3
เธอคนนี้ คือ สาวสวยระดับดาวมหาวิทยาลัยนามว่า ‘ม่านไหม มลลดา เดชารักษ์’ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่คบหากับแฟนหนุ่มรุ่นพี่อย่าง ‘แดนไท’ มากว่า 4 ปี ความรักที่แสนหวานและราบรื่นกลับมาพังทลายลงวันนี้ เมื่อ ‘มิญ่า’ ลูกพี่ลูกน้องสาวเดินมาบอกเธอว่า แดนไททำเธอท้องได้ 3 เดือนแล้ว การได้ฟังเรื่องตลกร้ายนี้ทำให้ม่านไหมคล้ายเครื่องจักรที่หยุดการทำงานลงอย่างกะทันหัน มันช็อตไปหมด! แม้แต่น้ำตาสักหยดก็รินหลั่งไม่ออก เพราะความเสียใจมันอัดแน่นอยู่ในอกจนจุก เธอไม่ได้โต้แย้งอะไรสักคำ และทำเพียงเลี่ยงออกมาจากเหตุการณ์น่าโมโหนั้น เลือกมานั่งดื่มที่นี่เพื่อทบทวนความสัมพันธ์ว่าเธอพลาดตรงไหน ทั้งสองไปเจอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไม...ถึงทำร้ายเธอแบบนี้
ความรัก...ความไว้ใจ...หลอกลวง...ความเจ็บปวด! คือสิ่งที่แดนไทมอบให้ผู้หญิงที่ซื่อสัตย์กับเขามาหลายปี หน้าเธอมันชา ใจเธอมันสั่นอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายมันร้อนผะผ่าวไปด้วยไฟโทสะที่ลุกโชนสุมทรวง โกรธแค้น เดือดดาล และอยากเอาคืนให้สาสมเสียตรงนั้น ทว่าอารมณ์และความปรารถนาทุกอย่างมันได้ถูกเธอซ่อนไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยนี้ เพราะถ้าเอาคืนตอนนี้...เธอคิดว่ามันง่ายเกินไป!
“รู้ไหมคะว่าอะไรทำร้ายเราได้ดีที่สุด” เสียงหวานติดมึนเมาเอ่ยขึ้น ทำให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มเหลือบสายตาแสนมีเสน่ห์มามองเธอ
“พูดกับผมเหรอครับ?”
“คุยกับฉันได้ไหมล่ะคะ ตอนที่พี่ชงเหล้าอยู่ก็ได้”
“เรื่องที่ถามผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มช่วยตอบให้ เพราะเห็นว่าสาวสวยนั่งดื่มอยู่ตรงนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“อ่า...วันนี้ฉันเจอเรื่องแย่ ๆ มาค่ะ”
“อยากเล่าเหรอครับ” เมื่อเธอเกริ่นมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเสียขนาดนั้น ครั้นจะไม่ฟังก็คงดูใจดำเกินไป
“ไม่เชิงค่ะ ฉันแค่กำลังคิดว่าตัวเองเจ็บปวด เจ็บใจ หรือเป็นอะไรกันแน่ ฉันได้รู้ว่าคนที่คบด้วยมาตั้งแต่มอปลายเขาทำผู้หญิงท้องค่ะ แถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นคนที่ฉันเจอหน้าทุกวัน ฉันเหมือนตัวเองมีเขางอกขึ้นมาก็วันนี้ มันบ้ามากจริง ๆ” แววตาเธอเลื่อนลอย เอื้อนเอ่ยถ้อยคำราวกับเล่าให้อากาศธาตุฟังไม่มีผิด
“เรื่องแย่จริง ๆ สินะครับ”
“พี่ก็คิดแบบนั้นใช่ไหม ในขณะที่คบกับฉัน เจอกันทุกวัน แล้วเขาไปนอกใจฉันตอนไหนกันนะ ฉันนั่งคิดมาตั้งแต่ค็อกเทลแก้วแรก แต่ก็ไม่รู้เลย...ไม่รู้อะไรเลย” เธอเอ่ยแล้วยกแก้วค็อกเทลสาดลงคออีกครั้ง กระดกมันราวกับน้ำเปล่า ทั้งที่มันกำลังพร่าผลาญสติของเธอให้ลดน้อยถอยลงทุกขณะ ดื่มด่ำมัน...ราวกับจะให้มันมันพาเธอจมลงสู่ความว่างเปล่า
“แก้วที่ห้าแล้วนะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยเตือนสาวสวยด้วยความหวังดี เมื่อเห็นว่าเธอมาคนเดียว แถมอาการทางใจยังแย่มาก ๆ ด้วย เพราะลองไอส์แลนด์ที่เธอสั่งนั้น แม้ดื่มง่ายไหลคล่องคอ แต่ภายใต้รสชาติละมุนและซาบซ่านนี้ มีวอดก้า รัม เตกีลา ทั้งยังมีเหล้าอีกหลายตัวผสมอยู่ เธอมีโอกาสเมาแอ๋สลบคร่อกเลยนะ
