เสพสายดาร์ก 1-2

191.0K · จบแล้ว
นักเขียนอิสระ ภูผาสีน้ำเงิน
82
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผู้มีโลกสวยและจารีตที่งดงาม ควรกดข้ามนิยายเรื่องนี้ เพราะเราจะนำดิ่งสู่โลกแห่งอิโรติก ดาร์กไซร์ด และหลงใหลในโลกมืดที่โหดร้าย หลอกลวง หักหลัง และสารพัดแห่งความสุขที่ได้กระทำอย่างเย้ายวน !!! คำนำ “เสพสายดาร์ก – Dark Erotica... คือแรงปรารถนาอันไร้เหตุผล สุดจะเกินบรรยายถึงอารมณ์กลัดมัน เพื่อให้บรรลุความต้องการเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่สนใจถึงความถูกต้องครรลองธรรม แม้จะต้องหลอกลวงหักหลังหรือต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ จนต้องยอมจ่ายแพง พร้อมสนองความต้องการต่ออารมณ์ความต้องการให้สำเร็จใคร่ บรรลุถึงจุดสูงสุด..." “เสพสายดาร์ก – Dark Erotica” คือเรื่องราวสมมติเรื่องสั้นทั้งหมด บางเรื่องอาจหยิบยกมาจากข่าวออนไลน์ จากประสบการณ์จริงของใครบางคน จากจินตนาการเพื่อความบันเทิงของนิยายเรื่องสั้นอิโรติก อาจอ้างอิงสถานที่ ข้อมูลเท็จจริง เป็นเรื่องราวสมมติเนื้อเรื่องทั้งหมด นิยายเรื่อง “เสพสายดาร์ก – Dark Erotica” นิยายแนวเสพอิโรติกรวมเรื่องสั้นอีกเล่มหนึ่ง ต่อจาก “เสพต้องห้าม” คืออีกแง่มุมมอง เบื้องหลังสังคมที่กำลังจะเจริญก้าวหน้า อาจมีบางกลุ่มที่ยังมีความคิด และกำลังสิ่งเหล่านี้ โดยไม่มีใครได้ล่วงรู้มาก่อน กลุ่มคนเหล่านี้พึงพอใจ หรือกำลังถูกบังคับข่มขืนเพียงใด ให้อ่านเป็นเพียงแง่คิด ในความดาร์กไซด์ก็ยังมีความโหดร้ายซ่อนอยู่ในอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งมีความป่าเถื่อน หลอกลวง เล่ห์กลให้หลงระเริงใน กามราคะใคร่เหล่านั้น... ภูผาสีน้ำเงิน --------------------------- “เสพสายดาร์ก2 – Dark Erotica 2... คือแรงปรารถนาอันไร้เหตุผล สุดจะเกินบรรยายถึงอารมณ์กลัดมัน เพื่อให้บรรลุความต้องการเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่สนใจถึงความถูกต้องครรลองธรรม แม้จะต้องหลอกลวงหักหลังหรือต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ จนต้องยอมจ่ายแพง พร้อมสนองความต้องการต่ออารมณ์ความต้องการให้สำเร็จใคร่ บรรลุถึงจุดสูงสุด..." “เสพสายดาร์ก2 – Dark Erotica 2” คือเรื่องราวสมมติเรื่องสั้นทั้งหมด บางเรื่องอาจหยิบยกมาจากข่าวออนไลน์ จากประสบการณ์จริงของใครบางคน จากจินตนาการเพื่อความบันเทิงของนิยายเรื่องสั้นอิโรติก อาจอ้างอิงสถานที่ ข้อมูลเท็จจริง เป็นเรื่องราวสมมติเนื้อเรื่องทั้งหมด นิยายเรื่อง “เสพสายดาร์ก2 – Dark Erotica 2” นิยายแนวเสพอิโรติกรวมเรื่องสั้นอีกเล่มหนึ่ง ต่อจาก “เสพสายดาร์ก” เล่มแรก คืออีกแง่มุมมอง เบื้องหลังสังคมที่กำลังจะเจริญก้าวหน้า อาจมีบางกลุ่มที่ยังมีความคิด และกำลังสิ่งเหล่านี้ โดยไม่มีใครได้ล่วงรู้มาก่อน กลุ่มคนเหล่านี้พึงพอใจ หรือกำลังถูกบังคับข่มขืนเพียงใด ให้อ่านเป็นเพียงแง่คิด ในความดาร์กไซด์ก็ยังมีความโหดร้ายซ่อนอยู่ในอีกด้านหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งมีความป่าเถื่อน หลอกลวง เล่ห์กลให้หลงระเริงใน กามราคะใคร่เหล่านั้น... ภูผาสีน้ำเงิน ---------------------------

