บท
ตั้งค่า

สาวส่งข้าวกล่อง

“อานุช!!! มารับข้างกล่อง10ที่! ไปส่งตามที่อยู่นี่นะ” เถ้าแก่ฉาน เป็นเจ้าของร้านอาหารจีนฉลามน้ำแดงตามสั่ง ทำข้าวกล่องส่งอีกด้วย อยู่ในย่านสำเพ็ง ซึ่งณีรนุชไปทำงานเป็นคนส่งข้าวกล่อง เนื่องด้วยตำแหน่งสาวเสิร์ฟเขาไม่รับ

เถ้าแก่ฉานจะมีลูกน้องเป็นผู้ชายเสิร์ฟอาหาร และเป็นผู้ช่วยอยู่ใกล้ตัว เขาจะไม่รับผู้หญิงมาเป็นคนเสิร์ฟอาหาร และเป็นผู้ช่วยทำอาหารจีนเด็ดขาด มันเป็นแบบวิถีร้านอาหารจีนของเถ้าแก่ฉาน...

แม้สำเนียงจะพูดไทยไม่ชัด เนื่องด้วยเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่เกิดและโตในเมืองไทยมานาน แต่ยังพูดติดภาษาจีน กึ่งสำเนียงปนภาษาไทยอยู่ดี เถ้าแก่ฉานสืบทอดร้านอาหารจีนฉลาดน้ำแดงมาเป็นรุ่นที่ห้า ในย่านสำเพ็งนี้จากรุ่นพ่อรุ่นปู่

 

จึงเป็นเรื่องที่ณีรนุช ขอทำงานอย่างอื่นที่ไม่ใช่หน้าที่ล้างจานเด็ดขาด เธอจึงขอทำงานอย่างอื่นได้เป็น –สาวส่งอาหารกล่อง- ของเถ้าแก่ฉานในร้านอาหารจีนฉลามน้ำแดง ยามนี้...

“ได้...เถ้าแก่! เขาจ่ายเงินมายังอ่ะ” นุรสวมหมวกมีปกปีกขาว รวบผมยาวไว้อย่างชิดมิด พร้อมบรรจุข้าวกล่องทั้งหมดใส่กล่องใหญ่เก็บอุณหภูมิ ใส่ไว้อย่างมิดชิด มือเธอถือรายการสั่ง ให้ไปส่งที่อยู่ก็ไกลพอสมควร

อยู่ตั้งรัชดา... ยังจะมาสั่งอาหารที่สำเพ็งได้ คงได้ค่าส่ง ค่าวิ่งหลายกิโลเมตรอยู่ แววตาหญิงสาวมองชื่อถนน และชื่อตึก ดูชั้นและหมายเลขห้อง... ไม่น่าจะหลงทางหรือส่งยาก

“เขาโอนเงินมาแล้ว ลื้อไปส่งให้ทันเวลาภายในหนึ่งชม.นะ กลับมาไวๆ เผื่อมีลูกค้าจะสั่งให้ไปส่งที่อื่นอีก!” เถ้าแก่ฉานกำชับมิให้เธอถเลถไลที่ไหน เนื่องด้วยตอนนี้ร้านอาหารจีนของเขา เริ่มได้รับความนิยม ตรงที่มีเดลิเวรี่นี่แหละ

“เออ รู้แล้วน่ะ อั๊วจะรีบไปรีบกลับ!” นุชบรรจุอาหารใส่กล่องรวมแพ็คใหญ่ ไม่ต่างกับบริการไปรษณีย์ชื่อดัง จะว่าไป... ให้ไปเป็นสาวยาคูลยังไม่ได้กำไรดี เท่าเป็นคนส่งข้าวกล่องของเถ้าแก่ฉาน...

 

แค่มีมอร์เตอร์ไซค์ เปิดไฟใส่หมวกกันน๊อค ก็ทำงานหาเงินได้แล้ว เรียนปริญญาตรีจบมายังหางานทำไม่ได้ เดินเตะฝุ่นอยู่เป็นเดือน งานหายากยิ่งกว่าตอนสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเสียอีก

ถ้าไม่เพราะเธอหิวข้าวระหว่างเดินหางานทำแถวๆ สำเพ็ง ก็คงไม่มาเจอร้านฉลาดน้ำแดง เปิดรับสมัครคนมาทำงานที่ร้าน ใจเธอทีแรกที่ได้เห็นนึกว่าจะได้เป็นสาวเสิร์ฟ สุดท้ายกลายเป็นสาวส่งข้าวกล่อง

ยังดีที่มีตำแหน่งให้ทำ ทำงานนี้ไปก่อนให้มีเงินระยะแรกๆ ถ้าได้งานอื่นที่ได้เงินดีกว่านี้ เหนื่อยไม่มาก ได้ผัวรวย เธอจะไม่รีรอช้าเลยทีเดียว...