“ฉันดูเมาแล้วเหรอคะ” เธอหันมาสบตาเขา แม้สีหน้าจะยังแสดงออกว่าเศร้าสร้อยจับใจ แต่ใบหน้าสวยซึ้งที่สองพวงแก้มซับสีระเรื่อเสียขนาดนั้น ไม่เมาก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ
“ครับ ผมอยากให้คุณกลับไปพักผ่อนนะ คุณเป็นคนสวย ผมเชื่อว่าวันข้างหน้าคุณจะต้องเจอคนที่ดีกว่า” เขาเอ่ย ซึ่งมันเป็นอะไรที่เกินคาดเหลือเกิน นั่นเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินถ้อยคำปลอบโยนเหล่านี้จากคนที่ทำหน้าที่ชงเหล้าในคลับไง
“ใช่ไหมล่ะคะ ฉันเป็นคนสวย...ฉันต้องเจอคนที่ดีกว่า” เธอเอ่ยแล้ววางธนบัตรสีเทาสองใบลงบนโต๊ะ “ไม่ต้องทอนนะคะ ฉันชอบคำปลอบโยนของพี่จัง” เมื่อเห็นด้วยกับถ้อยคำของบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อ เจ้าของร่างระหงได้พาตัวเองเดินโซซัดโซเซออกมายังหน้าไนต์คลับด้วยหัวใจที่เหมือนจะได้รับการเยียวยานิดหน่อย ชีวิตยังต้องเดินต่อ เธอจะไม่ง้อคนที่ไม่เห็นค่าเด็ดขาด!
ว่าแล้วสาวสวยก็เดินไปยังริมฟุตบาท มุ่งหน้าไปยังรถยนต์คันหนึ่งที่เธอมองเห็นไฟท้ายแดง ๆ เดาว่าแท็กซี่มาพอดีสินะ คิดได้อย่างนั้นจึงเปิดประตูเข้ามานั่งในห้องโดยสาร
“ไปหมู่บ้านทริปเปิลวิลล์ซอยสิบค่ะ” ก่อนเสียงหวานติดอ้อแอ้ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จะเอ่ยขึ้น
“เฮ้! เธอเป็นใครวะ” เพียงสิ้นสุดคำพูดนั้น เสียงทุ้มต่ำของคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็ดังขัดขึ้น จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เข้ามาในรถ แล้วสั่งให้คนของเขาไปส่งราวกับคนขับแท็กซี่ มันใช่เหรอวะ คนยิ่งหงุดหงิดอยู่
“หืม?” ม่านไหมเหลียวกลับมามองคนข้างตัว หัวคิ้วขมวดมุ่น อย่าบอกนะว่ามีคนแย่งแท็กซี่กับเธอน่ะ บ้าเอ้ย!
“คุณล่ะใคร? ฉันขึ้นก่อนนะคะ ถึงจะรีบแค่ไหนคุณก็ไม่ควรแย่งแท็กซี่คนเมาสิคะ ยิ่งคนเมาเป็นผู้หญิงสวยด้วยแล้ว คุณควรเสียสละ!”
คนที่แทบจะโง่หัวมาพูดไม่ขึ้นเอ่ยยืดยาวน่ารำคาญ แต่ถ้าเธอมองดูรอบตัวสักนิด เธอคงจะเห็นว่าแท็กซี่คันนี้มีราคาสามสิบล้านทีเดียว ให้มันได้อย่างนี้สิ! แม่สาวน้อยขี้เมาคงไม่รู้สินะว่าพาตัวเองขึ้นมาบนรถของ ‘ลีออน ศิวกร ศรัทธาเทพ’ ทายาท ‘เอส.ที คอร์เปอเรชัน’ ซึ่งเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับธุรกิจการเงิน เงินทุนและหลักทรัพย์ที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เธอถึงกล้าทำตัวไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแบบนี้ เพราะเอส.ทีเป็นเพียงฉากหน้าของบิดา ซึ่งเบื้องหลังธุรกิจที่ลีออนดูแลอยู่นั้นมันเรียกว่า ‘คนละขั้ว’ เลยก็ว่าได้ ในวงการสีเทาลีออนจึงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากข้องเกี่ยวด้วยเด็ดขาด
“ผมพาตัวลงไปเลยนะครับ ท่าทางจะเมาหนักจนขึ้นรถผิด” อเล็กซ์ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งเบาะข้างคนขับเอ่ยมา
“ท่าจะเมาจัดเลยล่ะฮะ” คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเอ่ยเสริม
“นี่! บอกว่าฉันขึ้นก่อนไงคะ ลุงคนขับคะหนูขึ้นก่อนใช่ไหม ลุงต้องไปส่งหนูสิคะ” อเล็กซ์ยังไม่ทันเปิดประตู คนเมาก็ดันเงยหน้าขึ้นมาแหวลั่นรถ แถมยังเรียก ‘ดิม’ ว่าลุงอีกต่างหาก
