีโอการร่วมรักสุดร้อนแรงระหว่างวรกานต์กับเจ้าของโทรศัพท์ปรากฏชัดเต็มสายตาของเธอ บัวชมพูกัดฟันกรอดขณะเงยหน้าขึ้น

“ถ้ายังไม่พอ ของฉันก็มีนะ”

“ฉันด้วย”

อีกสองคนที่เหลือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ให้บัวชมพูบ้าง แต่บัวชมพูยกมือขึ้นปราม เรื่องน่าสะอิดสะเอียนระคายสายตาแบบนี้ ดูครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

“ปล่อยมัน!” บัวชมพูหันมาบอกกับแก๊งสัปดน

“จะให้กระทืบสักทีสองทีก่อนไหม”

“ไม่ต้อง” บัวชมพูแสยะยิ้ม “เรื่องกระทืบไอ้เวรนี่ ฉันจัดการเอง!”

แก๊งสัปดนดึงผ้าที่อุดปากวรกานต์ออก แล้วโยนร่างของชายหนุ่มมาล้มลงแทบเท้าบัวชมพู หญิงสาวส่งยิ้มอำมหิตให้ว่าที่เจ้าบ่าวสารเลวที่เงยหน้าขึ้นมองเธอ

“บัว พี่... โอ๊ย!” วรกานต์ยังไม่ทันได้เอ่ยปากแก้ตัว บัวชมพูผลักเจ้าบ่าวของเธอจนกระเด็นไปไกล

“ไอ้ผู้ชายตอแหล! ทำผู้หญิงท้องทีเดียวสามคนแล้วยังมีหน้ามาแต่งงานกับฉัน! วันนี้ฉันต้องตีแกให้ได้!”

วรกานต์ตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งหนี เขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างผอมบางจนแทบไม่ต่างกับผู้หญิง ในขณะที่แก๊งสัปดนมีแต่ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ หากเขาตอบโต้บัวชมพูแม้แต่นิดเดียว แก๊งสัปดนคงได้รุมเหยียบหน้าเขา แต่หากเขาไม่โต้ตอบ มีหวังบัวชมพูคงได้ตีเขาจนตาย ดังนั้นหนทางรอดเดียวของเขาก็คือ... หนี!

“เจ้ รับ!” บดินทร์ น้องชายของบัวชมพูโยนไม้เบสบอลมาให้พี่สาว

บัวชมพูรับไม้เบสบอลมาจากน้องชาย แล้ววิ่งตามเจ้าบ่าวเฮงซวยไป ไม่สนใจชุดเจ้าสาวที่ราคาแพงลิบลิ่วของตัวเอง นาทีนี้เธอกลัวอยู่อย่างเดียว

กลัววิ่งตามวรกานต์ไม่ทัน!

“แน่จริงอย่าหนีสิ!” หญิงสาวตะโกนไล่หลังวรกานต์ที่กำลังวิ่งหนีเธอสุดชีวิต

เสียงไม้เบสบอลถูกขว้างแหวกผ่านอากาศดังอยู่ข้างหลังวรกานต์ เขาหมุนตัวหลบได้ทัน แล้วพยายามวิ่งหนีต่อ ไม่อย่างนั้นบัวชมพูคงได้ตามมาฆ่าเขาแน่

‘ถ้าพี่แอบไปมีคนอื่นลับหลังบัว บัวจะเหยียบน้องชายพี่ให้เละคาเท้าเลย!’ เธอเคยพูดเอาไว้แบบนั้น

วรกานต์วิ่งไปที่ประตูรั้วบ้านของบัวชมพู แล้วพยายามเปิดประตู แต่ไม่ว่าอย่างไรประตูเหล็กบานใหญ่ก็ไม่ยอมขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เพราะคนถือรีโมตอย่างบดินทร์ไม่ยอมกดเปิดประตูให้

“จะหนีไปไหนครับ ไอ้พี่ว่าน” น้ำเสียงยียวนเสียงหนึ่งถาม

แก๊งสัปดน!

วรกานต์หันกลับมามองบัวชมพูและเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายของเธออีกเจ็ดคนด้วยสีหน้าคล้ายจะร้องไห้ อย่าว่าแต่แก๊งสัปดนเลย แค่น้องชายของบัวชมพูคนเดียว เขาก็สู้ไม่ได้แล้ว นี่ขนกันมาหมดราวกับจะมารุมฆาตกรรมเขาอย่างไรอย่างนั้น

แล้วเขาจะรอดไปได้ยังไง!

“ถ้าไม่คิดหนี โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบาก็ได้นะ” วิวัฒน์เอ่ยขึ้น

“แต่ดูจากสถานการณ์แล้วไม่น่าลดว่ะ” ชานนท์ เพื่อนอีกคนของบัวชมพูพูดปนหัวเราะ “มีแต่ตายช้ากับตายเร็ว”

บัวชมพูแสยะยิ้มพลางก้าวไปหาวรกานต์ ชายหนุ่มพลันนึกขึ้นได้ว่าตนยังมีรถยนต์ อย่างมากก็แค่ขับรถชนประตูรั้วแล้วหนีไป รถพังแต่ชีวิตปลอดภัยก็นับว่าคุ้ม

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงรีบวิ่งย้อนกลับมาเพื่อไปที่รถของตน แต่ก็ต้องพบกับพ่อแม่ของบัวชมพูที่ยืนขวางอยู่ สีหน้าของพวกท่านโกรธจัด เขาจำได้ว่าพ่อของบัวชมพูเป็นครูสอนยิงปืน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะซุกปืนไว้หรือเปล่า ชายหนุ่มจึงต้องเปลี่ยนทิศทางการวิ่ง จนกระทั่งมาถึงสระบัวหน้าบ้าน

“ไม่มีทางให้หนีแล้ว” บัวชมพูที่วิ่งตามมาติด ๆ ยิ้มเหี้ยม ไม่รู้ว่าหญิงสาวไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงวิ่งตามวรกานต์ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ในขณะที่คนหนีเหนื่อยหอบจนแทบจะล้มทั้งยืน

“บัว ฟังพี่อธิบายก่อน”

“อธิบายอะไรยะ! คลิปร้อนแรงซะขนาดนั้น ยังจะต้องอธิบายอะไรอีก!”

“พี่ไม่ได้คิดจะจริงจังกับผู้หญิงพวกนั้น ก็แค่สนุกอะบัว” วรกานต์พยายามแก้ตัว “พี่รักบัวคนเดียวนะ”

“ถุย! รักกับผีน่ะสิ ถึงได้นอกใจฉันไปทำผู้หญิงท้องตั้งสามคน สามคนเลยนะ! ไม่คิดจะรับผิดชอบเด็กในท้องของผู้หญิงพวกนั้นเลยหรือไง”

“นั่นก็เพราะพี่เลือกบัว”

“อ้อ นี่ฉันผิด!” บัวชมพูชี้มาที่ตัวเองพลางตั้งคำถามเสียงแข็ง

“พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

“ลงไปอยู่กับปลาแรดให้สมกับความแรดของแกซะ!”

พูดจบบัวชมพูก็กระโดดถีบขาคู่ใส่วรกานต์ จนตกลงไปในสระบัวที่เต็มไปด้วยปลาแรด

แต่มันก็ยังไม่สาแก่ใจ!

ขณะที่แก๊งสัปดนกำลังวิ่งตามมา บัวชมพูก็กระโจนลงสระบัวตามวรกานต์ไปแล้ว เสียงน้ำแตกกระจายดังตูม ทำเอาพวกปลาแรดต่างพากันแหวกว่ายหนี ราวกับรู้ว่าเจ้านายของพวกมันกำลังสติแตก

บัวชมพูดำลงไปหาตัววรกานต์ในน้ำ หวังเล่นงานเจ้าบ่าวเฮงซวยซ้ำ ทว่าดำน้ำอยู่นานแต่กลับคว้าอะไรไม่ได้ แม้น้ำในสระบัวบ้านเธอจะไม่ใสเหมือนทะเลสาบบลูเนลสัน แต่ก็ไม่ได้ขุ่นเท่าคลองแสนแสบที่เธอจะได้หาผู้ชายสารเลวคนนั้นไม่พบ

เมื่อหาใต้น้ำไม่พบ บัวชมพูจึงตัดสินใจขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อหาตัววรกานต์อีกครั้ง

“ไอ้พี่...” เสียงของบัวชมพูขาดห้วงไป เมื่อสถานที่ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาไม่ใช่บ้านของเธอ

บัวชมพูยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยกมือขึ้นขยี้ตาแล้วมองไปรอบ ๆ ภาพเบื้องหน้าดูเหมือนจวนขุนนางที่เธอเคยเห็นในซีรีส์จีนย้อนยุค ตั้งแต่สวนรอบสระบัว สะพานไม้ทรงครึ่งวงกลม ไปจนถึงเรือนพักอาศัย ไหนจะต้นบ๊วยสูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกสีชมพูเบ่งบานทั่วทั้งต้นนั่นอีก

นี่มันเรื่องอะไรกัน!

“เจ้าเป็นใคร!” เสียงหนึ่งตวาดลั่น