บท
ตั้งค่า

บรรยากาศมันพาไป

ญาณินได้ลงทะเบียนสมัครงาน เพื่อไปสอบสัมภาษณ์และเริ่มทำงานทันที บริษัทที่สมัครร่วมทำงาน มันเกี่ยวกับการขายอาหารเสริมสำหรับสุขภาพ และเป็นตัวใหม่ชื่อว่า บริษัท กู๊ดบอดี้ไลฟ์ จำกัด

เธอไม่ยอมให้เสียเวลาไปเปล่าๆ ไหนๆ เธอมีเวลามากเมื่ออยู่บ้าน มีแค่เวลาตอนเช้าและตอนบ่ายออกไปส่ง-ไปรับลูกเท่านั้น ณภัทรไม่ค่อยออกไปไกลบ้านอยู่แล้ว

หญิงสาวได้รับตำแหน่งหาพนักงานใหม่มาร่วมงาน เธอทำหน้าที่เป็นคนชักชวนคนเข้ามาทำงาน ประมาณหนึ่งว่าโฆษณาและเชิญผู้ที่สนใจมาทำงานร่วมด้วยกันนั้นเอง การทำงานในเวลาว่างยามนี้ เธอจึงเริ่มต้นอย่างไม่ลังเล

หลังจากตอนเช้าไปส่งณภัทรเข้าเรียนแล้ว ญาณินใช้เวลาตอนเช้าถึงบ่ายเพื่อนัดพบลูกค้าทำงานไปในตัว จนกว่าจะถึงเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง เพื่อไปรับลูกกลับมาบ้าน ทำอาหารให้ลูกอีกชม.กว่าๆ เพื่อออกไปทำงานต่อ... แม้ณภัทรจะคิดว่าแม่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ เธอหวังว่าณภัทรจะเข้าใจสักวันหนึ่ง

******

ญาณินนั่งอยู่ในตัวโรงแรมหรู เพราะลูกค้ารายหนึ่งนัดให้เธอมาคุยกับเขาได้ช่วงก่อนเที่ยง หญิงสาวจึงนั่งจัดแจงเอกสาร เพื่อโฆษณาชวนเขาสมัครงาน หรือไม่ก็ร่วมลงทุนกับบริษัท มันมีหลายตัวเลือกให้ลูกค้าเชียวล่ะ

“สวัสดีครับ ใช่คุณญาณินที่รับผมหรือเปล่าครับ?” เศวต เป็นลูกค้าค่อนข้างมีอายุเข้าเลขสี่ ท่าทางเขาเป็นคนยิ้มแย้มอารมณ์ดี ไม่น่าจะเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม ในสายตาของญาณินคิดว่าน่าจะชวนเขามาร่วมทำงานกับบริษัทเดียวกับเธอ

“ใช่แล้วค่ะ ญาณิน นะคะ... เชิญคุณนั่งลงค่ะ เราจะได้คุยกัน...” หญิงสาวได้ทำการอธิบายรายละเอียดมากมาย ทำให้สีหน้าของเศวตมองเธอไม่วางตา นัยน์ตาชายหนุ่มวัยเลขสี่ มองเธอเป็นประกายพร้อมยิ้มอย่างพึงพอใจในตัวหญิงสาวที่สวยงามคนนี้

“สนใจจะร่วมทำงานหรือลงทุนมั๊ยคะ?” เพียงญาณินเริ่มใช้คำถามทำให้ชายหนุ่มทำท่าทางบ่ายเบี่ยง เขาไม่เซ็นต์อะไรใดๆ ทั้งนั้น แต่เขาสนใจอยากจะชักชวนเธอไปทำอะไรอย่างอื่น ด้วยฝ่ามือเขาจับที่หัวเข่าเธอเบาๆ

แววตาหญิงสาวมองตอบเขาด้วยความระแวดระวัง อีแบบนี้เธอคงไม่เอาด้วยแล้วล่ะ ทำไมชวนคนมาสมัครงาน ทำงานสุจริตมันไม่ได้ง่ายเหมือนตอนเธอมีแรงบันดาลใจ อยากทำงานหาเงินเลี้ยงลูกนะ...

