บทที่9.ไม่ยอมสบตาเขา
“คุณ!” วีรดาตกใจ เมื่อจำได้แน่ชัดว่า คนที่เธอก้มลงไหว้เขา ก่อนเงยหน้าสบตา
“ข้าวตัง!” เสียงพึมพำที่ลอดริมฝีปากออกมา จำข้อความได้แม่นชัดว่า
เขาเรียกชื่อเล่นสิตางค์ได้เต็มยศ อย่างที่ไม่มีใครเคยเรียก กระทั่งแม่ นอกจากเขาคนเดียว....
“พี่คิม” สิตางค์หน้าซีดเผือด
“แก คนนี้ล่ะ ที่ฉันบอก” วีรดากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เมื่อเห็นเพื่อนยังนิ่งงันเป็นหุ่นยนต์ยังไม่ได้ตั้งระบบ จึงย้ำบอก “ที่ปั๊มไง เมื่อวานที่เล่าน่ะ”
วีรดาหันไปยิ้มหวานให้คิมหันต์หัวหน้าแผนกวิศวกรที่ได้รับการแนะนำเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่การประชุมประจำวันจะเริ่มขึ้น โดยที่คิมหันต์ต้องตัดใจหันไปตั้งหน้าตั้งตาจดจ่ออยู่กับวาระประชุมอย่างเคร่งเครียด
ส่วนสิตางค์ก็ไม่เป็นอันทำอะไร ใจเต้นระส่ำอยู่ตลอดเวลา เธออยากเจอเขาไม่ใช่หรือ? ที่ผ่านมาหลายปีก็พี่ชายคนนี้ไม่ใช่หรือที่เฝ้ารอว่า สักวันจะได้พบ แล้วเมื่อพบเข้าจริงๆทำไมถึงรู้สึกปั่นป่วนในใจจนทำอะไรไม่ถูก
ความน้อยใจกลับแล่นเข้าที่ขอบตาจนร้อนผ่าว เมื่อเหลือบมองเขา
เพราะคิมหันต์เติบโตก้าวหน้ากลายเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล เป็นวิศวกรใหญ่ของโรงงานนี่เอง เขาถึงลืมเด็กหญิงธรรมดาๆที่ไม่ได้มีความหมายใดกับชีวิตของเขา
ทั้งที่เคยสัญญา...จะไม่ลืม...
“ตัง ตัง ยายตัง”
สิตางค์สะดุ้ง เมื่อเสียงเรียกของวีรดาดังขึ้น
“วะ ว่าไง” เธอเงยหน้าถาม เพิ่งรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวในห้องประชุม โดยเฉพาะสายตาของชายหนุ่มที่พยายามมองสิตางค์จนเธอรู้สึก
หากไม่ยอมสบตาเขา
“คอฟฟี่เบรคย่ะ” วีรดาบอก “เหม่ออีกแล้วนะแก”
“ทำไม แกไม่กินกาแฟไม่ใช่เหรอ ” สิตางค์ถาม
“ฉันจะไปห้องน้ำต่างหาก ใจคอแกจะไม่เขยื้อนตัวไปไหนเลยหรือไง”
สิตางค์ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น เธอยังไม่อยากคุยกับคิมหันต์ตอนนี้ สิบปีที่ผ่านได้กักเก็บความน้อยใจ เสียใจ เสียหน้าที่เคยผูกพัน
ตอนนี้ เธอไม่อยากรู้จักคิมหันต์เสียเลย
“หืม ไปสิ”
สิตางค์จำใจต้องลุกไปเป็นเพื่อนวีรดา
ไม่รู้สักนิดว่า ชายหนุ่มที่เธอพยายามหลบหน้าเขาได้จับจ้องคอยอยู่ เมื่อเห็นสิตางค์ลุกออกไปจากห้องประชุม
คิมหันต์รีบลุกตามไปทันที
เขาพอจะคลับคล้ายจำเด็กสาวคนที่ไว้ผมม้าเต่อได้ ต่อให้วันนี้เธอรวบผมยาวขึ้นเกล้ามุ่นสูง แต่คิมหันต์คิดว่า จำคนไม่ผิด หน้าตาท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีไม่กี่คน ยิ่งเป็นสาวที่กองกนิสถูกตาต้องใจอยู่ เขายิ่งจดจำได้ หากที่รีบลุกขึ้นเดินตาม คงไม่ใช่เพื่อขอเบอร์โทร.เด็กนั่นให้กองกนิสแน่ ถึงอย่างไรก็ต้องร่วมงานกัน กองกนิสคงได้เจอวีรดาด้วยตัวเองไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เด็กหนุ่มแวะมาหาคิมหันต์บ่อยไป
คนที่ทำให้คิมหันต์ร้อนรนจนนั่งไม่ติด เป็นเด็กสาวอีกคนต่างหากคนที่เขาจำได้ติดตราตรึงใจ ต่อให้วันเวลาผ่านไปหลายปี แล้วเธอก็ไม่ใช่เด็กหญิงอย่างวันวาน แต่เขาก็จำ ‘ข้าวตัง’ ได้ ไม่เคยเปลี่ยน ยิ่งเธอแนะนำตัว เขาก็ยิ่งใจเต้นโครมคราม จนแทบจะปราดเข้าไปหาเพื่อทักถามพูดคุย... อะไรก็ได้ที่จะเข้าใกล้ข้าวตังของเขา
น่าแปลก ที่สิตางค์ทำเฉยเมย จะว่าเธอจำเขาไม่ได้ก็คงไม่ใช่ เพราะแววตาที่ตื่นตระหนกเมื่อเห็นกัน เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า เธอจำ ‘พี่คิม’ ได้เช่นกัน
คิมหันต์เร่งฝีเท้าจนตามไปทัน
“ข้าวตัง”
ได้ผล....เจ้าของชื่อชะงักฝีเท้าทันที
พร้อมกับที่วีรดาเป็นฝ่ายหันมาก่อน “คุณคิมหันต์” เธอส่งยิ้มให้เขา ก่อนนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่ เขาเรียกชื่อของสิตางค์
“เอ๊ะ เมื่อกี้ คุณคิมเรียก เอ่อ .....”
“ข้าวตังจำพี่ได้ไหม พี่คิมน่ะ”
เธอยังไม่ยอมหันมา ดวงตาเริ่มรื้นจนร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าตัวเองจะเริ่มต้นด้วยประโยคใดกับคนที่ไม่เคยติดต่อกลับไปหา สักครั้ง
“ตัง แกรู้จักคุณคิมด้วยเหรอ” วีรดากระซิบถาม
เธอส่ายหน้าไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินรี่ตรงไปที่ห้องน้ำหญิง ซึ่งคิมหันต์ไม่อาจตามเข้าไปได้
“เฮ้ ยายตัง” วีรดาร้องเรียก ก่อนหันมายิ้มเจือนๆ ก่อนแบมือยักไหล่ให้คิมหันต์ทำนองว่า... เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สิตางค์อารมณ์ไหน