******

โธ่ๆ ชีวิตนังณีรนุช หญิงสาวตัดพ้อตัวเอง... แทนที่จะได้ทำงานเป็นสาวออฟฟิศ เสมียนบัญชี เลขาสุดเอ็กซ์ อยู่ข้างกายท่านประธานบริษัทสดหล่อ พ่อรวย มีธุรกิจพันล้าน เผื่อว่าจะได้กลายเป็หนูตกถังเงินถังทอง มากกว่าจะเป็นถังข้าวสาร

ทำไมน๊า... ชีวิตถึงได้กลับตาลปัตร มาเป็นสาวส่งข้าวกล่อง เพราะแค่อยากได้งานหาเงินมาประทังชีวิต เงินก้อนสุดท้ายจากพ่อแม่ ดันมาหมดกลางอากาศ ดันมีหนี้ที่นา แถมเงินก็ขาด...

เอาเถอะ เผื่อการสู้ชีวิตครั้งนี้ จะได้มีโอกาสหาเงินมาซื้อหวยดีๆ สักใบ แล้วค่อยมาลุ้นเลขเด็ดกันใหม่ ขอรางวัลที่1 ซื้อ 20 ชุด ได้ 120 ล้านกันไปเลย

ไถ่ที่นาให้พ่อแม่ เกษียญตัวเอง แล้วหาผัวรวยต่างประเทศ แบบใหญ่ยาวเข่าดีกระแทกมันๆ ให้ปากมดลูกเปิดรับทายาทตัวน้อยให้สวย ให้หล่อ คลานออกมาจากช่องคลอดเธอออกมาสักโหลหนึ่งไปเลย... รับโชค รับขวัญ เปิดทรัพย์รับกันถ้วนหน้าเลย...

จะว่าไปก็ตื่นๆ เถอะนะนังณีรนุช หญิงสาวขับรถเพ้อมาตลอดทาง แม้ว่าจะต้องฝ่ารถติดไฟแดง เหงื่อไหลไคลย้อย เพราะอากาศช่างร้อนอบอ้าว สมกับเป็นแดดเมืองไทย เพียงแค่แดดเลียก็เปลี่ยนสีผิวให้ดำไหม้เกรียม แบบไม่ปราณีโลชั่นทากันแดดเอาเสียเลย

เสื้อร่มกันลมกันแดด คือตัวช่วยหนึ่ง ที่ณีรนุชต้องหามาซื้อใช้ตอนนี้ต้องยอมกลายเป็นสีผิวกาแฟสด คาบุชิโน่ แบบทูโทนสองสีไปเสียก่อน ว่าแล้วหญิงสาวเริ่มผ่อนลมหายใจแบบเหนื่อยระอา...ระหว่างจอดรถแล้วหิ้วข้าวกล่องไปส่งตามที่สั่ง จากนั้นเก็บบิลแล้วรีบบึ่งกลับร้านอาหารจีนตามเดิม

******

“ขอบคุณค่ะคุณน้อง มาส่งไวจังเลยนะคะ นึกว่าจะต้องรออีกเป็นชม. ถนนกทม.นี่ก็รถติดซะไม่มี พี่ติ๊ปให้นะจ๊ะ” จะว่าไปนางก็เป็นหญิงสาวที่หน้าบานอิ่มใจ ปากแดงสดสวย ผมยาวสลวยเป็นเงางาม คงเข้าร้านทำผมหมดไปหลายพัน

น้ำเสียงแสนทุ้มหวานนุ่มลึกดุจเป็นมิตร แต่หามิได้เป็นหญิงสาวแต่อย่างใด นอกจากเสียงห้าวใหญ่ดั่งชายชาตรี ต่างกับภาพลักษณ์เมื่อสักครู่นี้...