“ผมว่า เราอย่าไปเครียดจริงจังอะไรมาก ลองมาทำอะไรอย่างอื่นกับผมดีกว่ามั๊ยครับ?” เศวตยังคงเอียงคอเอนศีรษะ พร้อมเริ่มเลื่อนฝ่ามืออ้วนกลม กับตัวสั้นป้อมๆ เข้ามาใกล้ๆ ญาณิน หญิงสาวคิดว่าเธอคงอยู่ใกล้ด้วยไม่ได้แล้ว

พลางใช้สองมือกวาดเอกสารทั้งหมดเพื่อรวบในครั้งเดียว อีกแขนหิ้วกระเป๋าทำงานสีขาวส่วนตัวแนบกายทันที ต้องรีบลุกออกจากที่นั่งตรงนี้ แล้วหาทางตีจากก่อนจะถูกเขาครอบงำ

“ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนะคะ... ญาณินขอตัวไปทำงานติดต่อลูกค้าคนอื่นก่อนล่ะค่ะ.. สวัสดีค่ะ” หญิงสาวรีบเดินออกมาจนกระทั่งไปถึงประตูลิฟต์ สีหน้าชักไม่สู้ดีระหว่างสับรองเท้าส้นสูง ที่ไม่ได้ใส่มานาน ข้อเท้าเธอเริ่มบวมพลางพลิกซ้ายทีขวาที หญิงสาวเกือบจะเสียหลักล้ม

เพียงปลายนิ้วกดปุ่มลิฟต์และถอยออกมา ปลายตาเชิดมองสูง ว่าลิฟต์ตัวใดจะเปิดก่อน พอเสียงเตือนดังเล็กน้อยแผ่วเบา เธอรีบสับเท้าเดินหนีก่อนนายเศวตจะเดินมาตามเธอไปทำอะไรอย่างอื่น ซึ่งมิใช่ร่วมงานบริษัท

******

เป็นเพราะประหม่าในการทำงานวันแรก หรือเพราะไม่ชินกับรองเท้าส้นสูง ซึ่งไม่ได้สวมใส่มาเป็นเวลากว่าสี่ปี มันทำให้ญาณินเสียหลัก แทบจะสะดุดล้ม ทำให้ชายที่เพิ่งเดินออกจากลิฟต์ต้องใช้สองแขนประคองตัวเธอเอาไว้ ก่อนญาณินจะล้มกระแทกพื้น

“ขอโทษนะคะ... ฉันขอโทษ!!!” หญิงสาวมิทันได้มองว่าเธอไปเป็นภาระใคร ในระหว่างส้นรองเท้าติดอยู่ขอบประตูลิฟต์ จนทำให้เสียหลักล้ม เพียงเธอเงยหน้าขึ้นมองชายที่สูงกว่า กลับเป็นเด็กหนุ่มหน้าใส นวลเนียนจนไม่อาจละสายตา

ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อ พร้อมเครื่องแต่งกายทันสมัคร ราวกับนักเต้นหนุ่มไฟแรง เครื่องประดับระยิบระยับจนทำให้ร่างกายเธอรู้สึกตื่นตัว ญาณินลืมหายใจนิ่งอึ้งไปในทันใด เพราะเขายิ้มหวาน ด้วยแววตาที่เป็นมิตรมาก

“ไม่เป็นไรครับ พี่สาว ไม่เจ็บตรงไหนนะครับ” น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล แถมมารยาทดี ทำให้ญาณินรู้สึกเก้อเขินไม่มากก็น้อย แถมตัวเธอดันไปอยู่ในอ้อมกอดเขาเสียแบบนั้น

เรือนแก้มนวลถูกดันแนบอกอุ่น จากฝ่ามือชายหนุ่มหน้าตาดีดันศีรษะเธอพิงแนบอกเขาอย่างอบอุ่น หัวใจหญิงสาวผ่านการแต่งงาน เต้นระรัวอย่างบอกไม่ถูก

“ปล่อยพี่ได้แล้วค่ะคุณน้อง” ญาณินเริ่มใจสั่น ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย เมื่ออยู่ในอ้อมกอดเด็กหนุ่ม แทนที่เขาจะได้เดินออกจากลิฟต์ กลับต้องอยู่กับเธอตามลำพังในลิฟต์เสียเอง... ท่าทางเขาไม่ลุกลี้ลุกลนจะเดินออกไปเสียด้วย...

“เอ่อ... ผมขอโทษครับ กลัวพี่จะล้มผมก็เลยเผลอกอดเอาไว้” ท่าทางเขาตกอกตกใจเล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ้งรอยยิ้มหวาน แบบเด็กหนุ่มอารมณ์ดี หญิงสาวมองดูชั้นลิฟต์มันไม่ได้ลง แต่กำลังขึ้น...

“เมื่อกี้พี่ขอโทษนะ ทำให้น้องไม่ได้ออกไปชั้นเดิมเลย” ญาณินรู้สึกเขิน และไม่กล้ามองหน้าเขาอีก แต่เขากลับยิ้มหวานและตอบอย่างสบายใจ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด

“เมื่อกี้ผมไม่ได้เดินออกครับ แต่เห็นพี่จะล้ม ผมก็เลยแค่รับ... เดี๋ยวจะถึงชั้นที่ผมอยู่แล้วครับ” หนุ่มน้อยตอบหน้าตาเฉย ปกติมากจนต้องปล่อยสองมือตัวเองล้วงกระเป๋าไม่ให้มือว่าง

ญาณินพยายามรักษาระยะห่าง เธอไม่ควรไปทำอะไรแบบนั้น คงเป็นเพราะห่างจากการทำงานมานาน แค่รองเท้าส้นสูงขอตัวเอง ยังจะเดินเท้าพลิกได้อีก... แย่จริงๆ เลย หญิงสาวตำหนิตัวเอง

“อ๊ะ..ถึงแล้ว พี่ไปดื่มน้ำที่ห้องผมหรือเปล่าครับ? ผมเลี้ยง แล้วค่อยลงไปก็ได้...” หนุ่มน้อยเปิดประตูลิฟต์ค้างไว้ ชักชวนเธอให้เดินไปกับเขา อย่างน้อยเขาก็ได้มีเจตนาดี เป็นมิตรกับเธอในครั้งแรกที่ได้พบ

“ไม่หรอกค่ะ พี่ต้องไปทำงาน...”

“แปบเดียวเอง นะครับ...” หนุ่มน้อยยิ้มหวาน ขอชวนเธออีกระรอบเพื่อเลี้ยงน้ำ ท่าทางเธอคงจะทำงานเหนื่อย และเขาก็อยากจะช่วยเหลือเธออีกสักนิด...

แววตาหนุ่มน้อยมองเธออย่างสนใจ เพราะท่าทางเธอ บุคลิกดี และเขาก็ชอบหญิงสาวหน้าตาดูดี ยิ่งไปกว่านั้น เธอสุภาพกับเขาด้วย มันทำให้เขาอยากคุยกับเธอนานขึ้น... หลังจากไปเจอเพื่อนเส็งเคร็งปากอมหมา จนทำให้เขาต้องเผ่นกลับห้อง มาเจอนางฟ้าหน้าลิฟต์คนนี้...

“อืม... ก็ได้ค่ะ พี่ก็อยากชวนน้องคุยเหมือนกัน” ญาณินถือโอกาสลองชวนเด็กหนุ่มมาสมัครงาน ไม่ก็ชวนมาลงทุนกับบริษัท กู๊ดบอดี้ไลฟ์ เสียเลย

“เชิญครับ...” หนุ่มน้อยจึงเผยมือเชิญให้ญาณินจับมือเขา เดินออกจากลิฟต์ไปด้วยกัน เพื่อไปคุยกันตามลำพังในห้องพักหรูในโรงแรม...

“ท่าทางน้องจะมีฐานะดีนะ”

“แน่นอนครับ พ่อผมเป็นคนเกาหลี ท่านส่งผมมาเรียนหนังสือ และผมก็ชอบรับงานเต้นกับพวกดารานักร้อง ตอนนี้ก็รับงานเดินแบบด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มตอบเต็มปากเต็มคำ พร้อมใช้แขนซ้ายโอบกายญาณินเอาไว้ ราวกับไม่ให้หลุดมือ

“แล้วแม่ล่ะคะ? พูดไทยชัดมากเลย” ญาณินรู้สึกขัดเขิน เพราะเด็กหนุ่มคนนี้ หน้าตาคล้ายๆ พรีเซ็นเตอร์ยี่ห้อมือถือดัง แต่คงไม่น่าใช้คนเดียวกัน ยิ่งเธอพยายามจะตีตัวออกห่าง เขาก็ยิ่งใช้แขนโอบเธอให้แนบแน่น...

ใจหญิงสาวเต้นระรัว เพราะเธอแต่งงานอยู่ก่อนแล้ว มีลูกชายตั้งหนึ่งคน ดันมาถูกชายอื่นโอบกอดตอนนี้ เธอกำลังจะปั่นใจให้ชายอื่น หรือมีชู้งั้นรึ?

“แม่ผมเป็นคนภาคกลาง ก็นานๆ จะพบท่านสักครั้ง... ทำงานเหมือนพี่สาวแหละครับ มันเลยทำให้ผมอยากมีเพื่อนคุย” เขายังคงมารยาทดีพลางหยิบกุญแจห้องพักมาเปิด

******

ภายในเป็นห้องสูทสวยงาม ห้องส่วนตัวของเขาซึ่งพ่อเขาได้ทำการซื้อเอาไว้ให้พัก พร้อมเรียนหนังสือ จะว่าไปเขาเพียบพร้อมขนาดนี้ คงไม่ต้องชวนมาสมัครงาน น่าจะชวนมาลงทุนกับบริษัทเธอเสียมากกว่า ญาณินคิด...

“จะลองฟังพี่คุยเรื่องงานที่พี่ทำมั๊ยคะ?” ญาณินถือโอกาสแต่ทว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้สนใจเอกสารในมือเธอ

ชายหนุ่มใช้มือหนาปัดเอกสารหล่นกองแทบพื้น หลังจากปิดประตูลงกลอนล็อคห้องได้ เขาอยากเชยชมหญิงสาวที่สุภาพ มารยาทดี และยิ่งไปกว่านั้น เขายังไม่ได้นอนกับใครมาเกือบอาทิตย์แล้ว

“ผมอยากฟังเสียงพี่แบบอื่นมากกว่า... มากับผมเถอะนะ...” เขาทำเสียงแผ่วกระซิบข้างหูญาณิน สองแขนโอบรอบสีข้างเอว มันทำให้เขารู้สึกว่าเธออวบอิ่ม อบอุ่น และน่ากอดมากกว่าตอนอุบัติเหตุในลิฟต์

“เดี๋ยวนะ นี่หมายความว่ายังไง พี่ยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย” ญาณินรู้สึกตกใจนี่มันอะไรกัน ไหนว่าจะเลี้ยงน้ำและนั่งคุยกันเฉยๆ เธอตั้งใจจะชวนเขาสมัครงาน แล้วฉไนมาเป็นแบบนี้?

“มาเถอะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่ต้องชอบผมแน่ๆ” สายตาเขาเริ่มยิ้มตามริมฝีปากหวานแดงระเรื่อ และมือหนาอุ่น มันจูงมือเธอซึ่งกำลังเย็นเฉียบและเต็มไปด้วยเหงื่อ

เพราะแอร์ภายในห้องพักเขา เริ่มทำงานและมันก็เริ่มส่งความเย็นมากขึ้นไปทุกที เพียงเขาลากร่างญาณินเดินตามเขาไปในห้องถัดไป พบกับประตูห้องซึ่งแง้มเอาไว้อยู่ ชายหนุ่มใช้แขนอีกข้างผลักออก และดันร่างเธอเข้าไป

 

ยามนี้ญาณินอยู่ในห้องนอนซึ่งมีเพียงใหญ่ กับภาพวิวเบื้องหน้าเป็นกระจกใสหนากันแรงลมของตึกโรงแรมนี้เบื้องหน้า... หญิงสาวรู้สึกเริ่มขาสั่น นึกอยากจะเดินหนีออกไปทันที เวลานี้มันใกล้จะเที่ยงแล้ว เธอยังต้องกลับไปรับณภัทร

“ให้พี่กลับออกไปเถอะนะ...อุ๊บ...” หญิงสาวต้องยกมือป้องปากทันที เมื่อหันกายกลับมา เขากำลังเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวสีดำ เรือนกายหนุ่มขาวนวล หุ่นดี แบนราบมีซิกแพ็ค

หนุ่มน้อยที่เนื้อตัวสดใส แต่แววตาเขาไม่ต่างกับหมาป่าที่ช่ำชองเรื่องการหาเหยื่อ อย่างเนื้อแกะเช่นเธอ... นี่ญาณินไม่ได้ออกสู่โลกภายนอกมาแค่ไม่กี่ปี เดี๋ยวนี้พวกล่าสวาทหญิงสาวมิใช้พวกอายุเลขสี่แล้วรึ?

“มาเถอะครับ... พี่ควรพักผ่อนและผ่อนคลายเสียบ้าง ผมจะช่วยพี่เอง...นะครับ” น้ำเสียงของเด็กน้อยพยายามสะกดเธอให้เชื่อฟัง พร้อมเดินเข้ามาใกล้ญาณินเพียงแค่สองก้าว

เธอควรจะขัดขืน หรือถือโอกาสล้างแค้นเขมทัต... ในขณะที่สายตาของเธอจดจ้องมองเขา ราวกับใช้ความคิดครุ่นคิด... โอกาสมาถึงมือเธอเองแล้ว...

******

 

 

มือชายทั้งสองกอดร่างหญิงสาวเบื้องหน้าเอาไว้แนบกาย เขารู้สึกดียามเมื่อได้สูดกลิ่นเรือนผมของเธอเอาไว้ เรือนกายสะอาด ไร้กลิ่นบุหรี่และแอกอฮอร์ ท่าทางพี่สาวคนนี้คงจะดูแลตัวเองมาอย่างดี...

“ผมยังไม่รู้ชื่อพี่เลยครับ...” เรียวจมูกโด่งเด็กหนุ่มกำลังซุกเข้าซอกคอเธอ สูดกลิ่นกายเธอให้เต็มปอด หวังปลุกอารมณ์ชาย พร้อมสองแขนกอดเธอเอาไว้แนบแน่น...

“ญะ...” ญาณินเกือบจะหลุดปากชื่อตัวเอง เธอคงไม่อยากทำเรื่องแบบนี้ราวกับจงใจนอกใจสามี จึงคิดเสียว่า เธอน่าจะมีชื่อเรียกอื่น ที่ไม่ใช่ชื่อจริงหรือชื่อเรียก เธอควรจะทำแบบเดียวกับเขมทัตเสียบ้าง ถ้าไม่เพราะเขา เธอคงไม่มาถึงจุดนี้

“ผมชื่อ โย ฮัน ซุง พี่ล่ะครับ?” มือเขาค่อยเปลี่ยนจากสวมกอดมาปลดกระดุมเสื้อสูท และหาจุดถอดเสื้อผ้าเธอต่อไป โดยญาณินมิได้ปฏิเสธ เธอยังคงปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ

ไม่ใช่เธอชอบหรือรังเกียจ แต่เพราะเหงามากกว่าตั้งแต่ถูกทิ้งให้เลี้ยงลูกอยู่บ้านหลายปี ทั้งโดดเดี่ยวและเหงามาก เมื่อเขมทัตไม่เคยใยดีกับเธออีกเลยเรื่องบนเตียง เรื่องในวันนี้ มันเหมือนความฝัน ราวกับส้มหล้นเพื่อเธอชัดๆ

“เรียกพี่ว่า -เรญ่า- ก็พอนะ” เธอนึกชื่ออะไรไม่ออก เพราะความอบอุ่นจากเด็กหนุ่มมันทำให้เธอหัวหมุนคว้างไปหมดแล้ว อยากให้เขาช่วยปลดปล่อยอารมณ์ที่ตึงตัน อึดอัดที่แสนเปลี่ยวนี้ไปเสียที... นานเหลือเกินแล้ว เธอไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย...

ปล่อยให้อารมณ์พาไป กับเด็กหนุ่มที่พึ่งเจอกันเพียงแค่ไม่ถึงสิบนาที มันคงไม่ต่างอะไรกับเขมทัตที่พยายามหาสาวคนใหม่ มาเสพสุขโดยไม่มีเธอในใจเขา... เธอคงต้องทำตัวเป็นสาวนิรนาม เพื่อปลดความทุกข์ในใจหนีสามีตัวเอง...

******

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel