หนุ่มน้อยแสนหวาน [5]
ร่างหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำมาสะอาดๆ ต้องเปียกฉ่ำด้วยหยาดเหงื่อแห่งความเหนื่อยล้า และเสียวไปทั่วร่างกาย สะโพกแคบยังคงทำงานระรัวเร็ว ซอยถี่อัดกระแทกความเป็นชาย ตอกลึกเข้าร่างวารินทร์ไม่มีหยุดพัก ร่างสาวกลางคนสั่นไหว ครวญครางกรีดร้องทุกๆ แรงกระแทกที่อัดเข้ามา เสียงลมหายใจที่สอดประสานกัน ระหว่างรอบจูบต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาเสร็จสมไปสู่สวรรค์
ของเหลวอุ่นร้อนหลั่งไหลมากมายอีกครั้ง และครานี้นนทกรกระแทกเสียเพลิดเพลินจนชักออกมาไม่ทัน เขาซอยถี่อัดหัวบากกระแทกกับทางตันในร่างเธอ มันดูดส่วนหัวบากเขาจนไม่อยากจะกระชากออกมา นนทกรตัดสินใจอัดเข้าไปลึกสุดๆ พลางอัดฉีดของเหลวร้อนมากมายอยู่ในร่างวารินทร์
หญิงกลางคนนอนหอบเสียวครวญคราง เพราะเสร็จแตกทะลักน้ำเมือกมาพร้อมๆ กับของเหลวร้อนกับหนุ่มน้อย มันให้ความรู้สึกดีอย่างที่ต้องการมานานแล้ว เธอยังต้องการอีก และอยากมีเวลาดีๆ แบบนี้ตลอดไป
สองแขนบางเลื่อนขึ้นมาสวมกอดหนุ่มน้อย เขาน่าจะเป็นลูกเขยเธอ ไม่ใช่ผัวเก็บอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่ในเมื่อลูกสาวเธอไม่เห็นคุณค่าในความเป็นชายของนนทกร เธอจะดูแลรักษาเขาเอาไว้เอง
“คุณปะ... วารินทร์... คือผม... เผลอแตกในใส่คุณ...” นนทกรเกรงว่าเพื่อนแม่จะตั้งครรภ์เพราะฝีมือเขา ทำให้นนทกรรู้สึกผิดตอนค่อยๆ ถอนองคชาตออกมา ปล่อยให้น้ำขุ่นอุ่นหลั่งไหลทะลักออกมาจากร่องสวาท
เรือนร่างเปลือยเปล่าเธอแทบกระตุกสั่น เพราะเสร็จแตกไม่รู้กี่ครา นนทกรทำให้เธอพึงพอใจเสียเธออยากจะลากเขาไปเที่ยวตจว.ตามลำพังสองคน และไปทำเรื่องอย่างนี้ทุกๆ วัน โดยไม่ให้วันวิสาได้รู้เลยว่าแม่เธอหนีหายไปไหน
“ไม่ต้องห่วงนะ นนทกร... ป้าตัดโพรงมดลูกไปแล้ว และป้ายังมีเพศสัมพันธ์เผ็ชๆ แบบนี้ได้ตลอด ชอบมั๊ยล่ะ? ป้าไม่ต้องกังวลเรื่องท้อง” วารินทร์บอกให้นนทกรสบายใจ เพราะเธอใช้บริการผ่าตัดแผลเล็กๆ ทำให้ไม่เหลือรอยผ่าตัดที่หน้าท้อง และอีกอย่างเธอยังมีปากมดลูก ไว้มีเพศสัมพันธ์เด็ดๆ กับนนทกรในรอบหน้าได้อีก
“ผมชอบจังเลยครับ มันเป็นครั้งแรกของผม” นนทกรโน้มตัวลงจูบเธออีกครั้ง ไม่เคยจูบหญิงสาวใด จะเผ็ดมันเร่าร้อนได้เท่าเพื่อนแม่คนนี้อีกแล้ว เธอทำให้เขามีเซ็กซ์กับผู้หญิงเป็น
“วันนี้คงจะเหนื่อยแล้ว... เอาไว้คราวหน้าถ้ายัยวันวิสาทำตัวงี่เง่า ก็มาอยู่กับป้านะ” วารินทร์แนะข้อเสนอ ปล่อยให้ความลับนี้อยู่กับเธอและเขาสองคน โดยมิให้จรรยาภรณ์รู้ และมิให้วันวิสาเอะใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาตลอดชม. โดยที่นนทกรไม่ได้ยิน เขาเพลิดเพลินกับการมีเซ็กซ์กับเพื่อนแม่ เสียไม่ได้รับของจรรยาภรณ์นาน หนุ่มน้อยจึงต่อสายกลับไปคุยเสียหน่อย ก่อนจะขับรถกลับบ้าน
