ตอนที่ 6 หม่อมฉันไม่ต้องการแท่งหยกอันนั้น (2)
ตอนที่ 6 หม่อมฉันไม่ต้องการแท่งหยกอันนั้น (2)
ในที่สุดประตูห้องครัวเปิดออกมาเสียที ทุกคนเห็นดังนั้นจึงพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เห็นว่าพระชายายังปลอดภัยดี
“อาหารของข้าแบ่งไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือพวกเจ้าแบ่งกันกินได้เลยข้าไม่หวง แต่อาจจะรสเผ็ดสักหน่อย ทางที่ดีเตรียมน้ำดื่มไว้ข้างตัวด้วย” นางบอกกับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ส่วนไก่และหมู แบ่งมาให้ข้าจานเดียวก็พอ ที่เหลือพวกเจ้าเอาไปแบ่งกันกินได้เลย แล้วเย็นนี้ข้าอาจจะมาทำครัวปรุงอาหารมื้อเย็นอีกครั้ง อ้อ...ถ้าไม่อยากหัวหลุดออกจากบ่า ก็อย่าเอ่ยถึงเรื่องที่ข้าทำอาหารเอง”
“เพคะ” นางกำนัลทุกคนก้มศีรษะรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง
“มันจะดีหรือเพคะ” ลี่เอ๋อร์ได้ยินก็รีบแย้งขึ้นมา นางเห็นว่าไม่เหมาะที่นางกำนัลอย่างพวกนางจะกินอาหารที่พระชายาลงมือทำด้วยตนเอง
ความจริงเรื่องงานในครัว นางไม่อยากให้พระชายาแตะต้องด้วยซ้ำ เนื่องจากงานพวกนี้เป็นงานชั้นต่ำ ไม่เหมาะกับตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋องเลย
“มันจะดีหรือไม่ อยู่ที่ข้าตัดสินใจ ข้าบอกว่าดี มันต้องดี หรือพวกเจ้าอยากขัดคำสั่งข้า รีบยกอาหารไปเถอะ” หนิงหว่านซูรู้ดีนางกำนัลไม่กล้าขัดคำสั่งนาง จึงส่งเสียงดุ ก่อนจะเดินกลับห้องไปเพื่อรอกินอาหาร
“พวกเจ้าได้ยินแล้วหรือไม่ รีบยกอาหารส่วนของพระชายาไปถวาย แล้วที่เหลือพวกเจ้าก็แบ่งกันกินได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมแบ่งให้ข้ากับนางกำนัลเสียนด้วยล่ะ” ลี่เอ๋อร์รีบสั่งออกไป แม้ไม่อยากทำอะไรที่ผิดธรรมเนียม แต่กลิ่นอาหารช่างหอมยั่วยวนใจเหลือเกิน
“เจ้าค่ะ นางกำนัลลี่” นางกำนัลที่มีหน้าที่ในครัวรีบตอบรับอย่างยินดี ก่อนจะแบ่งหน้าที่กันทำอย่างรีบเร่ง โดยกลุ่มหนึ่งยกอาหารตามนางกำนัลคนสนิททั้งสองคนมาที่เรือนของพระชายา
ย้อนกลับมาก่อนหน้านี้
หยางเฟยหลงหรือชินอ๋อง หลังจากพักผ่อนแล้วจึงเดินออกมานั่งเล่นในสวน พร้อมกับจิบชาเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า ทว่ากลิ่นเนื้อย่างกลับลอยมาเตะจมูก จนต้องถามองครักษ์ถึงที่มาของกลิ่น
“เรือนใดทำอาหารได้หอมขนาดนี้” อ๋องหนุ่มถามพร้อมกับมองหา
“กระหม่อมจะรีบไปดูให้พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ฉินตอบอย่างนอบน้อม ก่อนจะกระโดดหายไป
ไม่นานก็กลับมารายงานอย่างที่เห็น “เป็นเรือนของพระชายาหนิงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นพระชายาเข้าครัวปรุงอาหารเอง แล้วด้านนอกก็ให้นางกำนัลช่วยกันย่างหมูและไก่ กลิ่นเลยโชยมาถึงที่นี่ ท่านอ๋องจะให้กระหม่อมไประงับการย่างเนื้อหรือไม่ พ่ะย่ะค่ะ”
“นางปรุงอาหารด้วยตัวเองเช่นนั้นหรือ” หยางเฟยหลงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คาดคิดว่าพระชายาที่คอยแต่จะสร้างเรื่อง จะลุกขึ้นมาปรุงอาหารด้วยตัวเอง “แปลก ช่างแปลกเหลือเกิน”
“เช่นนั้นกระหม่อมขอไปดูเองเพื่อความแน่ใจนะพ่ะย่ะค่ะ” ฉางกงกงกล่าวจบก็ไม่รอช้า รีบก้าวเท้ายาว ๆ เดินออกมา แล้วตรงไปที่เรือนของพระชายาหนิง และเมื่อมาถึงกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยมาเตะจมูกจนเคลิ้ม
ฉางกงกงยืนแอบมองอยู่พักใหญ่ เมื่อได้ยินพระชายากล่าวกับนางกำนัลว่าอาหารนั้นให้แบ่งกันกินได้ เขาจึงยิ้มอย่างดีใจ เพราะยามนี้ท้องเขาร้องแล้ว ‘อาหารที่พระชายาทำนั้นช่างหอมเหลือเกิน’
เมื่อได้ยินว่าอาหารที่เหลือสามารถแบ่งกันกินได้ พอพระชายาเดินจากไปแล้ว เขาจึงรีบออกมาจากที่ซ่อน แล้วออกคำสั่งกับนางกำนัล
“จัดอาหารให้ข้าด้วยหนึ่งสำรับ ข้าจะเอาไปให้ท่านอ๋องลิ้มลอง” ต่อให้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะเสวยหรือไม่ แต่เขาต้องให้จัดสำรับเอาไปไว้ก่อน
พอได้ยินเสียของฉางกงกง เหล่านางกำนัลต่างพากันตกใจ แต่รีบที่จะจัดอาหารให้หนึ่งสำรับ เนื่องจากฉางกงกงผู้นี้คือกงกงที่ดูแลจวนชินอ๋องแห่งนี้
ไม่นานฉางกงกงก็เดินกลับมายังเรือนส่วนตัวของชินอ๋อง โดยมีนางกำนัลยกสำรับอาหารตามมาเงียบ ๆ
“นั่นเจ้าเอาอะไรมาด้วยหรือ ฉางกงกง” หยางเฟยหลงเห็นมีนางกำนัลเดินถือถาดอาหารตามฉางกงกงเข้ามา จึงถามออกไป
“สำรับอาหารที่พระชายาปรุงขึ้นพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องจะลองเสวยดูหรือไม่ พ่ะย่ะค่ะ”
ฉางกงกงตอบกลับไป และไม่รอช้ารีบโบกมือให้นางกำนัลที่ยกสำรับอาหารไปวางตรงหน้าชินอ๋อง เมื่อวางเสร็จแล้วนางกำนัลก็รีบเดินออกไป
“อาหารพวกนี้ช่างดูแปลกตายิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าแต่ละอย่างเรียกว่าอย่างไร” หยางเฟยหลงมองอาหารตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เพราะอาหารหลายจานนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ดูน่ากินเหลือเกิน จึงถามออกไปด้วยความอยากรู้
“กระหม่อมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ท่านอ๋องจะลองไปถามกับพระชายาเองดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”
ความจริงแล้วฉางกงกงต้องการลิ้มรสอาหารพวกนี้เองต่างหากล่ะ จึงอยากจะให้ท่านอ๋องไปที่เรือนของพระชายา
เพราะหากท่านอ๋องรับประทานอาหารที่นี่แล้วไม่เหลือให้เขาลิ้มลองสักหน่อย คงแย่เหมือนกัน
“เช่นนั้น ข้าจะไปเรือนพระชายา!!”
กล่าวจบ หยางเฟยหลงก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เรือนของพระชายาเอก
