บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ศึกเมืองฮุยเจา

ทัพไป๋หู่ย้ายค่ายมาตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตูเมืองฮุยเจานัก เมื่อเข้ามาในถิ่นของศัตรูก็ยิ่งต้องมีการวางกำลังคุ้มกันแน่นหนา ตั้งแต่พลทหารไปจนถึงแม่ทัพล้วนอยู่ในภาวะอารมณ์ตึงเครียด กุนซือเองก็ใช้เวลาอยู่กับการดูแผนที่ ปรึกษาทุกฝ่ายเรื่องลักษณะทางภูมิศาสตร์ ความได้เปรียบเสียเปรียบ และโอกาสที่จะสามารถชนะได้

จินเกาหยางไม่เคยเห็นฝูซิ่นฮวาเครียดเท่านี้มาก่อน ดวงตาของนางแดงก่ำจนน่าเป็นห่วง อีกฝ่ายส่งสารท้ารบมาให้แล้ว เห็นได้ชัดว่าต้าเจาเตรียมพร้อมสำหรับการณ์ครั้งนี้ และกำลังอยู่ในจุดที่ได้เปรียบทัพไป๋หู่ในทุก ๆ ทาง

“เราไม่ควรรบทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสแพ้สูง แต่จะถอยหลังกลับก็ไม่ได้ มีแต่ต้องรุดหน้าไปให้ถึงที่สุด” ฝูซิ่นฮวาพูดอย่างเครียดจัด

“เฉาเทียน” นางเรียก “ที่ข้าให้เจ้าไปสำรวจหาพื้นที่ที่เป็นแผ่นดิน ได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง”

“เรียนกุนซือ หน้าเมืองฮุยเจามีพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินน้อยมากขอรับ ส่วนใหญ่เป็นดินโคลนแทบทั้งนั้น”

“และส่วนใหญ่ก็คงขุดสนามเพลาะปักไม้แหลมไว้หมดแล้ว” ฝูซิ่นฮวาขมวดคิ้วมุ่น “ท่านแม่ทัพ หากเป็นไปได้ ควรรอให้ฝ่ายนั้นบุกมาหาเราแทนการบุกเข้าไป ปักหลักรออยู่บนพื้นดินให้นานที่สุด ข้าเกรงว่าทัพของเราอาจถูกลวงเข้าสู่สนามเพลาะได้”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น” จินเกาหยางตอบพลางก้มลงมองแผนที่ “แล้วถ้าเราอ้อมไปทางนี้ล่ะ”

จินเกาหยางชี้ไปยังพื้นที่ข้างเคียงเมืองฮุยเจา

“บริเวณนี้แม้เป็นป่า แต่ก็มีแผ่นดิน หากเราทำทีเป็นโจมตีหน้าประตูเมือง แท้จริงแล้วอ้อมไปตีหลังเมือง พอเป็นไปได้หรือไม่”

“ก็พอเป็นไปได้ แต่ต้องเคลื่อนทัพเยี่ยงกองโจร ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทันสังเกต อีกทั้งต้องหลอกล่อให้ข้าศึกคิดว่าเราโจมตีอยู่เพียงหน้าประตูเมือง” ฝูซิ่นฮวากล่าว “โอกาสชนะของเราน้อยมาก แต่หากเราชนะได้จริง ก็มีโอกาสที่ต้าเจาจะเผาเมืองฮุยเจาอีกเมือง เพื่อไม่ให้เราได้เมืองใดไปครอง เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าฝ่ายเราหละหลวมเกินไป ทั้งยังคิดไม่ถึงว่าพวกต้าเจาจะเผาเมืองตัวเองเพื่อไม่ให้เรายึดครองได้ หากศึกครั้งนี้สามารถยึดฮุยเจาได้สำเร็จ เราต้องคอยเฝ้าระวังไม่ให้ต้าเจาเผาทำลายได้อีก”