******
“ไปทำอะไรหนูวันวิสารึ? ไม่รับสายแม่เลย เดี๋ยวนี้โตเป็นหนุ่มไวไฟเร็วจริงๆ นะ” จรรยาภรณ์แซวน้ำเสียงร่าเริง เมื่อลูกชายของเธอไม่ได้ไก่อ่อน และอาจจะมีอะไรกับลูกสาวเพื่อนตัวเองไปแล้ว เธอคิดเช่นนั้น
“เปล่านะครับแม่... วันวิสาเป็นคนที่น่ารักมาก ผมคงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นกับน้องหรอกครับ” นนทกรพยายามตอบปัด เพราะรู้สึกขัดๆ กลัวๆ ว่าแม่เขาจะรู้ว่า คนที่เขานอนด้วยไม่ใช่คู่หมั้น แต่เป็นเพื่อนแม่
“อ้าวหรอ? แล้วทำไมแกไม่รับสายแม่ล่ะ? จะโทรมาถามว่า เย็นนี้จะกลับมากินข้าวบ้านมั๊ย?” จรรยาภรณ์รู้สึกใจสลายไปบ้าง เมื่อได้ยินนนทกรพูดมาแบบนั้น แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ท่าทางเขาจะไปเหนื่อยกับอะไรสักอย่าง
“ผมจะกลับไปกินข้าวเย็นนะครับแม่” นนทกรรีบตอบรับทันที เขานอนอึ๊บกับเพื่อนแม่ไปแล้ว แถมน้ำแตกไปสองรอบวันเดียวกัน เขารู้สึกเหนื่อยเพลีย อยากกินข้าว และนอนสบายตัวเบา เผื่อว่าหากพรุ่งนี้วันวิสาไม่อยู่บ้าน เขาจะกลับมาอยู่กับวารินทร์เหมือนเช่นวันนี้อีก
“แล้วแกไปทำอะไรมา ฟังเสียงแกแล้วดูเหนื่อยๆ นะ เพื่อนแม่ใช้งานลูกรึ?” จรรยาภรณ์รู้สึไม่พอใจวารินทร์ สงสัยคงจะใช้งานลูกเขย จนไม่ได้เสียกับวันวิสาล่ะสิ
จรรยาภรณ์แค่อยากให้นนทกรมีอะไรกับวันวิสา เผื่อว่าจะได้มีงานวิวาห์ และเธอจะได้เงินจากวารินทร์ ตอนนี้เธอกำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ และอยากให้วารินทร์ช่วยเหลือเรื่องนี้ จึงปล่อยให้ลูกชายมาหมั้นหมายกับวันวิสา
“อ้อ... ผม เอ่อ... ไปช่วยงานสวนในเรือนกระจกให้คุณป้าน่ะครับ งานก็โอเคดี อีกสักพักผมจะกลับไปกินข้าวบ้านนะครับ รักแม่นะ” นนทกรกล่าวจบรีบตัดบทวางสาย ทำให้วารินทร์หันมองหนุ่มน้อยที่เริ่มเติบโต หลังจากมีเซ็กซ์กับเธอผ่านไปแล้ววันนี้
“โกหกเก่งนะเรา” น้ำเสียงของหญิงกลางคน ค่อนข้างเริงระรื่น หลังจากได้ฟัดเด็กหนุ่มไปแล้ว เธอรู้สึกดีและสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก หลังจากไม่ได้มีเซ็กซ์กับใครมานาน มันทำให้เธอค่อนข้างเก็บอารมณ์พอสมควร
“ผมแค่ไม่อยากให้วารินทร์กับแม่มีปัญหากัน อีกอย่าง ผมก็มีเรื่องอยากถามเกี่ยวกับวันวิสาน่ะครับ” นนทกรคิดว่าเขาควรจะรู้เรื่องของคู่หมั้น เพราะเธอเกรี้ยวกราด และไม่ยอมคบหากับเขา ทั้งๆ ที่จรรยาภรร์ฝากฝังเขาไว้ว่า จะต้องได้วันวิสามาทำเมีย
แต่กลายเป็นว่า นนทกรกลับได้เพื่อนแม่มาฟัดเสร็จแตกในไปแทน ยิ่งต้องปิดเรื่องนี้ให้มิด และต้องไม่ให้ใครรู้ทั้งนั้น มันเป็นเพียงความพึงพอใจของเขากับเพื่อนแม่...