ณีรนุชยิ้มเจื่อแห้งปนความตกใจ ท่ามกลางความร้อนระอุของแดดเมืองไทยที่เหงื่ออาบทั่วเรือนหน้า แบ่งปันไขมันทอดสามชั้นก็ว่าได้

“ขอบคุณค่ะ พี่แซมมี่ โอกาสหน้าอุดหนุนร้านอาหารจีนฉลาดน้ำแดง ของเราได้อีกนะคะ ยิ่งสั่งมาก ยิ่งอร่อยค่ะ” ณีรนุชก็ต้องโฆษณางานร้านอาหารเป็นธรรมดา ยิ่งเธอได้มีโอกาสส่งจำนวนข้าวกล่องมากเท่าใด ก็ยิ่งได้ค่าคอมมิชชั่นมากขึ้น เถ้าแก่ฉาน แกชอบคนขยันทำงาน ก็จะให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นด้วย

แซมมี่หอบหิ้วปลายถุงหูหิ้วด้วยเรียวนิ้วมือบอบบาง อ้อนแอ้นอรชรชูสองนิ้ว เดินส่ายสะโพกพลิ้วไปมา ในชุดหญิงสาวเดรสดำคล้องไหล่ซ้ายข้างเดียว เอวบางรูปเอสกับสะโพกกลมกลึง นางก็คงจะมีเงินไปทำศัลยกรรมมานั้นแหละ

เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เงิน แววตาของณีรนุชมองแซมมี่อย่างอิจฉา ชีวิตนางก็น่าจะได้ดีอย่างแซมมี่ ซึ่งเป็นผู้จัดการนายแบบมาหลายคนแล้ว รายได้ของนางก็เป็นกอบเป็นกำ จากการหักส่วนแบ่งกับพวกนายแบบรูปงามดุจเทพบุตรตกสวรรค์

“ทำยังไงนะ เราถึงจะได้มีโอกาสเป็นนางแบบกับเขาบ้างนะ?” ณีรนุชเหลือบสายตามองไปรอบๆ เดินเล่นสักห้านาที ร้านอาหารฉลามน้ำแดงคงไม่ล่มจมเพราะเธอเบี้ยวเวลาทำงานหรอกนะ ไหนๆ ก็อุตส่าห์ขับรถเร็วมาได้ถึงเพียงนี้

******

เพียงณีรนุชเหลือบไปเห็นช่างภาพทำงานกันอย่างขมักขเม้น เรียวริมฝีปากนางก็ห่อเป็นรูปตัวโอ แถมดวงตาโตอู้หูแบบระยิบระยับแวววาว

“แค่ช่างภาพก็หล่อบาดใจ นายแบบนี่แทบจะกินขาดละลายไปทั้งตัว...” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง แอบเลี่ยงเวลาทำงานเล็กน้อย ก็ได้อาหารตาตรงหน้า มันช่างชื่นตาชื่นใจ ได้ดูหนุ่มหล่อใส่เสื้อผ้ายี่ห้อดัง เปิดอกโชว์ซิกแพ็ค

เอวเล็กสะโพกเกร็งภายใต้กางเกงรัดรูป เรือนหน้าอกขาวนวลไหล่ผึ่งหน้าเนียนหล่อเข้ม อกอีแม่จะระเบิดใจละลายนังณีรนุชเสียนี่กระไร มือหนึ่งแอบทาบอก จนทำให้ภายในกายสาวน้ำเดินหลังเจอหน้านายแบบหนุ่มหล่อคนหนึ่ง

เขากำลังยืนโพสท่ากับนายแบบอีกคน ยังหล่อเทียบรัศมีไม่กินขาด เขาช่างมีรัศมีเปล่งออกมาจากเรือนหน้า เหมือนนักบุตรมาโปรดคนบาปเช่นเธอ... ทำไมมันช่างทำให้เธอเข้าใกลเขาได้อย่างยิ่งเพียงนี้นะ...

 

สักพักหนึ่งที่ได้เวลาเบรกพัก แซมมี่สาวงามเสียงหล่อแวะเดินเข้าไปหานายแบบรูปงามคนนั้น... เรียกเขาอย่างสนิทสนม แล้วพาเดินออกมาด้วยกัน... มือนางจูงเขาเดินไปด้วยกันเพื่อชวนทานข้าวเที่ยง

“พล! มาทานข้าวกับพี่เถอะ”

“ข้าวกล่องอีกแล้วน่ะสิ ผมเบื่ออ่ะ” นฤพลทำหน้าเบื่อหน่ายเปลี่ยนข้าวกล่อง เป็นทานที่ร้านอาหารดีๆ มิได้รึไงนะ

“พี่อุตส่าห์เปลี่ยนเป็นร้านอาหารจีนแล้ว มาทานด้วยกันเถอะ เราจะได้รีบทำงานกันต่อ” แซมมี่จูงมือเขาให้มานั่งทานด้วยกัน ณีรนุชแอบไปหลบหลังฉากเหลือบมองหนุ่มรูปงามในสายตา พลันเห็นเขานั่งกินอาหารที่ตัวเองเอามาส่ง

“อื้ม... อร่อยนิพี่... คราวหน้าสั่งมาอีกนะ ผมนี่ล่ะ เบื่อข้าวหน้ากะเพราะหมูสับไข่ดาว ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ทุกรอบเลยอ่ะ” นฤพลบ่นไปพลางหันไปหยิบขวดน้ำขึ้นมาจิบให้ลื่นคอ ณีรนุชคิดว่าต้องหาทางเข้าไปเฉียดคุยกับเขาเสียหน่อย

“กินข้าวเสร็จ ก็ตั้งใจถ่ายแบบต่อไปนะ...” แซมมี่กล่าวตัดบท เพราะอยากจะจบงานวันนี้เร็วๆ แล้วอยากจะไปหาผัวฝรั่งเศส ที่คบหากันมาได้เดือนกว่าๆ เธออยากจะออกจากเมืองไทยไปอยู่กับผัวเต็มที่ อากาศร้อนและได้เงินน้อย

“พี่แซมมี่ เมื่อไหร่พี่จะพาผมไปเดินรันเวย์เคทวอร์ค ที่ฝรั่งเศสเสียทีล่ะ... ที่ปารีส ไม่ก็เปิดตัวนายแบบชื่อดังในงานพรมแดงเลยล่ะครับ” นฤพลขอคุยเรื่องที่เขาใฝ่ฝัน ทำงานกับแซมมี่มานาน แต่ไม่เคยได้ไปออกงานดังๆ แบบนั้นเสียที

“โอ๊ย...ยังหรอกจ้า พ่อหนุ่มรูปงาม ของแบบนั้นต้องใจเย็น มีทีเด็ดโอกาสงาม ถึงเวลาเดี๋ยวก็ได้ไปเองแหละจ้า... เดี๋ยวพี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ พอดีพี่รู้สึกปวดท้องน่ะ” แซมมี่กินข้าวไม่ทันไร ก็เกิดอาการอยู่ต่อไม่ไหว จึงพากายบางในเดรสดำออกจากจุดนั้น

หลังจากแซมมี่ทานอาหารจีนไปได้สักระยะ... เธอรู้สึกอิ่มอร่อยชื่นใจสบายท้อง อีกสักพักที่ท้องไส้ปั่นป่วน หลังจากทานยาระบายถ่ายของเสีย เธอดูแลตัวเองหนักมากจนกลัวว่า ของเสียในร่างกายจะเป็นพิษและเพิ่มน้ำหนักให้เสียรูปร่าง แซมมี่จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเสียหน่อย ค่อยมาเริ่มงานตอนบ่ายโมงครึ่ง

 

“อยากได้ผู้มาทำพ่อของลูก... ก็ต้องด้านได้...อายอดสิวะ” ณีรนุชไม่อยากจะห้ามตัวเองเรื่องหาแฟนอีกต่อไป ในเมื่อยามนี้เธอต้องการชายผู้มาปลดเปลื้องอาการน้ำเดินของเธอ แถมเขาน่าจะมีฐานะดีถึงขนาดแซมมี่เทคแคร์ขนาดนี้...

ณีรนุชหันไปมองรอบด้าน ซึ่งมันมีเสื้อผ้าแขวนอยู่ใกล้ๆ และมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า... เอาวะ... อยากได้เขาเอามาทำผัว ก็ต้องลงทุนกันบ้าง...

******

นฤพลทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว ก็มีน้องๆ พนักงานดูแลทุกๆ คนภายในกองถ่ายแบบ เก็บกล่องอาหารออกไป พร้อมจัดพัดลมมาโบก และเตรียมอุปกรณ์แต่งหน้า โบกแป้ง เพื่อเติมความนวลเนียน ขาวใสน่าหม่ำแก่เขา...

เสียงฝีเท้ารองเท้าส้นสูงดังเป็นระยะ ปลุกภวังค์นฤพลให้หันไปสนใจเสียงที่มาทางนั้น ปรากฏเรือนร่างของหญิงสาวภายใต้ชุดเดรสสีโอลด์โรส

ณีรนุชเดินเข้ามาหาเขาอย่างเชื่องช้า เรือนหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง สลัดคราบสาวส่งข้าวกล่อง กลายเป็นสาวสวยไฮโซที่มาปรากฏแบบนิรนาม แค่แต้งหน้าแต่งตัวเธอทำได้เร็วอยู่แล้ว แต่แต่งเรื่องให้เขาหันมาสนใจต้องทำไงล่ะ ที่เธอยังไม่ทันคิด...

“สวัสดีค่ะ คุณชื่ออะไรคะ?” หญิงสาวในชุดนางแบบเดรสสีโอลด์โรส แวะเดินมาทักทายเขา นฤพลปรายตามองเชิดสูงเหลือบดูได้ครู่เดียว เขาก็เมินเธอเสียแล้ว โดยมิได้ตอบอะไรกับเธอ

“ฉันชื่อ นาดีน นะคะ เป็นช่างตัดเสื้อที่ปารีส พอดีว่าวันนี้แวะมาดูงานแบบเสื้อของช่างดีไซเนอร์ที่นี่ แต่ผลงานไม่ค่อยเพอร์เฟ็คโดนใจ กำลังจะกลับแล้ว แต่...เห็นคุณรูปร่างดี ก็เลยว่าจะชวนมาเป็นนายแบบไปเดินที่ฝรั่งเศสเสียหน่อย ไม่ทราบว่าสนใจ จะมาเป็นนายแบบให้ฉันมั๊ยล่ะคะ”

โธ่... เพื่อให้เขาหันมาสนใจเธอถึงกับต้องแต่งเรื่องหลอกลวงถึงเพียงนี้ แค่ขโมยเสื้อผ้ากับแอบเอาเครืองสำอางค์มาประทินผิว เดินไปโกหกโท่งๆ แบบนั้น เธอนี่มันช่างกล้าเสียจริง แต่เอาเถอะ...หากได้ผู้แล้ว หลังจากนั้นค่อยว่ากันทีหลัง

“รึครับ? ผม... นฤพลนะครับ คุณเป็นช่างตัดเสื้อที่เมืองปารีสเชียวรึ?” สายตาเขาเหลือบหันกลับมาด้วยความสนใจ เพราะตัวนฤพลก็อยากจะไปเดินแบบที่ฝรั่งเศสนานแล้ว แต่ติดที่แซมมี่ไม่ยอมให้เขาได้มีโอกาสตรงนั้นเสียที

 

ราวกับโชคช่วยที่เผอิญว่า ก่อนหน้านั้นณีรนุชได้ยินเรื่องที่นฤพลคุยกับแซมมี่ไว้ เธอเลยคิดว่า น่าจะถือโอกาสบอกตัวเองให้กลายเป็นช่างดีไซเนอร์ชื่อดังไปเสียเลย เพราะชุดที่เธอใส่ มันมีชื่อยี่ห้อว่า “นาดีน” อยู่พอดี

ทำให้เธอต้องเอามาใช้แปลงชื่อตัวเองเสียหน่อย เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ให้เขาหันมาสนใจกับสิ่งที่นฤพลต้องการ และอยากจะมองเธอนานๆ จนไม่อยากจะละสายตาเลยจริงๆ

“ตกลงมั๊ยล่ะคะ?” ณีรนุชก้มหน้าเหลือบมองสูง สบสายตานฤพลอย่างสนใจ พลางเอื้อมมือกอบกำมือนวลนุ่มของเขา เพื่อบีบคลึงเบาๆ เชิงชวนเขาให้ตอบตกลงกับเธอ

“เอิ่ม...” นฤพลเริ่มสนใจคำเชิญชวนของนาดีน โดยอีกใจหนึ่งเขารู้สึกแปลกๆ กับมือหยาบของเธอ ที่ๆ ไม่น่าจะเป็นมือของช่างดีไซเนอร์ แต่ช่างชื่อดังมือก็ไม่สวยนิ่มเหมือนนางแบบอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้เอะใจอะไร...

 

หมดงานตอนบ่ายวันนี้ ณีรนุชยังคงอยู่ในร่างแปลงซินเดอเรล่า รอนฤพลถ่ายแบบวันนี้เสร็จ เพื่อเธอจะตามไปงาบเขาที่คอนโดหรู หลังจากคุยกันได้สักระยะ เธออยากไปดูบ้านเขา และอยากจะดูฐานะ

ระหว่างนี้เองณีรนุชจึงโทรไปหาเถ้าแก่ฉานว่า เธอจะขอกลับบ้านเลย เพราะรถเสีย ซึ่งในความเป็นจริงยังคงจอดอยู่ในอาคารใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อจะพาตัวเองไปนั่งในรถของนฤพล แล้วรวบหัวรวบหางเขาเสียเลย...

******

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel