บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 คนนี้เหรอที่เล่าให้ฟัง

เจ้าของความสูงร้อยหกสิบนิด ๆ หุ่นอวบอัดภายใต้ชุดนักศึกษารัดรูปกำลังหมุนซ้าย หมุนขวา อยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนของตนเอง กีรติใช้สายตาสำรวจชุดนักศึกษาที่ไม่ใส่มากว่าหนึ่งปีว่ามีตรงไหนบกพร่อมหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็หันหลังออกมาจากตรงนั้น

กระเป๋าสะพายใบเล็กถูกคล้องบนไหล่ แล้วสองมือก็หอบเอาหนังสือที่ใช้สำหรับเรียนวันแรกขึ้นมาถือไว้ แต่ก่อนจะเดินออกจากห้อง ก็ยังไม่วายหันกลับไปมองกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกรอบ

“น่ารักขนาดนี้ พี่กรจะไม่รักก็ให้มันรู้ไป” ยัยตัวเล็กพูดกับตัวเองด้วยท่าทีมั่นใจ เธอกลับมาคราวนี้อย่างไรก็ต้องได้พี่กรเป็นแฟน

รถยนต์คันเล็กน่ารักสมกับคนที่เป็นเจ้าของถูกเหยียบเร่งความเร็วพอประมาณ ด้วยความที่คอนโดกับมหาวิทยาลัยไม่ได้ไกลกันนัก ไม่นานก็มาถึง รถจอดสนิทยังไม่ถึงสิบวินาที เสียงเตือนข้อความในโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น กีรติหยิบขึ้นมาเปิดดู เป็นเป่าเป้ยที่ส่งมา

เป่าเป้ย : มาถึงยัง มาหาที่โรงอาหารคณะหน่อยสิ

อ่านจบ กีรติก็รีบกดข้อความส่งกลับไปในทันที

“ถึงพอดีเลย ขอห้านาที เจอกัน”

คนตัวเล็กรีบหยิบกระเป๋าและหนังสือแล้วลงจากรถ สองเท้าก้าวเดินเร็ว ๆ เพื่อจะไปหาเพื่อนสนิทที่รออยู่ ดีหน่อยที่คณะของเธอกับคณะของเป่าเป้ยอยู่ติดกัน ใช้วเวลาเดินแค่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

เข้ามาด้านในโรงอาหาร สอดสายส่ายตามองหาเพื่อนที่บอกนั่งรออยู่ แล้วก็เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยกับโบกมือมาจากโต๊ะมุมทางซ้าย

“มีอะไรยะถึงเรียกให้มาหาแต่เช้าเนี่ย คิดถึง?”

ขณะหย่อนตัวลงนั่ง กีรติก็เอ่ยถามเพื่อนซี้ที่กำลังคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

“คิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้งสองอาทิตย์”

“เวอร์ไปแล้วเป้ย แกจะมาคิดถึงฉันอะไรขนาดนั้นยะ”

“คิดถึงจริง ๆ ก็ตอนอยู่จีนมีแกอยู่ด้วยทุกวันนี่นา”

ความจริงทั้งสองคนเพิ่งได้เจอกันตอนไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีน เป่าเป้ยมาจากเอกภาษาจีน ส่วนเธอมาจากสาขาการบัญชี ด้วยความที่เป็นคนไทยเพียงสองคนจึงได้เป็นรูมเมทกันอย่างเลี่ยงไม่ได้

“แล้วตกลงแกมีอะไร ถึงเรียกฉันมาหา” กีรติถามย้ำ

“ไม่มีอะไร” เป่าเป้ยส่ายหน้า “แล้วนี่กินข้าวมาหรือยัง กินเตี๋ยวด้วยกันปะ”

จะว่าไปก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้าเพราะมัวแต่แต่งตัวนานไปหน่อย ใบหน้าสวยพยักตอบรับเพื่อนสนิทในทันที ก่อนที่จะลุกจากม้านั่งไปยืนต่อคิวรอซื้อก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็เอามานั่งกินกับเพื่อนที่โต๊ะ

“คนนี้เหรอที่เล่าให้ฟัง”

จู่ ๆ เป่าเป้ยก็ถามขึ้นมา

“คนนี้?” กีรติทวนคำทั้งหัวคิ้วมนยังเลิกสูงอย่างสงสัย

“ก็คนที่ไปรับเราที่สนามบินไง ที่แกบอกว่าชื่อพี่กรน่ะ” เพื่อนสนิทพูดประโยคแรกจบก็โน้มตัวเข้ามาหา มือป้องอยู่ที่ใบหูแล้วกระซิบถามเบา ๆ “ที่แกเคยบอกว่าเคยวันไนท์น่ะ”

“อืม...” คนโดนถามตอบกลับเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะก้มหน้าดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากแล้วจึงพูดต่อ “คนนี้แหละ พี่กร”

พอได้ยินคำตอบ เป่าเป้ยก็แววตาเป็นประกายแวววับ แล้วโน้มตัวเข้ามาหาเพื่อนรักใกล้ยิ่งกว่าเดิม

“แล้วยังไงต่อ กลับมารอบนี้แกยังจะรุกปะ”

เป่าเป้ยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อย่างกระตือรือร้น ส่วนคนโดนถามก็ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบจะครบทุกซี่

“แน่นอนสิยะ ฉันปักเป้าหมายไว้แล้ว ยังไงก็ต้องได้พี่กรมาเป็นแฟน”

กีรติตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ เขาเคยใจอ่อนให้เธอมาแล้วครั้งหนึ่ง นั่นก็แสดงว่าลึก ๆ ก็อาจจะรู้สึกดี ๆ อยู่บ้าง ถ้าจากนี้จะทำให้มันมีรอบที่สอง ที่สาม ก็คงไม่ยากเกินความสามารถของยัยหมวยคนนี้หรอก

“แล้วแกจะรุกยังไง”

“ฉันมีวิธีแล้วกัน” ตอบพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม “คนสวย ๆ อย่างเรา ผู้ชายอดใจไหวก็ให้มันรู้ไป”

ได้ยินคำตอบของเพื่อนเป่าเป้ยก็แทบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ให้กับความใจกล้าบ้าบิ่นของอีกฝ่าย แต่ก็อย่างว่า ผู้หญิงสวย ๆ มันก็ต้องใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์สิ เพราะนิสัยเหมือนกันแบบนี้ไง เธอกับกีรติถึงได้เป็นเพื่อนสนิทกัน

“เออ...หมวย” เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ เป่าเป้ยก็เอ่ยเรียกเพื่อนที่กำลังนั่งซดน้ำก๋วยเตี๋ยวอยู่

“หืม...มีอะไรเหรอเป้ย”

“คือ...ฉันอยากจะถามว่าพี่ชายแกมีแฟนยังอะ”

จบประโยคคำถามของเพื่อนซี้ ยัยตัวเล็กก็แทบสำลักน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เพิ่งซดเข้าไป ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมกับยกมือขึ้นโบกไปมา

“ที่โบกมือนี่หมายความว่าพี่แกยังไม่มีแฟน?”

“ยังไม่มีแฟน แต่ที่โบกมือหมายความว่า แกอย่าไปยุ่งกับเฮียตี๋ดีกว่า รายนั้นน่ะ ไม่มีคุณสมบัติเป็นแฟนที่ดีได้หรอก”

เรื่องนี้ไม่ได้คิดจะนินทาหรือว่าร้ายพี่ชายตัวเองแต่อย่างไร แต่ว่าเป่าเป้ยเป็นเพื่อนสนิท ก็อยากเตือนเอาไว้ก่อนที่เพื่อนจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า เพราะเฮียตี๋นั้นเจ้าชู้ยิ่งกว่าพี่กรหลายเท่าตัว และไม่เคยแคร์ว่าผู้หญิงคนไหนจะเสียใจ

“งั้นเหรอ..” เป่าเป้ยตอบกลับสั้น ๆ แต่แววตานั้นเป็นประกาย “แต่ฉันชอบความท้าทายแกก็รู้”

“ก็ตามใจแก”

แน่นอนว่าเธอเองก็รู้จักนิสัยเพื่อนสนิทดี ระดับเน็ตไอดอลชื่อดัง ขึ้นไลฟ์แต่ละทีมีผู้ชายเปย์ของขวัญให้เพียบ คงจะมีวิธีการปราบมังกรยักษ์อย่างเฮียตี๋อยู่แล้ว

“อิ่มละ ฉันไปเรียนก่อนนะแก” กีรติบอกเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ซึ่งเป่าเป้ยก็พยักหน้ารับ

“อืม...แล้วค่อยนัดกันอีกที”

แยกย้ายกับเพื่อนสนิท คนตัวเล็กก็เดินกลับมายังคณะของตัวเอง แต่ระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างออก มือเรียวรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรหาใครบางคน ซึ่งรอไม่นานก็มีคนรับสาย

//สวัสดีครับ//

“พี่กร หมวยเองนะคะ”

ดูเหมือนคำทักทายของเธอจะทำให้อีกฝ่ายตกใจไม่น้อย ภัทรกรนิ่งเงียบไปหลายวินาทีก่อนที่จะตอบกลับมา

//มีเบอร์พี่ได้ยังไง//

“ได้มาจากเฮียตี๋ค่ะ”

//ไอ้ตี๋ให้?//

“เปล่าค่ะ หมวยขโมยโทรศัพท์เฮียตี๋มาแอบดูตอนที่เฮียตี๋อาบน้ำ”

ยัยตัวแสบหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ของคนปลายสาย แต่เธอก็ไม่สนใจหรอก ให้รู้ไปว่าพี่กรจะเปลี่ยนเบอร์หนีเพียงเพราะแค่เธอรู้เบอร์โทรศัพท์

//ถ้าไม่มีธุระอะไรก็แค่นี้แหละ//

“เดี๋ยวสิคะ หมวยยังไม่ได้บอกคิดถึงพี่กรเลยนะ”

//หมวย เรากวนเวลานอนพี่รู้หรือเปล่าฮะ//

“ไม่รู้ค่ะ แต่ถ้าพี่กรอยากนอนต่อก็ตามสบายนะคะ หมวยได้บอกคิดถึงแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ”

นิ้วเรียวกดตัดสายทันทีที่พูดจบโดยที่ไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตอบโต้อะไรกลับมาอีก โทรศัพท์มือถือถูกเก็บไว้ในกระเป๋าใบเล็กที่คล้องอยู่ตรงไหล่ แล้วเธอก็เดินเข้าไปในคลาสเรียนอย่างอารมณ์ดี

โทรศัพท์มือถือถูกเขวี้ยงไปยังปลายเตียงอย่างไม่ไยดี พร้อมกับคนที่โดนโทรมาก่อกวนตอนเช้าหยัดตัวลุกนั่งพิงหัวเตียง ภัทรกรถอนหายใจหนัก ๆ ติดกันหลายรอบ มันผิดที่เขาเองนั่นแหละที่ลืมปิดเสียงเรียกเข้าก่อนนอน เลยทำให้เด็กดื้อโทรมาก่อกวนเสียได้

นี่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับยัยตัวแสบอย่างไรต่อไปดี จะบอกเพื่อนให้ดูแลน้องสาวก็เกรงว่าเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อนจะแดงขึ้นมา คราวนี้มีหวังได้ทะเลาะกับเพื่อนซี้แบบไม่เผาผีกันเลยทีเดียว ที่กล้าดีไปเจาะไข่แดงน้องสาวสุดที่รักของมัน

ติ๊ง!

แล้วเสียงข้อความก็ดังขึ้น ทำให้เขาจำใจต้องหยิบโทรศัพท์ที่เขวี้ยงทิ้งไปเมื่อครู่ขึ้นมาดู แล้วหัวคิ้วเข้มก็ต้องขมวดเข้าเป็นปมเมื่อข้อความนั้นถูกส่งมากจากกีรติ

‘เผื่อพี่กรดูแล้วจะสดชื่นในตอนเช้านะคะ’

สายตาคมมองดูรูปถ่ายของเธอที่ส่งมาให้ ยัยตัวแสบในชุดนอนสายเดี่ยวแบบสั้นและบางมาก แทบจะทะลุเห็นเนื้อหนังข้างในที่อยู่ใต้ชุดนั้น ไม่เถียงว่าเธอสวย ขาว รวมไปถึงทำให้บางอย่างที่อยู่ใต้กางเกงนอนของเขาตื่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าคมเข้มก็ต้องรีบส่ายไปมาเพื่อกำจัดความคิดฟุ้งซ่านออก

“ทีหลังอย่าส่งมาอีก น่าเกลียด พี่ไม่ชอบ”

ภัทรกรรีบพิมพ์ข้อความส่งกลับไป แต่เพียงแค่สิบวินาทีก็มีข้อความตอบกลับมา และมันก็ทำให้เขาต้องกุมขมับ

‘ถ้าอย่างนั้นก็เอาไปดูอีกหลาย ๆ รูปเลยค่ะ...อ้อ พี่กรอย่าลืมเซฟเบอร์หมวยไว้นะคะ จะได้รู้ว่าใครโทรหา หรือว่าเวลาคิดถึงจะได้โทรมาหาหมวยได้’

ข้อความถูกส่งมาพร้อมกับรูปภาพอีกหลายรูป ซึ่งเป็นรูปของยัยตัวแสบในชุดนอนแบบเมื่อครู่ แต่ว่า...ท่าทางพวกนี้มันยั่วยวนกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“ยัยหมวย!”

///////////////////////////////////////////////////////
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel