บท
ตั้งค่า

2

เราทั้งคู่ต่างเคยมีอดีตที่ไม่น่าจดจำ

ก่อเกิดความสัมพันธ์อันน่าเหลือเชื่อในคืนหนึ่ง

ราวกับเส้นโซ่ขนาดใหญ่ที่ผูกตรึงเราทั้งคู่ไว้

เสียงของเธอที่กรีดร้องอยู่ใต้ร่างของเขา

เว้าวอนขอในเรื่องที่ไม่อาจเป็นไปได้

I try to run but I don't wanna ever leave

(ฉันพยายามที่จะหนีจากคุณ แต่ฉันก็ไม่อยากจากไปเลย)

ณ ท่าเรือขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง

กลุ่มคนในชุดสูทสีดำยืนเรียงรายอยู่บนโป๊ะเทียบเรือท่ามกลางเสียงของเกลียวคลื่นและสายลมเย็นเยือกยามค่ำคืนที่พัดผ่านร่างบอบช้ำเป็นระลอกปลุกให้คนที่นอนฟุบหน้าอยู่ค่อย ๆ เงยหัวขึ้นมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เขาคนนี้คือ ‘รองประธานจางจิ้งหยวน’ ของ ‘บริษัทที.พี.กรุ๊ป’ และยังเป็นหนึ่งในลูกหนี้รายใหญ่ของกลุ่มเงินทุนนอกระบบ โดยนายจางได้กู้เงินจำนวนมากไปถลุงในบ่อนพนันใต้ดินแหล่งใหญ่ และผิดนัดชำระดอกเบี้ยมากว่า 3 ครั้งแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่คนของทางกลุ่มเงินทุนพาตัวเขามาคุยแบบเป็นส่วนตัวที่นี่

“วันนี้ไอ้รองประธานนั่นก็ยังตอบเหมือนเดิมครับบอส” เสียงเหี้ยมเอ่ยขณะเดินมาหยุดยืนด้านหลังเจ้าของร่างสูง ซึ่งยืนทอดสายตามองออกไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า ควันสีขาวขุ่นถูกพ่นผ่านกลีบปากหยักสวยราวรูปสลักออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับมา

“รองประธานจางทำตัวไม่น่ารักเลยนะ ทั้งที่ตอนมาขอกู้ผมก็ยื่นเงินให้ง่าย ๆ ทำไมตอนจ่ายคืนถึงยากนักล่ะ” คนที่เดินมาย่อตัวลงตรงหน้าชายวัยกลางคนเอ่ยถามเสียงเนิบ พร้อมใช้ปลายกระบอกวัตถุตายไวเงาวับยื่นมาเชยปลายคางอีกฝ่ายให้เชิดขึ้น

“ฮึก! ขอเวลาอีกนิดนะ ฉันกำลังหาทางยักยอกเงินของบริษัทเพื่อนมาคืนให้ แต่มันทำไม่ได้ง่าย ๆ นายก็รู้” เมื่อเห็นว่าเจ้าของเม็ดเงินที่ขอกู้มาเยือนด้วยตัวเอง นายจางก็ถึงกับละล่ำละลักอธิบายปากคอสั่น เนื้อตัวไหวเทิ้มราวสัตว์เล็ก ๆ ยามเห็นราชสีห์เยื้องย่างมาเบื้องหน้า มันยิ่งสร้างความน่าขบขันให้บรรดาลูกน้องของชายหนุ่มเป็นทบเท่าทวี

“ไม่ใช่ว่ายักยอกยาก แต่ท่านรองเอาเงินที่ได้ไปเล่นพนันจนหมดมากกว่า แบบนี้ไงถึงไม่มีเงินจ่ายดอกบอสของเรา” ผู้ติดตามหนุ่มแย้งขึ้น

“มะ...ไม่ใช่นะ! ฉันจะไปทำแบบนั้นทำไม ถ้าได้เงินมาฉันต้องจ่ายนายก่อนสิ” เมื่อเบื้องหลังถูกแฉก็ยิ่งเห็นความหวาดผวาจากคนตรงหน้ามากขึ้น เป็นแบบนี้ทุกราย เมื่อถูกบีบคั้นให้จนตรอกเข้าหน่อยก็กลัวจนลนลาน แต่ถ้ากลัวขนาดนั้นก็ไม่น่าผิดนัดกันนี่หว่า

“ก็เป็นซะแบบนี้ไง ผมเลยตามคนช่วยล้างหนี้มาให้แล้ว” เสียงเรียบว่า พร้อมกับคนของเขาที่ลากตัวนักศึกษาสาวรายหนึ่งลงมาจากรถ

“ป๊า! ป๊านี่มันอะไรกันคะ ไอ้พวกบ้านี่มันเป็นใคร พวกแกปล่อยฉันนะ ไอ้พวกบ้า! ไอ้ชั่ว! ปล่อยฉันกับป๊านะ ฉันจะแจ้งตำรวจ!” เสียงของสาวสวยหวีดร้องโวยวายขอคำอธิบายจากบิดา และการที่ได้เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวถูกพาตัวมาที่นี่ ก็ทำให้นายจางถึงกับหน้าซีดเผือด

“อย่าทำอะไรลูกสาวฉันเลยนะ ฉันไหว้ล่ะ” นายจางพนมมืออ้อนวอนแทบก้มกราบ หวาดกลัวใจอีกฝ่ายจนเหงื่อท่วมตัว

“สามสิบล้าน...ผมก็ไม่รู้ว่าลูกสาวของท่านรองจะต้องเปลืองตัวไปถึงเมื่อไหร่ หรืออาจจะตายก่อนใช้หนี้หมด แต่ไม่เป็นไร เพราะเรายังมีภรรยาและน้องภรรยาของท่านรองอีก ยังไงอวัยวะก็น่าจะพอขายได้”

น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยให้นายจางเข้าใจอีกครั้ง ว่าขั้นตอนของการเรียกเก็บหนี้นั้นมีระดับความโหดเหี้ยมอย่างไร ก็ในเมื่อให้จ่ายคืนง่าย ๆ ดันไม่ชอบ ชายหนุ่มจึงต้องทวงคืนในแบบของนักลงทุนนอกระบบ

“มึงนี่มันสารเลวจริง ๆ ค้าอวัยวะมันผิดกฎหมาย!”