พลิกชีวิตนอกใจ18+3P4Pพ่อเลี้ยง

I บทนำ - หนุ่มน้อยแสนหวาน [1]

“ท่าทางวันนี้แม่ดูมีความสุขมากเป็นพิเศษนะครับ” นนทกร นั่งอยู่ในรถยนต์คันงามกับจรรยาภรณ์ พวกเขามีกันแค่สองคนแม่ลูกมาตั้งนานแล้ว อีกทั้งพ่อก็ทิ้งพวกเขาไปตั้งแต่นนทกรยังไม่เกิด ทำให้ชีวิตของชายหนุ่มมีแม่เพียงคนเดียว

“อ่อ ก็ไม่เชิงหรอกนะ เพราะว่า ตอนนี้ลูกก็เป็นหนุ่มแล้ว ตั้งใจเรียนจนจบ มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ยอมใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเลย ทำเพื่อแม่มาตลอดเวลา.. แม่เลยคิดว่า วันนี้จะทำเพื่อลูกบ้าง” จรรยาภรณ์คิดว่า อยากให้เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตเสียที หลังจากเขารู้ว่าพ่อทิ้งเขาไปทำไม เพราะความไม่พอจึงทำให้ห่างหายไม่พบหน้ากันอีก

จรรยาภรณ์คิดว่า เธอควรชดเชยให้นนทกร หลังจากเขาทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เพื่อแม่ โดยการนัดแนะกับเพื่อนสนิทของตน เพื่อนัดดูตัว และให้ลูกชายได้มีแฟนสาวดีๆ สักคน อย่างน้อยก็ลูกเพื่อน พวกเขาน่าจะเข้ากันได้ เธอคิด...

“เรามีกันแค่สองคนมาตั้งนาน ยังไงๆ ผมก็จะดูแลแม่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตแหละครับ” ด้วยความซื่อและห่วงใย เขาไม่เคยมองหญิงอื่นนอกจากดูแลแม่ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำทุกอย่างเพื่อเขามาตลอดหลายปี ตั้งแต่เกิดโดยไม่เคยทอดทิ้ง ครั้งนี้เขาจะไม่ทอดทิ้งแม่ให้โดดเดี่ยวอย่างที่พ่อเคยทำ... เขาจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด...

“เด็กบ้าของแม่!!! ได้เวลาโตแล้วนะหนุ่มน้อย วันนี้แม่จะพาไปเจอเพื่อนแม่ และลูกสาวของเขานะ” จรรยาภรณ์คิดว่า การให้ลูกชายและลูกสาวของแต่ละฝ่ายมาพบกัน เพื่อดูใจและหมั้น มันจะเป็นผลดีต่อการใช้ชีวิตของลูกชาย อีกทั้งเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ย่อมต้องมีลูกสาวดีๆ เพื่อลูกชายของเธอได้แน่

“ผมไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลย...” ในหัวของนนทกร คิดแต่เรื่องทำมาหากิน ตั้งใจเก็บเงินอยากซื้อบ้านให้แม่อยู่ อยากมีเงินมากมายพาแม่เที่ยว และเขาคิดว่าการแต่งงานคงไม่เหมาะกับเขา เพราะเกรงว่าถ้าเขาไม่รักสาวอื่นใด เขาก็คงจะทิ้งมาดื้อๆ เหมือนพ่อที่เคยทำกับแม่ ... นนทกรคิดว่าเขาไม่อยากแต่งงาน...

******

เมื่อตัวรถมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังงามแห่งหนึ่ง ประตูรั้วเปิดโดยอัตโนมัติ ท่าทางเพื่อนแม่ของเขาจะมีฐานะ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ หากจรรยาภรณ์อยากจะให้ลูกชายมีเมียดีๆ และมีฐานะเกื้อหนุนกัน

แววตาชายหนุ่มเหลือบมองไปรอบๆ เห็นหญิงสาวในชุดเชิ้ตสีหวานๆ ใส่ผ้ากันเปื้อนสวมถุงมือ พร้อมถือกรรไกรตัดกิ่ง กำลังตัดแต่งต้นไม้ โดยมีหมวกกันแดด รอบหมวกบานกว้างมากเสียบดบังเรือนหน้า

ชั่วแวบเวลาหนึ่งนนทกรคิดว่า อาจจะเป็นแม่บ้านคนทำสวนก็เป็นได้ คนมีฐานะขนาดนี้เขาคงไม่ต้องลงมาทำเองให้เหนื่อยหรอก มีเงินก็ต้องจ้างคนงานสิ ถึงจะดี...

เพียงตัวรถยนต์คันงามสีน้ำเงินกรมท่าจอดเทียบหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ภายในสวนต้นไม้นานาพันธ์ กลิ่นหอมของดอกไม้ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกหายเหนื่อย และผ่อนคลาย จรรยาภรณ์ดับเครื่องและลงจากรถไปก่อน ปล่อยให้ลูกชายคนเดียว นั่งรออยู่ในรถเพียงลำพัง...

หนุ่มน้อยรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งเพียงเดียวดายในบ้านคนอื่นเลยคิดว่า ไม่อยากอยู่ห่างจากรถของแม่ เขาค่อนข้างรู้สึกประหม่าและสายตาเริ่มสั่นไหวเมื่อมองไปรอบๆ ... ภายในบ้านเงียบสงบและไร้เสียงถนนและผู้คน... จัดได้ว่าที่นี่เป็นบ้านที่สงบเงียบจริงๆ

“นั้นเธอเป็นใคร? เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน?” เสียงของหญิงสาวในชุดเดรสพื้นสีขาวลายดอกกุหลาบสีแดง เดินมาด้วยท่วงท่าสุภาพสตรี และเสียงเกือกร้องเท้ามีสายรัดข้อเท้าขาวนวลสว่าง

เรือนผมถูกดัดจัดทรงมาอย่างดี และตัดหน้าม้ารับกับปลายผมม้วนเป็นลอนเด้งสลวยเป็นเงางาม แววตาของเธอแต่งอายแชร์โดว์ พร้อมกับเขียนอายไลเนอร์สวยงามเสีย นนทกรลืมหายใจไประยะหนึ่ง...

“คะ...คะ..คือ.. คือผม... มากับแม่ครับ... แม่บอกว่า มาหาเพื่อนที่นี่ครับ” นนทกรลืมแนะนำตัวเอง แต่บอกจุดประสงค์ให้เธอทราบเสียก่อน... ท่าทางอาจจะยังสาว ยังสวย และยังดุอีกด้วย

“แม่เธอชื่ออะไรล่ะ? เผื่อฉันจะไปบอกแม่ให้ออกมาต้อนรับ... เธอมาถึงนานรึยังล่ะ? ฉันเพิ่งจะทำธุระในบ้านเสร็จเลยไม่รู้ว่าเธอมานานรึยัง?” แววตาหญิงสาวจ้องมองผู้ชายตรงหน้า ราวกับเขาคือของแปลกใหม่ในชีวิตเธอ

