บท
ตั้งค่า

บทที่4

นภัสสรสบตาหวานคมที่มองเธอด้วยความชื่นชมอย่างอายๆ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายคนรักได้เห็นผิวเนื้อแท้ ขณะไม่มีอาภรณ์ห่อหุ้มของเธอ

ในกายหญิงสาวเริ่มเต้นเร่า หลังจากร่างสูงลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น

เธอคาดว่าเขาจะพาไปที่เตียง แต่ก็ไม่

ทั้งคู่ยังอยู่กลางห้อง เธอยืน เขานั่ง

สายตาคมวับจับอยู่ที่บริเวณต้นขาเธอมาบรรจบกัน

“ขอผมแตะนะ”

สิ้นเสียงขอโดยไม่จำเป็น เขาก็ทำให้เธอห่อปากครางออกมาแผ่วเครือ ด้วยความเสียวซ่าน

“คุณกุน...”

ปลายนิ้วที่ไล้ไปบนต้นขา กรีดลงตรงร่องกลาง

“ภัสจ๋า ผมจะจูบตรงนี้นะ”

“อื๋อ! ไม่….อย่าค่ะ!”

รีบร้องเสียงหลงไม่ดังนัก

“ทำไมต้องห้าม”

ถามโดยไม่เงยหน้า

“ก็...”

หน้าแดงซ่านเลือด เมื่อนิ้วยาวยังกรีดไปมาตามความยาวของปากร่อง

“ในความรักไม่มีอะไรน่าเกลียด”

เสียงห้าวพร่าต่อรอง

“แต่คุณ….ไม่เคยทำ อย่างนี้นี่คะ”

“แต่เวลานี้ ผมอยากกลืนกินภัสทั้งตัวแล้วนี่ อา...”

กุนทรครึมครางเมื่อสัมผัสในความชุ่มฉ่ำ

“อนุญาตผม...นะ นะ”

แววตาฉ่ำ ตัวตนความเป็นชายขยายเหยียด บอกให้รู้ว่าระดับความรู้สึกอยากปลดปล่อยทั้งตัวเองและคนรักไปยังอีกโลกที่รู้กันเพียงสองคน ทำให้นภัสสรพยักหน้าอายๆ

ความจริงก็…อยากรู้อยากลองเรียนด้วยแหละ

เธอกับเขามีโอกาสอยู่ด้วยกันอย่างสนิทชิดเชื้อแค่ครั้งเดียวหลังจากเป็นของกันและกัน

ครั้งแรกนั้นใช้เวลานานพอสมควร เพราะเขาต้องการจับจูงเธอสู่เส้นทางใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะรู้ว่าเป็นครั้งแรกของเธอ ซึ่งท้ายที่สุดเธอก็ผ่านจุดที่ไม่มีวันหวนกลับมาได้พร้อมความสุขแปลกใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะมากมายขนาดนั้น

สำหรับครั้งที่สอง ห่างจากครั้งแรกเกือบสองเดือนเต็มๆ เพราะกุนทรอยากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่เธอเองประวิงเวลาด้วยความกลัว และไม่กล้าเผชิญหน้ากับคู่หมั้นตรงๆ

ยิ่งใกล้วันที่เธอจะต้องแต่งงานกับภูณฤทธิ์ กุนทรก็เหมือนจะคลั่งขณะที่เธอมีแต่ความกลัว ความอาดูรเพียงนึกถึงอนาคตที่ต้องแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก ซึ่งเจ้าบ่าวเองก็ดูไม่ค่อยใยดีเธอสักเท่าไหร่

พูดจริงๆ ภูณฤทธิ์ไม่กระตือรือร้นที่จะตระเตรียมงานแต่งยิ่งไปกว่าเธอ เขายังเข้าเมืองบ่อยๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าไปหาผู้หญิงที่เขามีไว้สำหรับปลดปล่อยอารมณ์หนุ่ม

ในวันที่เธอตัดสินใจเด็ดขาด ขอให้พาเธอหนีนั้นเอง ที่กุนทรลืมความตั้งใจว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางกายต่อกันจนกว่ทุกอย่างจะถูกต้องเรียบร้อย เพื่อที่เธอกับเขาจะได้รักกันอย่างเปิดเผย

ความกลัดกลุ้มระคนโมโห หลังจากเสนอทางออกไหนมาเธอก็ไม่เอาด้วยสักอย่าง

เขาเข้าหาเธอแรงเร็วในจังหวะเดียว หลังจากจูบดุเดือดและใช้นิ้วสัมผัสพบว่าเธอชุ่มฉ่ำพอจะให้เขาบุกรุก

และเธอก็ได้เรียนรู้ครั้งนี้เองว่า ต่อให้เสื้อผ้ายังอยู่ครบบนกายก็หาได้เป็นอุปสรรคต่อการแสดงความรักแต่อย่างใดไม่

ครั้งที่สองนี้กุนทรไม่ได้ถนอมเธอเหมือนครั้งแรก แต่ก็ยังห่างไกลคำว่าป่าเถื่อน เธอรักเขา ไม่เคยกลัวเขาเลยแม้ยามที่เขาโกรธ หน้าตาถมึงทึงที่อาจจะทำให้บางคนวิ่งหางจุกตูด

ขณะหญิงสาวปล่อยใจเคลิ้มถึงประสบการณ์ถูกรักครั้งที่สองที่กินเวลาไม่นานนัก แต่ความตื่นเต้นเร้าใจก็ทำให้เธอพานพบความสุขยิ่งกว่าครั้งแรก กุนทรก็กำลังเพ่งพิศเนินนางอวบขาวมีปอยขนนุ่มราวนิลไหมขึ้นปกคลุมบางเบาที่อยู่ในระดับสายตา

แม่คุณเอ๋ย...

เขาคร่ำครางในอกด้วยความลานตา

มือที่ถอยห่างกลับไปทาบทับวัดขนาด

ดูเถอะ ขนาดฝ่ามือเขายังแทบจะปิดไม่มิด

กุนทรแทบน้ำลายสอ เมื่อเริ่มสำรวจทุ่งหญ้า หุบผา ซอกหลืบ ไม่มีส่วนใดรอดพ้นสายตา หลังจากประคองขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า

นภัสสรกัดริมฝีปากตัวเองแน่นข่มเสียงร้องที่อาจจะหลุดรอดออกมาเพราะความสยิวเสียวทันทีที่นิ้วยาวเริ่มซอกซอนสู่หุบลึกแคบ

ความกังวล ความกลัว กำลังถูกมือและนิ้วแกร่งกระด้างปัดกวาดจนสิ้นซาก เหลือไว้เพียงความโหยหา ต้องการให้ชายคนรักรุกล้ำหนักหน่วง

แต่ถึงจะขบเม้มริมฝีปากแน่น บางช่วงบางตอนยังมีเสียงครางเล็ดรอดออกมาอยู่ดี

ถัดจากนั้นไม่กี่วินาทีนภัสสรก็คิดว่าเธอนั้นตายแน่ คงยืนหยัดด้วยขาเดียวต่อไปไม่ไหวกับวิธีการลิ้มรสความฉ่ำชื้นที่ร่างกายเธอขับออกมา อันเป็นผลจากการรุกล้ำของนิ้วยาวแกร่งกระด้างของเขา

ฟันของเธอกระทบกันดังกึกๆ ร่างกายสะท้านราวคนเป็นไข้จับสั่น ลมหายใจหอบถี่ ทันทีที่ลิ้นอุ่นจัดรุกล้ำเข้าไปแล้วก็มิได้หยุดนิ่งเฉย ด้วยการกวาดไปมาอยู่ภายในซอกเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ราวต้องการสำรวจว่าจะมีสิ่งใดซุกซ่อนในนั้นหรือไม่

“โอย…”ลืมตัวร้องลั่นเมื่อชายหนุ่มห่อลิ้นสากแยงรูที่กำลังตอดขมิบ

“พะ….พอเถอะ ภัสจะ...อ๊ะ!”

ปากห้าม แต่มือทั้งสองข้างที่ขยุ้มลงไปบนเรือนผมยุ่งกลับกดแน่น

ช่างหฤหรรษ์กับประสบการณ์ใหม่ที่เขามอบให้ แผกไปกว่าทุกครั้ง

ลิ้นห่อกลับมาแบแล้วตวัดเข้าที่ติ่งตูมศูนย์รวมประสาทความเสียวซ่านเร็วๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel