ตอนที่ 6.2 และแบบนั้นที่ถูกใจเธอ
เพราะพากันตื่นสาย พี่เสือก็เลยไม่ให้ผมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง แต่ให้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองแทน
ถึงจะใหญ่ไปหน่อยแต่ก็พอถูไถ เพราะพี่เสือก็ไม่ได้ตัวใหญ่กว่าผมสักเท่าไร โดยเฉพาะตรงนั้น
“คิดอะไรอยู่?”
ทำไมต้องมาทักตอนผมกำลังวัดขนาดด้วยวะ
“มะ ไม่ได้คิดอะไร”
“อึกอักแบบนี้แสดงว่าคิดเรื่องทะลึ่งอยู่” พี่เสือแม่งดักคออย่างรู้ทัน อ่านผมออกทุกอย่าง แต่ผมก็ยังปากแข็ง
“วันนี้ไปไหน?” เปลี่ยนเรื่องแม่ง
“อยู่ห้อง” พี่เสือตอบหน้าตาเฉย
“อ้าว!” ผมก็งงดิครับ ถ้าอยู่ห้อง ไม่ได้ไปไหนแล้วจะให้ผมมาถ่ายทำไม
“วันหยุดมึงไม่คิดจะพักผ่อนมั่งเลยหรือไง”
“มันก็ใช่ แต่พี่กำลังถ่ายหนังอยู่นะ”
“กูบอกแล้วว่าจะถ่ายชีวิตจริงไง ก็วันนี้กูจะอยู่ห้อง”
“อินดี้ฉิบหาย” ผมบ่นอุบ “แล้วจะให้ถ่ายตรงไหน?”
“มึงตั้งกล้องไว้นั่นแหละ เดี๋ยวกูหาไรให้กิน” พี่เสือสั่งแล้วก็เดินเข้าไปในโซนครัว
“ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?” ผมเดินตามเข้าไปอย่างใคร่รู้ อย่างพี่เสือเนี่ยนะจะทำอาหารเป็น
พี่เสือหันมาสบตาผมอย่างท้าทาย ผมแปลความหมายได้ว่า ‘มึงคอยดูก็แล้วกัน’
คนห่าอะไรมันจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้วะ ผมมองอย่างทึ่งๆ
ไม่นานอาหารแช่แข็งก็ถูกลำเลียงออกมาจากช่องฟรีซของตู้เย็นหลังย่อม แล้วถูกพี่เสือยัดใส่เข้าไปในไมโครเวฟ ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม
“ขี้คุยฉิบหาย” ผมท้าวคางมองเชฟฉีกซองกาแฟทรีอินวันใส่แก้วแล้วก็กดน้ำร้อนตามลงไป ก่อนจะยื่นแก้วหนึ่งมาให้ผม
“กูไม่ใช่พระเอกนิยาย ที่จะหล่อ รวย ทำเป็นแม่งทุกอย่าง กูก็แค่คนธรรมดาที่หน้าตาดีก็เท่านั้น”
“ยอมรับว่าหน้าตาดี แต่ถ้าไม่มีประโยคหลังจะฟังดูดีกว่านี้ ใครเขาชมตัวเองกันวะพี่ รอให้คนอื่นชมเหอะ”
พี่เสือยิ้มกว้างเมื่อโดนผมตอกกลับ ผมก็ไม่รู้ว่ากล้าต่อปากต่อคำกับพี่เสือตั้งแต่เมื่อไร แต่ผมก็รู้สึกสบายใจนะ เวลาที่อยู่กับพี่เสือ
ผมเผลอมองพี่มันหยิบอาหารออกมาเทใส่จานอย่างคล่องแคล่ว นึกชมอยู่แหละว่ามันเป็นภาพที่น่ามอง เผลอแป๊บเดียวคาโบนาร่าก็ถูกยื่นมาตรงหน้าผม
“ตกลงมึงจะกินคาโบนาร่าหรือจะกินกู?”
“ฮะ? พี่ว่าอะไรนะ?” ผมมัวแต่มองเพลินจนได้ยินไม่ถนัดว่าพี่เสือถามว่าอะไร คงหูฝาดไปที่ได้ยินแบบนั้น
“กูถามว่า จะ-กิน-คา-โบ-นา-ร่า-หรือ-จะ-กิน-กู?” ชัดเจนทุกคำพร้อมกับหน้าหล่อที่ยื่นเข้ามาใกล้
ผมหน้าร้อน แต่ก็เสมองลงไปที่คาโบนาร่าในจาน “ไอ้นี่น่ากินกว่าพี่เยอะเหอะ” รับมาแล้วก็หมุนตัวอย่างไว เดินนำไปที่โต๊ะเล็กๆ สำหรับกินข้าว
พี่เสือเดินตามมานั่งตรงข้ามทั้งๆ ที่ใบหน้ายังยิ้มอยู่เลย
‘แอ๊วกูจัง อยากกินกูเหรอ?’