วันวิสา เรียนโรงเรียนสตรีประจำมาตลอด เลยรู้สึกว่าการเข้าหากับผู้ชาย ค่อนข้างจะแปลกใหม่ พอเรียนจบ คุณแม่ของเธอก็ยังไม่ให้ออกไปไหนจนกว่าจะถึงเวลานัดดูตัวกับผู้ชายที่จัดหามาให้

“แม่ผมชื่อ จรรยาภรณ์ และผมก็ชื่อ นนทกร ครับ พึ่งจะมาถึงได้สักพักแล้วครับ” เขายิ้มและนอบน้อมให้แก่เจ้าบ้าน ท่าทางเธอแกร่งกร้าวพอสมควร แต่เมื่ออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวหวานสะอาด ทำให้แลดูอ่อนโยนและน่าคบหา...

“ถ้างั้นนะ...นนทกร... นายควรรออยู่ตรงนี้ ก่อนที่จะไปหลงในสวนต้นไม้สุดรักของแม่ฉัน! อ้อ... ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ วันวิสา...” เมื่อเด็กสาวกล่าวจบ เธอเดินเริศเชิดกระฉับกระเฉง หมุนกายกระโปรงเดรสเท่าหัวเข่าพลิ้วไหว จากไปอย่างว่องไว เพื่อไปตามหาแม่ของตัวเอง มาต้อนรับแขก...

******

เสียงเดินฉับๆ ระหว่างปลายฝ่าเท้านาบกับพื้นใบไม้กรอบๆ บนดินดังเป็นะระยะ ปลุกความเป็นส่วนตัวของหญิงสาวในชุดคนสวนเชิ้ตแขนยาว และหมวกใบใหญ่ๆ ให้หันมาตามเสียงที่เดินเข้ามา...

“วันวิสา!!! แม่บอกไปหลายครั้งแล้วใช่มั๊ย? ว่าอย่ามารบกวนเวลาทำสวน ตัดแต่งกิ่ง...!!!” เพียงร่างเธอหันกายกลับมา ปรากฏร่างของหญิงสาวในวัยเดียวกัน ทำให้เรือนหน้าที่ยังคงความเยาว์ความสาวของเธอ ต้องตกตะลึง... เมื่อเพื่อนสาวที่นัด เธอมาเร็วกว่าที่คิด...

“ไอ้ภรณ์!!!” กรรไกรตัดแต่งกิ่งในมือร่วงหล่น พลางยกแขนทั้งสองข้าง เพื่อเดินเข้าไปโผกอดเพื่อนสาวที่ไม่ได้พบกันเสียนาน พวกเธอพึ่งจะติดต่อกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว จากข่าวของจรรยาภรณ์ทำงานเป็นจิตอาสาให้กับทางราชการ เธอดีใจเหลือเกิน เมื่อคำเชิญของเธอทำให้จรรยาภรณ์ยอมมาหาเธอที่บ้านหลังนี้ได้อีกครั้ง

“ไอ้วา... แกยังปากร้ายเหมือนเดิมเลยนะ ไม่นึกเลยนะว่าแกจะยังอยู่บ้านหลังเดิม ที่นี่เปลี่ยนไปมาก... ต้นไม้ก็เยอะขึ้น!!!” จรรยาภรณ์เริ่มท้าวความหลัง ครั้งสมัยเรียนโรงเรียนมัธยมด้วยกัน มันก็เกือบจะยี่สิบปีได้

“เออว่ะ! แกก็ยังจำบ้านฉันได้ ดีใจจริงๆ เลย นี่ทานอะไรมากันหรือยังล่ะ? เดี๋ยวจะให้ลูกสาวจัดของหวานมาให้ มาทานน้ำดื่มเย็นๆ ทานขนมอร่อยๆ ก่อนนะ” เรือนแขนของเจ้าบ้านสาวกอดเอวเพื่อนสาวแล้วเดินออกมาจากสวนด้วยกัน ลืมไปเสียสนิทว่าเวลานี้เธอควรเตรียมตัวแต่งตัวมาพบหน้าหลานชาย และควรให้ลูกสาวได้ดูตัวกับลูกชายเพื่อนเสียที