ราวกับถ้อยคำนั้นได้สั่นประสาทรองประธานจางเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวถึงได้โพล่งประโยคน่าขันนี้ออกมาท่ามกลางกลุ่มคนนอกกฎหมาย

“ฮ่า ๆ ฟังที่ไอ้แก่นี่ขู่บอสเราสิ ปัญญาอ่อนว่ะ!”

“จะไปแจ้งจับผมกับใคร ฝากเอากระเช้าไปเยี่ยมด้วยแล้วกัน”

“มึง...มึงมันไม่ใช่คน!” นายจางตวาดลั่นอย่างเดือดดาล ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงรอยยิ้มเยาะหยันและแววตาดูแคลนเท่านั้น

“เพราะผมทำงานกับพวกที่พร้อมจะระยำใส่ไง ผมเลยต้องเหนือกว่าพวกมัน บอกเลยว่าการที่ผมมาเจอคุณด้วยตัวเองแบบนี้ ก็ถือว่าให้เกียรติตำแหน่งของคุณมากพอแล้ว” ชายหนุ่มว่า ก่อนจะส่งสายตาให้คนของเขาเอาตัวหญิงสาวไปส่งยังสถานที่ทำเงินเพื่อตีราคา

“ไปดูกันว่าเธอจะใช้เวลากี่วันในการลดหนี้ของพ่อเธอ ฮ่า ๆ”

“ป๊า! กรี๊ด! ป๊าหนูไม่ไป ป๊า!” สาวสวยแผดเสียงลั่น ดิ้นตัวหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่ร้องไปก็เท่านั้น ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก

“มึง! กูจะฆ่ามึง!” รองประธานจางเห็นอย่างนั้นก็กัดฟันพาร่างบอบช้ำพุ่งมาหาชายหนุ่ม ทว่ายังไม่ทันได้ทำร้ายอีกฝ่ายดั่งใจหมาย สันมือหนัก ๆ ของผู้ติดตามก็ซัดเข้าที่ท้ายทอยของนายจางจนล้มทั้งยืน

ตุบ!

“ต้องออกตัวแรงแบบนี้ทุกรายสิน่า” เสียงเหี้ยมเอ่ยอย่างสมเพชใจ พลางยกเท้าเขี่ย ๆ ร่างที่ถูกเขาซัดจนสลบเหมือดไปแล้ว

“ไอ้แก่เจ้าเล่ห์ คิดจะหักหลังแม้กระทั่งเพื่อนที่ให้งานให้ตำแหน่ง คนอย่างไอ้เวรนี่บอกว่าฉันไม่ใช่คน แม่งตลกฉิบหาย!” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างนึกขำ ‘การเป็นคนไม่ใช่คน’ ความหมายช่างยากแท้หยั่งถึง

“แล้วนี่...บอสจะเอายังไงกับรองประธานจางครับ”

“เอามันไปขังไว้ก่อน รอดูว่าลูกสาวของมันจะขายได้เท่าไหร่ ไม่ซิงแล้วนี่หว่า ให้ตาย! เด็กสมัยนี้ไวไฟฉิบ!” เขาเอ่ยเสียงเซ็ง

“งั้นบอสจะไปที่คลับเลยไหมครับ”

“เงินต้องเก็บ พวกนายก็ไม่ได้สูดอากาศเพื่อให้ท้องอิ่มนี่”

“งั้นผมแยกเอาไอ้แก่ไปเก็บนะครับ ที่คลับแค่อเล็กซ์กับไอ้หนูนั่นก็น่าจะพอแล้ว” เจ้าของเสียงเหี้ยมเอ่ย

“อืม...ปล่อยให้มันอดข้าวอดน้ำสักสองสามวัน แล้วตัดนิ้วส่งไปให้เมียมันดูต่างหน้าสักนิ้ว” ผู้เป็นนายว่า ก่อนจะเดินไปยังรถยนต์คันหรู

อีกด้านหนึ่ง...ณ ไนต์คลับหรูย่านใจกลางเมือง

แก้วค็อกเทลทรงสวยบรรจุของเหลวสีชาสูตร ‘ลองไอส์แลนด์’ ที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มวางเรียงรายไว้เบื้องหน้าได้ถูกสาวสวยยกขึ้นกระดก และปล่อยให้รสชาติซาบซ่านนั้นค่อย ๆ ละเลียดไหลลงคอไปอย่างแช่มช้า สายตาหวานทอดมองเพียงของเหลวในแก้วทั้งที่ภายในคลับดีเจสุดฮอตกำลังเปิดเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง แต่ในเวลานี้สรรพเสียงทุกอย่างมันไม่สามารถเร้าอารมณ์ของคนที่เพิ่งสูญเสียคนที่เคยรักได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel