มีนอกมีใน

​

เสียงเครื่องยนต์รถส่วนตัวของบิดาดังมาแต่ไกล กับเสียงประตูรั้วเปิดดังรำไร ปล่อยให้ตัวรถยนต์ซูบารุสีฟ้ากลับเข้ามาเพียงคันเดียว วรัสยาปิดไฟในห้องนอน ทำให้พ่อเห็นเงยหน้ามาเห็นว่า ห้องนอนลูกสาวปิดไฟมืดสนิท เป็นเด็กดีนอนแต่หัวค่ำ เพื่อพรุ่งนี้เตรียมตัวไปเรียนตามปกติ

ชายหนุ่มในวัยทำงานค่อนข้างอารมณ์เปลี่ยวเหงา หลังจากคุณ เจิมศักดิ์ วรโชติอิงคนันท์ ทำงานหนักมาเป็นอาทิตย์ไม่ได้ทำการบ้านกับภรรยาซึ่งทำงานอยู่คนละแห่ง เขาจึงสบโอกาสหาอะไรทำระหว่างรอภรรยาชวนมาเล่นจ้ำจี้

เพราะถึงยังไงสาวสวยในที่ทำงาน แสดงอาการเชิญชวนให้เขาพามาบ้าน เพื่อได้เสพสวาทกันเพียงลำพังโดยไร้คนสงสัย หญิงสาวผมยาวหุ่นดีราวกับโมเดล ถูกชายหนุ่มวัยทำงานโอบกอดเพื่อพาเข้าไปในบ้าน

ยิ้มแย้มหัวเราะสอดประสาน พลางเดินไปยังเพียงห้องที่ต้องการ คือห้องสำหรับทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ วรัสยานอนขลุกอยู่บนเตียงห่มผ้าเรียบร้อย นอนหลับตาปิดอยู่ในความมืด

เพียงเสียงลูกบิดประตูดังรำไรแผ่วเบา พร้อมกับแสงไฟนอกห้องนอนทแยงแสงเข้ามา ปลายตาของเจิมศักดิ์มองดูลูกสาวนอนหลับอย่างสงบ เขามั่นใจว่าเด็กสาวนอนหลับในยามห้าทุ่มแล้ว จึงค่อยๆ ปิดประตูให้เบาที่สุด เพื่อปล่อยให้ลูกสาวนอนหลับต่อไป

แต่วรัสยามิได้หลับอย่างที่เขาคิด เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตัวเอง พลางย่องไปที่ประตูห้องนอน แนบหูข้างหนึ่งเพื่อแอบฟังเสียงฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่

เสียงหัวเราะของเจิมศักดิ์แทรกสลับกับเสียงหญิงที่สาวกว่าแม่เธอ ทั้งคุยหยอกล้อและหัวเราะคลอตลอดเวลา จนกระทั่งเสียงประตูห้องนอนปิด วรัสยาค่อยๆ แอบเปิดประตูห้องนอนตนแผ่วเบา พลางย่องเงียบให้เบาที่สุด

หัวใจเด็กสาวรู้สึกตื่นเต้นโครมคราม เวลาได้แอบดูหนังสดของพ่อกับหญิงสาวคนอื่น เป็นเวลาที่เธอชอบทำที่สุด มันทำให้เธอรู้สึกเสียวสยิวภายในกายตน และอยากจะทำอะไรแบบนั้นกับธนวิชญ์บ้าง

การได้เล่นอะไรสนุกๆ และเสียวซ่านแบบนั้น ทำให้เธออารมณ์ดีและคลายเก็บกดความเครียด มือเด็กสาวค่อยๆ พยายามบิดประตูห้องนอนเบื้องหน้าเบาๆ แต่มันกลับล็อคเสียแน่น ทำให้เด็กสาวรู้สึกเสียอารมณ์ไปเล็กน้อย

วรัสยาหาทางใหม่ ค่อยแนบหูกับประตูห้องนอนพ่อเบาๆ เพื่อขอฟังเสียงภายในก็ยังดี กลับได้ยินเสียงแผ่วๆ อะไรบางอย่าง ซึ่งกำลังทำร่วมกันมันเบามากเสียเธอพยายามเงียบ พลางเม้มปากเพื่อขอตั้งใจฟังเสียหน่อย

******

สักพักได้วรัสยาเริ่มจะได้ยินเสียงบางสิ่ง ของดังตบกระทบกัน มันทั้งดัง ทั้งเร็ว และมันก็เริ่มค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงครวญครางของหญิงสาวร้องสอดประสาน กับเสียงตบเนื้อดังเป็นจังหวะรัวๆ เร็วๆ

วรัสยาเม้มปากกัดฟัน หัวใจเต้นโครมคราม พลางจินตนาการว่าพ่อคงกำลังจะกระเด้าสะโพกใส่หญิงสาวที่หิ้วกลับมาบ้าน ด้วยท่าทางใดสักท่าหนึ่ง

เธอตั้งใจฟังเสียงดังนั้นตลอดเวลา พลางนึกอยากจะบิดประตูเปิดแง้มดู พลันไปเห็นขอบประตูด้านล่างซึ่งมีแสงไฟภายในเล็ดลอดออกมา เห็นเงาสะท้อนจากพื้นกระเบื้อง พบเงาไหวๆ ของชายหญิง มีกิจกรรมบางอย่าง

พ่อเธอยืนอยู่ขอบเตียง กำลังดันสะโพกรัวๆ ใส่ก้นกลมของหญิงสาวที่หิ้วมาด้วย และเธอนอนหน้าคว่ำเข้าปลายเตียง แอ่นก้นกลมให้อย่างยินยอม

เรือนสะโพกสาวสวยกำลังถูกตบตีด้วยท่อนเนื้อยาวยวงหนึ่ง หลังจากนั้นท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบิดา กำลังอวบอิ่มกลมหนาแทงเข้าไปในกายหญิงสาวแรงๆ และเร็วๆ ภาพซึ่งสะท้อนมาจากแผ่นกระเบื้องปรากฏอยู่รำไร

เด็กสาวคิดว่าพ่อของเธอกำลังดำเนินกิจกรรมนี้ ใกล้เสร็จและคงจะเดินออกมาใช้ห้องน้ำ วรัสยารู้สึกได้ว่า ภายในท้องน้อยเธอบิดมวนแทบจะหลั่งสายธารน้ำหล่อลื่น ออกมาเปียกฉ่ำภายใต้กางเกงชุดนอน มันเย็นแฉะและหยาดเยิ้ม ดันมาเกิดอารมณ์ตอนพ่อใกล้จะเสร็จ

วรัสยาจึงรีบย่องเบาออกมาจากหน้าห้องนอนของพ่อ เพื่อกลับไปยังห้องนอนตัวเองแกล้งหลับต่อไป แต่คงจะไม่มีทางข่มตาหลับลงได้ นอกเสียจากต้องทำการสำเร็จความใคร่อีกครั้ง พลางขมิบช่องสวาทให้เสร็จเสียว

นึกอยากจะดอดออกปีนหน้าต่าง ไปหาธนวิชญ์ในค่ำคืนนี้ เพื่อขอแอบมีเซ็กซ์กับเขาก่อนนอนเสียจริงๆ นานๆ สักครั้งจะมีโอกาสได้เสียกับเขาภายในห้องนอนเขาบ้าง มันคงจะทำให้เธอนอนหลับเป็นสุขได้มาก หากได้เขามาอยู่ด้วยกันคืนนี้...

หลังจากเสร็จกิจกรรมแสนเสียว เจิมศักดิ์หิ้วพนักงานสาวสวยมาได้เสียกันที่บ้าน พวกเขารีบอาบน้ำกันอย่างรวดเร็ว และรีบพาเธอออกไปจากบ้านให้ไวที่สุด ก่อนภรรยาสาวจะกลับมาพบเสียก่อน วรัสยารู้นานแล้วว่าพ่อทำแบบนี้ลับหลังแม่นานแค่ไหน

เธอแอบสงสัยว่า ทำไมแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้พ่อของเธอแบบนี้บ้างนะ วรัสยานึกสงสัยอุปนิสัยของพ่อแม่ตัวเอง หลังจากสำเร็จความใคร่ด้วยนิ้วมือตัวเองไปอีกระรอบ บนเตียงนอนของตัวเองในความมืด ความเหนื่อยและความเพลีย ทำให้เด็กสาวเข้าสู่ภวังค์หลับไปในที่สุด ยามหลังเที่ยงคืน

******

รุ่งเช้าที่วุ่นวายหลังตะวันขึ้นขอบฟ้า วรัสยาแต่งชุดม.ปลายเพื่อไปเรียนตามปกติ เช้านี้เธอไม่อยากลุกขึ้นตื่นเลยจริงๆ แต่แม่กลับมาปลุกเสียงดุดัน ค่อนข้างอารมณ์เสียราวกับมีเรื่องไม่พอใจ แต่เธอไม่รู้ว่าแม่อารมณ์เสียเรื่องอะไร

เด็กสาวสังเกตสีหน้าพ่อของตน ค่อนข้างหวาดระแวงแม่และทำตัวนิ่งเงียบสงบ ราวกับอยากจะปกปิดเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่า? หรือว่าแม่เริ่มจะสงสัย แต่วรัสยาทำได้เพียงแค่กล่าวทักทายพ่อและแม่ รีบคว้านมสักแก้ว แล้วเผ่นออกจากบ้าน

มันเป็นวันไปเรียนตามปกติเหมือนกับทุกๆ วัน ซึ่งวรัสยาต้องเดินทางไปกับธนวิชญ์ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวของพ่อเขา ทำให้วรัสยาต้องประพฤติตัวเรียบร้อย ไม่ให้เป็นพิรุธระหว่างธนวิชญ์กับวรัสยา ว่าทำอะไรด้วยกันมาหรือเปล่า

“วันนี้วิชญ์กลับมาบ้านกันเองกับน้องเจนได้นะ พ่อคงไม่ไปรับ” ธนิก กล่าวกับลูกชายน้ำเสียงอารมณ์ดี ทำให้ธนวิชญ์รู้สึกว่า วันนี้พ่ออารมณ์ดีกว่าปกติ

“มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ?”

“เปล่าหรอก พ่ออารมณ์ดีน่ะ วันนี้พ่อกลับช้าหน่อยนะ ถ้าเย็นนี้น้องเจนไม่มีอะไรทาน ก็ชวนเขามาทานข้าวที่บ้านได้นะ ในตู้เย็นมีอาหารเยอะเลย”

ธนิกบอกให้ลูกชายปฏิบัติและดูแลลูกสาวเพื่อนบ้าน ราวกับวรัสยาจะเป็นสมาชิกในครอบครัวไปด้วย เพราะความสนิทสนมเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกันมานาน

“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” วรัสยากล่าวสุภาพ ทำให้ธนวิชญ์รู้สึกว่า เหมือนถูกมัดให้กลายเป็นแฟน ทั้งๆ ที่เขาคิดว่า วรัสยาเป็นเพียงแค่เครื่องปลดอารมณ์ ในความคิดวรัสยาแล้ว เธอแค่อยากเล่นสนุกกับธนวิชญ์เท่านั้นเอง

พ่อแม่ของเธอกับพ่อแม่ธนวิชญ์ ไม่ได้สงสัยในความสัมพันธ์ที่พัฒนาของธนวิชญ์กับวรัสยาเลย พวกเขายังคงทำตัวปกติต่อหน้าพ่อแม่ มิให้ได้ล่วงรู้เลยว่าพวกเขาลักลอบมีเซ็กซ์กันมานานแค่ไหนแล้ว

******

“บอกฉันมานะ ไปแอบเอาสาวที่ไหนมานอนบนเตียงหรือเปล่า? ห้องนอนมันมีกลิ่นแปลกๆ?” ศุภารมย์ วรโชติอิงคนันท์ เป็นทั้งแม่ของวรัสยา และเป็นภรรยาของเจิมศักดิ์ เธอรู้สึกสงสัยเรื่องสามีตัวเอง หลังจากกลับมาบ้านเมื่อวาน พบว่าห้องนอนมันมีความผิดปกติ

“คุณทำงานห้างฯ จนดึก จำกลิ่นผิดหรือเปล่า? ผมกลับมาบ้านทีหลังคุณนะ” เจิมศักดิ์แก้ตัวน้ำขุ่นๆ เขาฟาดพนักงานสาวเข้าบริษัทมาใหม่ๆ อย่างหน่ำใจ พร้อมตกเงินรางวัลให้เธอไปแล้วเป็นค่าปิดปาก คงเป็นเพราะความรีบร้อนจึงทำลายหลักฐานไม่หมด

“ไม่นะ...” ศุภารมย์ขมวดคิ้วหนิ่วหน้าอย่างสงสัย เพราะไม่อาจจำได้คาหนังคาเขา ความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในใจ เธอมั่นใจว่าสามีของเธอแอบนอกใจ และแอบมีเมียน้อยที่ไหนสักแห่ง โดยเฉพาะแอบหิ้วมาบ้านตอนเธอไม่อยู่

“อย่าคิดอะไรแย่ๆ แบบนั้นสิ โดยคนที่ทำงานเป่าหูมาล่ะสิ” เจิมศักดิ์เนียนสวมรอยตอกกลับ ว่าเธอกลายเป็นคนหูเบาเชื่อคนนอกบ้าน ยุให้คนในครอบครัวแตกกัน เพื่อบ่ายเบี่ยงมิให้ศุภารมย์สงสัยในตัวเขามากเกินไป

“เปล่านะ... ก็กลิ่นในห้องนอนมันแปลกๆ ฉันก็อยากจะถาม...” ศุภารมย์แย้งกลับ เธอไม่อยากเชื่อคำพูดของสามี เพราะมันทำให้เขากลายเป็นคนใสสะอาด

ทั้งๆ ที่เจิมศักดิ์ทำตัวมีพิรุธมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นภายในรถยนต์ของสามี มีกลิ่นแปลกๆ แบบนี้ เป็นกลิ่นเดียวกับบนเตียงนอน ซึ่งเธอนอนดมทั้งคืน

“บางที เราอาจจะไม่ได้ทำการบ้านนานแล้ว ก่อนไปทำงาน สักสิบนาทีก่อนเลยเป็นไง...” เจิมศักดิ์คิดว่าคงจะต้องหาทางเผด็จศึก เปลี่ยนเรื่องขี้สงสัยของภรรยา ให้กลายเป็นเรื่องเสียว บ่ายเบี่ยงการถูกสอบถามเพื่อชวนทะเลาะของภรรยา

“ฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกค่ะ ต้องขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ศุภารมย์กล่าวสุภาพ พลางหยิบกระเป๋าส่วนตัวพร้อมกุญแจรถเดินเผ่นหนี เธอไม่อยากให้เขาละลาบละล้วงบางอย่างที่เปลี่ยนไป...

จากเริ่มแรกเดิมทีไล่ต้อนถามเขาเพื่อคลายเรื่องที่สงสัย เธอต้องรีบหนีจรลีออกจากจุดนั้น เพราะไม่อยากให้สามีสงสัยในตัวเธอเหมือนกัน ว่าทำไมกลับมาบ้านช่วงเที่ยงคืนเกือบทุกๆ คืน

“นึกว่าอยากจะสอบสวนผมต่อ เห็นทีต้องไปทำงานเหมือนกัน” เจิมศักดิ์กล่าวยิ้มแย้ม มิได้สงสัยอะไรในตัวภรรยา เพราะเธอตั้งอกตั้งใจทำงาน เพิ่มเวลาโอที มีเงินมากมายจากการขยันทำงาน ทำให้เจิมศักดิ์ได้มีโอกาสใช้เงินเก็บของภรรยาไปบ้างบางส่วน และเธอก็ช่างเป็นภรรยาที่แสนดี แม้จะขี้สงสัยในบางครั้ง

ตัวรถยนต์ฟอร์ดสีแดง ขับเคลื่อนออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ เนื่องด้วยใกล้เวลาจะเข้าทำงานแล้ว เธอไม่อยากไปสาย และยิ่งไปกว่านั้น... เกรงว่าการหาเรื่องฟ้องหย่ากับเจิมศักดิ์จะไม่ราบรื่น

หากเจิมศักดิ์ล่วงรู้ว่าเธอแอบมีชู้ในที่ทำงาน แถมเป็นฝรั่งอึดถึกทน แข็งแรง ขยันกระเด้าใส่เธอได้สองสามยกติดๆ กัน เขาทำให้เธอมีความสุขได้มากกว่าอยู่กินกับเจิมศักดิ์มาหลายปี

ขอเพียงแค่เธอจับได้ว่าเขาแอบมีเมียน้อยเท่านั้น การฟ้องหย่าจะราบรื่น และเมื่อนั้นเธอจะขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูวรัสยา พร้อมขายบ้านทิ้ง ย้ายตัวเองออกจากเมืองไทย ไปอยู่ที่เปอร์โตริโก้ กับสามีฝรั่ง ซึ่งศุภารมย์แอบได้เสียกับชู้ฝรั่งกันมาได้สามเดือนกว่าแล้ว

******

​