******
เมื่อหนุ่มน้อยเดินทางกลับบ้าน วันวิสาขับรถสวนกับรถของนนทกร ท่าทางเขาเฉยๆ กับเธอ ผิดกับเมื่อเช้าที่พยายามเทคแคร์เธอ แต่วันวิสาเดินเมินใส่หน้าเขา
“วันนี้เขาอยู่บ้านเราจนถึงเย็นเลยรึคะ แม่?” วันวิสากล่าวถามอย่างสงสัย ปกติแม่เธอไม่ค่อยต้อนรับใครอยู่บ้านนาน วันนี้ท่าทางแม่เธอก็ดูสดชื่นกว่าทุกๆ วันที่เคยเห็น
“ก็แกไม่ไปเที่ยวกับเขา ทั้งๆ ที่เขาก็มีมารยาทดี อ่อนน้อมนุ่มนวลกับลูก วันวิสา...ลูกเป็นสาวแล้วนะ ไม่ใช่ผู้ชายที่ไปมีเมียที่ไหนก็ได้... เลิกทำตัวแย่ๆ ซะทีนะ เขาเป็นคู่หมั้น และเป็นลูกเพื่อนแม่”
แล้วเรื่องอะไรวารินทร์จะปล่อยให้วันวิสารู้ล่ะ ว่าเธอฟาดคู่หมั้นลูกไปแล้ว ในเมื่อวันวิสานั้นแหละ ที่เมินหนุ่มน้อยแสนหวานน่ากินอร่อยเหาะขนาดนี้ เธอจะไม่ยอมให้นนทกรหลุดมือไปเด็ดขาด อย่างน้อยๆ ต้องหาข้ออ้างให้นนทกรมาทีนี่ได้ตลอด โดยเฉพาะในฐานะคู่หมั้นลูกสาวเธอเอง
“ก็หนูไม่ชอบเขานิ... หนูชอบผู้หญิง และเมียหนูก็น่ารักกว่าไอ้นั้นเป็นไหนๆ” วันวิสาเกรี้ยวกราดเสียงดัง ยืนยันว่าจะมีเมีย และไม่ยอมเป็นเมียผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นคู่หมั้นที่แม่ทั้งสองคนจะจัดหามาให้ เธอก็ไม่ยอมเด็ดขาด
“ลองคบไปเหอะ แม่ขอร้องล่ะ... เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของแม่กับจรรยาภรณ์บ้างสิ แม่ของนนทกร เอ็นดูลูกนะ” แม้วารินทร์จะกล่าววิงวอนให้ลูกสาวยอมคบหากับนนทกรต่อไป
เพราะวารินทร์จะมีโอกาสได้ฟาดคู่หมั้นของลูกสาวได้อีก ลับสายตาบางช่วงเวลาก็ยังดี อย่างน้อยวารินทร์ก็ได้ดูเอ็นของนนทกรไปแล้ว มันทำให้เธอถูกอกถูกใจ ตอนมันได้รสชาติถูกปากแท้
“มันเป็นการตัดสินใจของแม่นะ หนูไม่ได้คิดอะไรกับเขาเสียหน่อย” วันวิสาบ่นหงุดหงิด แต่วันนี้เธอเห็นว่าวารินทร์อ่อนข้อให้และดุน้อยลง บางทีคู่หมั้นที่จัดหามาให้ อาจจะเป็นผลดีต่อวันวิสาเองก็ได้ เด็กสาวจึงเริ่มจะใจอ่อน เพื่อให้แม่สบายใจ
“ลองคบไปเถอะนะ วันวิสา...ถือว่าแม่หวังดีนะ... อีกอย่างถ้าคบไปสักระยะ แล้วเข้ากันไม่ได้ ลูกก็ค่อยมาตัดสินใจในภายหลัง ไม่สายหรอกนะ...” วารินทร์พยายามหว่านล้อมต่อไป เผื่อว่าลูกสาวจะใจอ่อน มันทำให้เรือนหน้าเด็กสาวสับสน และหงุดหงิด เธอยังอยากอยู่กับเมียแสนน่ารัก มากกว่าอยู่กับผู้ชายที่ทำตัวแข็งๆ และมีกลิ่นตัวเหม็นๆ
“อ่ะ.. ก็ได้ วันนี้ท่าทางแม่อารมณ์ดีนะ ถึงไม่ค่อยโกรธหนูเหมือนวันก่อนๆ หนูรักแม่เวลาแบบนี้นะ... เอาไว้หนูจะลองคิดดูก็แล้วกัน” วันวิสาคิดว่า เธอน่าจะยอมฟังวารินทร์ มันทำให้เธอรู้สึกว่า มีแม่ที่น่าเข้าใจและควรทำให้แม่มีความสุข
“ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ... ว่าแต่ลูก... กินข้าวบ้านเพื่อนมารึยังล่ะ?” วารินทร์น้ำเสียงหวานอ่อนลง เริ่มพอใจที่ลูกสาวของตนยอมอ่อนข้อให้ และยินยอมที่จะหมั้นกับนนทกรต่อไป แม้จะคบหาก้าวหน้าหรือไม่...เธอหวังเล็กๆ ที่จะมีโอกาสได้ฟัดอร่อยๆ กับนนทกร โดยมิให้วันวิสา และจรรยาภรณ์ล่วงรู้... เธอคิดแค่นั้น
“กินมาแล้ว หนูไปนอนละนะ เหนื่อยมากกกกกกกก” วันวิสาลากเสียงพลางพาตัวเองเดินกลับห้องไป ปล่อยให้วารินทร์สบายใจว่าเธอจะยอมคบกับคู่หมั้น ซึ่งแม่ไม่รู้หรอกว่า เธอชอบฉิ่งกับผู้หญิงมากกว่า มาเล่นตีกลองกับผู้ชาย...
******