ผมก้มหน้ากินคาโบนาร่าโดยไม่พูดอะไรอีก ขอถอนคำพูดที่บอกว่าอยู่กับพี่เสือแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะตอนนี้อึดอัดฉิบหาย จ้องหน้ากูอยู่นั่นแหละ
“ปกติอยู่ห้องพี่ทำอะไร?” ไม่นานผมก็เริ่มชวนคุยอีกครั้งเพื่อละลายบรรยากาศที่มันอึดอัด
“กิน ขี้ ปี้ นอน บางทีก็ดูหนัง”
ผมสำลักกาแฟอึกสุดท้ายที่กำลังกระดกแก้วเข้าปาก จนพี่เสือต้องรีบไปรินน้ำมาให้
ผมรับแก้วน้ำเปล่ามาดื่มพร้อมกับมองค้อนคนส่งมาให้อย่างเคืองๆ
หลังจากล้างจานเรียบร้อยพี่เสือก็เอาเสื้อผ้าไปยัดใส่เครื่อง ทิ้งให้มันปั่นแล้วก็มานั่งเปิดหนังดู
ผมตามถ่ายทุกอิริยาบถรวมถึงหนังที่พี่เสือเปิดด้วย
แต่ผมก็ต้องรีบลดกล้องลงเมื่อเห็นภาพบนจอทีวีขนาดห้าสิบห้านิ้ว “หนังโป๊!”
พี่เสือหันมาเลิกคิ้วใส่ “ก็กูกำกับหนังโป๊หนังอิโรติก กูก็ต้องดูเพื่อศึกษา”
ดูเพื่อศึกษาหรือดูเพื่อสนองตัณหาของตัวเองกันแน่วะ
“มึงตั้งกล้องไว้นั่นแหละ มาดูด้วยกัน เรื่องนี้สนุกนะ เคยดูยัง?”
ผมส่ายหน้า แต่ก็วางกล้องไว้ตามที่พี่เสือบอก ก่อนจะก้าวไปนั่งลงข้างๆ เหมือนโดนยาสั่ง พี่มันแม่งต้องใส่อะไรลงไปในคาโบนาร่าแน่ๆ
พี่เสือเอนหลังลงบนโซฟาเบดในท่าผ่อนคลาย เหมือนกำลังดูหนังรักโรแมนติก ทั้งๆ ที่พระนายในจอกำลังฟัดกันนัว
นั่งดูอยู่สองสามฉาก ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่ภาพผู้ชายสองคนเอากัน ผมก็เริ่มเหล่มองคนข้างๆ อยากรู้ว่าจะมีอาการเหมือนผมหรือเปล่า
ก็ใครกันล่ะจะนั่งดูหลังโป๊ได้แบบชิลๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไร ผมคนหนึ่งแหละที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือ พี่เสือนั่งตาปรือเหมือนจะหลับ เชี่ย! โคตรตายด้าน
ผมหันกลับไปสนใจภาพบนจอต่อ แม่ง! ดันเป็นฉากพระเอกนอนอยู่บนโซฟา แล้วนายเอกก็ขึ้นคร่อม
ท่อนเอ็นของพระเอกในหนังเล็กกว่าของพี่เสือนิดหน่อย ผมอดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้จึงเหลียวไปมองคนนอนหลับอีกครั้ง
ตัดมาที่ภาพบนจอ นายเอกกำลังคุกเข่าลงดูดท่อนเอ็นของอีกฝ่าย พระเอกก็ดูจะชอบใจเผลอเด้งเอวสวนเข้าไปในปากของอีกคน
ผมกัดปากแน่น รู้สึกเหมือนมีท่อนเอ็นกำลังแทงเข้ามา ผมเผลอหลับตา เอนหลังพิงพนัก เลื่อนตัวลงต่ำจนร่างจมอยู่ในโซฟา แล้วก็เผลอปล่อยเสียงครางน่าอายออกมาด้วย
เสียงครางจากหนังพาผมจินตนาการไปไกล แม้ผมจะหลับตาแต่ภาพและความรู้สึกกลับโคตรชัดเจน
ผมอ้าปากกว้างขึ้นเมื่อรับรู้ถึงท่อนเอ็นร้อนที่กำลังจ่อเข้ามา พร้อมกับต้องยกมือขึ้นไปประคองเพราะกลัวว่ามันจะถูกถอนออกไป
ขนาดของมันเหมาะมือผมมาก เหมือนผมเคยได้สัมผัสขนาดแบบนี้ที่ไหนมาก่อน มันใหญ่กว่าของพระเอกในหนังตรงหน้าเสียอีก
“อ่าส์”
ผมปรือตาขึ้นมาเพื่อมองหาต้นเสียงครางต่ำ ซึ่งผมควรจะเห็นภาพการร่วมรักกันของพระนายในจอ แต่สิ่งที่ผมเห็นกลับเป็นหน้าท้องของใครบางคนที่กำลังเกร็งจนเป็นรอนอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด
“อี้เอื๋อ(พี่เสือ)”
เชี่ยแล้ว!