“อ้าวแม่..!!! เจอกันแล้วรึคะ?” วันวิสาเดินฉับๆ ราวกับผู้ชายไม่ปาน ยกแขนแข็งแรงและเรือนหน้าขึงขัง มองหาผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังเดินออกมากับหญิงกลางคนอีกคน... เธอดูแก่กว่าแม่ของวันวิสามาก

“นั้นลูกสาวรึ? วารินทร์... สวยเหมือนเธอเลยนะ รึอาจจะ...สวยกว่า... น่าอิจฉาเธอจริงๆ ...” จรรยาภรณ์กล่าวชมเมื่อได้เห็นลูกสาวของเพื่อน ท่าทางน่ารักๆ ทำให้เธอรู้สึกอยากมีลูกสาวกับเขาบ้าง แต่เธอมีแค่ลูกชายคนเดียวมาตลอด

“วันวิสา... มาสวัสดีคุณอา จรรยาภรณ์ แล้วก็รีบไปเตรียมน้ำหวานขนมอร่อยๆ ด้วยนะ” วารินทร์ออกคำสั่งหนักแน่น มิให้ลูกสาวเกิดพยศและเป็นม้ากระโดดกระเดกเหมือนสมัยเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ

“สวัสดีค่ะ คุณอาจรรยาภรณ์ วันนี้คุณอาพาลูกชายมาด้วยสินะคะ... เขายังรอคุณอาที่รถอยู่เลยค่ะ ถ้างั้น...หนูขอตัวก่อนนะคะ แม่สั่งแล้วอย่าขัด!!!” วันวิสายกมือไหว้ผู้มาเยือนให้สวยงาม และสุภาพมากที่สุด เมื่อกล่าวจบก็รีบเกทับวารินทร์ แล้วรีบเผ่นชิ่งออกจากตรงนั้น ราวกับเริ่มยกแม่ไม้มวยไทย จัดฝีปากปะทะดอกแรกของวัน

“น่ารักจริงๆ นะ ช่างเจรจา... ท่าทางลูกสาววา อาจจะปากร้ายกว่าฉันแล้วก็ได้” จรรยาภรณ์เกริ่นแซวหัวเราะ รู้สึกชอบอกชอบใจ ราวกับเคมีจะตรงกันกับหลานสาว ซึ่งเป็นลูกเพื่อนที่เคยรู้จักกันมานาน พวกเธอจากกันไปพอสมควรตั้งแต่จบการศึกษา

“หวังเพียงว่าลูกชายเธอจะปราบพยศลูกสาวฉันได้เสียทีนะ มันเป็นความผิดฉันเอง... เพราะแค่ไม่อยากให้แกต้องมาเหมือนฉัน...” วารินทร์กล่าวเสียงเศร้า เพราะตั้งแต่เธอท้องวันวิสามาจนท้องแก่ เพียงแค่ใกล้คลอด สามีก็ทิ้งเธอไปกับอีน้องหนูตามห้องคาราโอเกะ ในบาร์เหล้า...ทำให้เธอต้องเลี้ยงวันวิสามาให้แกร่งและไม่หลงคารถชายใดง่ายๆ

“เรื่องนั้นมันก็นานมาแล้วน่ะ ไอ้วา... ลูกชายฉันน่ะไม่รู้จะเอาอยู่หรือเปล่า... ท่าทางเรียบร้อย อย่างกับผ้าพับไว้... นิสัยลูกฉันเหมือนผู้หญิงมากกว่าจะเป็นผู้ชาย...แถมลูกสาวเธอนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าจะเป็นผู้หญิง... พวกเขาจะได้เริ่มต้นคบกันอย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่านะ...”

จรรยาภรณ์กล่าวอย่างคาดหวัง ทำให้สีหน้าของหญิงกลางคนซึ่งเป็นเพื่อนกัน ต้องเฝ้ามองพวกเขาสองคนในโอกาสถัดไป...

******