ฝูซิ่นฮวาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง นางพรมนิ้วลงบนแผนที่อย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลาใช้ความคิด ทุกคนต่างคุ้นเคยกับกิริยาเช่นนี้ และรู้ดีว่ายามนี้ไม่ควรกล่าวอะไรที่ทำให้นางเสียสมาธิ

ในที่สุดฝูซิ่นฮวาก็เงยหน้าขึ้น แม้ใบหน้าจะยังเคร่งเครียด แต่ก็มีรอยยิ้มอาบยาพิษเคลือบแฝงไว้

ยามรุ่งอรุโณทัยมาเยือน ทัพไป๋หู่ที่นำทัพโดยจินเกาหยางเตรียมจัดทัพพร้อมอยู่ที่หน้าประตูเมืองฮุยเจา เสวียนชิวและเสวียนชิงยืนอยู่บนกำแพงเมือง รอยยิ้มหยันปรากฏชัดบนใบหน้าของทั้งสอง พวกต้าจินคงคิดไม่ถึงว่า พวกเขาจะกล้าเผาเมืองของตัวเอง ยามนี้จึงต้องยอมมาทำการสู้รบที่ฮุยเจา ทั้งที่รู้ว่าการทำศึกที่นี่ ฝ่ายนั้นมีแต่จะเสียเปรียบ

“พลธนู!” จินเกาหยางสั่งเตรียมพร้อม เหล่าพลธนูง้างธนูขึ้นในทันที “ยิง!”

ลูกธนูจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ฝ่ายศัตรู มีทั้งผู้ที่ป้องกันตนได้และป้องกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต่างยิงธนูโต้ตอบกัน แต่กลับไม่มีฝ่ายใดยอมเป็นฝ่ายบุก เห็นได้ชัดว่าทางฝั่งต้าเจาได้ขุดสนามเพลาะรอไว้ จึงไม่ยอมออกจากที่มั่น ในขณะที่ทหารต้าจินก็ล่วงรู้เท่าทัน

ในขณะเดียวกันนั้น เฉาเทียนก็นำกองกำลังส่วนหนึ่ง ลอบเดินทางลัดเลาะผ่านป่ารกทึบข้างเมืองฮุยเจา เพื่อหวังโจมตีจากทางด้านหลัง ครั้นเมื่อมาถึงจุดหมาย ทหารทั้งหมดต่างก็เตรียมตัวอย่างพรั่งพร้อม

“ทำลายประตูเมือง!” เฉาเทียนตะโกนสั่งการ

ตุ้มเหล็กถูกทหารม้าลากไปยังประตูเมือง แต่ยังไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง ธนูห่าใหญ่ก็ถูกยิงมาจากเมืองฮุยเจา ทำให้ทหารม้าหลายนายถูกยิง และตุ้มเหล็กก็หยุดค้างอยู่กลางทาง!

ประตูหลังของเมืองฮุยเจาเปิดออกโดยไม่ต้องทำลาย ทหารต้าเจาจำนวนมากวิ่งกรูกันออกมา พื้นที่หลังเมืองนี้เป็นดินแข็ง ทำให้มีเวลาไม่มากพอที่จะขุดสนามเพลาะ เสวียนชิงจึงสั่งให้วางกองกำลังด้านหลังของเมืองที่อาจถูกบุกเข้าโจมตีได้ และในยามนี้ทัพใหญ่ของต้าเจาก็มุ่งมาที่ด้านหลังเมือง เพื่อรอต้อนรับทหารกล้าจากทัพไป๋หู่ ในขณะที่ทหารของทัพไป๋หู่มีจำนวนน้อยกว่า เนื่องจากถูกแบ่งไปใช้หลอกล่อข้าศึกอยู่ที่หน้าประตูเมือง

“พวกมันรู้ว่าเราจะบุกมา รีบกลับไปรายงานท่านแม่ทัพ!” เฉาเทียนตะโกนสั่งพลทหารนายหนึ่งที่เร่งควบม้ากลับเข้าป่าไปในทันที

ทัพไป๋หู่ถูกทหารต้าเจายิงระเบิดเข้าใส่ ทำให้ทหารต้าจินจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บ กระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง เฉาเทียนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบออกคำสั่งให้ถอยทัพ

“ถอยทัพ ถอยทัพ!”

ทัพไป๋หู่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้กำลังถอยร่นเข้าป่า โดยมีทหารต้าเจาตามมาติด ๆ ราวกับจะบดขยี้ทัพไป๋หู่ไม่ให้เหลือรอดไปได้แม้แต่คนเดียว

กองทหารของเฉาเทียนตามมาสมทบกับจินเกาหยางได้แล้ว แต่ทหารต้าจินกลับไม่มีทางให้หนี เบื้องหน้ามีฝนธนูและสนามเพลาะรออยู่ ในขณะที่เบื้องหลังมีทหารต้าเจาพร้อมฆ่าฟัน ทหารบางคนพลาดถอยหลังตกลงสู่สนามเพลาะ ถูกไม้แหลมเสียบทะลุร่างถึงแก่ชีวิต

ต้าจินถูกกักขังด้วยสนามเพลาะดังเช่นที่พวกเขาเคยทำกับต้าเจา!

“พยายามรุดไปข้างหน้า อย่าถอยหลัง!” จินเกาหยางสั่งการ

หอก หลาว และทวนถูกชี้เข้าหาฝ่ายศัตรู จินเกาหยางบุกเข้าหาทัพต้าเจาที่รอตนอยู่ เสวียนชิวก็ออกมาพร้อมกับกองทัพของตน หวังจะฆ่าจินเกาหยางด้วยมือของตัวเอง

“เสวียนชิว!” จินเกาหยางตะโกนเรียกคู่ต่อสู้ ขณะถือทวนมุ่งตรงไปหา

เสวียนชิวไม่รอช้า ควบม้าพุ่งเข้าใส่จินเกาหยาง ทั้งสองดวลกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่แล้วจินเกาหยางกลับถูกเสวียนชิวงัดทวนหลุดจากมือ แล้วฟาดทวนเข้าใส่ที่อกของเขา!

แม้จะมีชุดเกราะรองรับ แต่ความแข็งคมของทวนจากเสวียนชิวก็ทำลายชุดเกราะของจินเกาหยางได้ แม่ทัพใหญ่จึงต้องคมจากทวนศัตรู จนโลหิตสีแดงไหลติดทวนของฝ่ายนั้น!

ทวนสีเงินตวัดเข้าหาจินเกาหยางอีกครั้ง แม่ทัพหนุ่มเอนกายหลบได้อย่างเฉียดฉิว แล้วจึงเร่งควบม้าหนีอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“ถอยทัพ! กลับเข้าที่มั่น!” จินเกาหยางตะโกน

พลทหารต่างตะโกนถ่ายทอดคำสั่งกันเป็นทอด ๆ กองทัพพยัคฆ์ขาวที่ไม่เคยพ่ายแพ้แก่ผู้ใด บัดนี้กลับต้องฟันฝ่าทหารต้าเจาที่โอบล้อมตนไว้เพื่อหนีตายกลับเข้าที่มั่น หมดสิ้นความน่ายำเกรงในฐานะพยัคฆ์แห่งต้าจิน

“ดูเถิด พยัคฆ์กลายเป็นสุนัขหนีตายไปแล้ว ฮ่า ๆ” รองแม่ทัพแห่งต้าเจาหัวเราะลั่น

เหล่าพลทหารของต้าเจาต่างพากันหัวเราะ จินเกาหยางชักกระบี่ออกมาแล้วใช้ฟาดฟันศัตรูเพื่อเปิดทางให้ทหารของตนหนีออกจากวงล้อมให้ได้

“ไป!” จินเกาหยางร้องตะโกน

“ตามมันไป!” เสวียนชิวสั่งการ “ฆ่าให้หมด อย่าให้ไอ้ลูกสุนัขพวกนี้เหลือรอดกลับไปได้แม้แต่ตัวเดียว!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel