บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9

หลายวันต่อมา...

พวกเรา 5 คน ฝึกร่ายรำระบำผีเสื้อที่ฟ่งเหนียงสอน นางยืนมองพวกเราร่ายรำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"หยุด ๆๆๆๆ พวกเจ้าร่ายรำมิพร้อมเพรียงกันเลย เดือนหน้าต้องแสดงแล้ว หากเป็นเช่นนี้...พวกเราต้องพ่ายแพ้พวกเชี่ยอู่อีกเป็นแน่ คราก่อนก็พ่ายแพ้มาคราหนึ่งแล้ว พวกเจ้ามิคิดอับอายกันบ้างหรือ"

เสียงฟ่งเหนียงเกรี้ยวกราดอย่างอารมณ์เสีย

"ฟ่งเหนียง...ท่านอย่าได้ขุ่นเคือง พวกเราจะตั้งใจ เราจะมิยอมแพ้พวกนั้นอีก"

อันอันพูดกับฟ่งเหนียงด้วยท่าทีนอบน้อม พอพูดถึงพวกนั้น...ใจฉันก็คิดอยากเอาชนะ

"ฟ่งเหนียง...ข้ามีความเห็น"

"เจ้ากล่าวมา"

"ข้าจะเอาศิลปะการร่ายรำของเมืองข้า มาผสานกับระบำผีเสื้อของท่าน ท่านจะว่ายังไง"

ฟ่งเหนียงมองหน้าฉันแล้วทำท่าคิด

"เจ้าจะทำได้รึ"

"ลองดู...ข้าว่าหากเราอยากชนะ เราต้องเสนออะไรที่แปลกใหม่ เอาให้พวกเชี่ยอู่ตามไม่ทัน"

ฟ่งเหนียงมีสีหน้าคลายลง นางพยักหน้าช้า ๆ

"ดี...เจ้าลองร่ายรำมาให้ข้าดูก่อน"

"ได้ค่ะ...คืนนี้ข้าขอคิดท่าก่อน"

ฟ่งเหนียงยิ้มพยักหน้า หันหลังเดินจากไป พวกเพื่อน ๆ มารุมล้อมถามฉันกันใหญ่

"มี่มี่...เจ้าจะทำอย่างไร"

เจ๋อเจ๋อมีสีหน้ากังวล

"ไม่ต้องห่วง...ข้าขอเวลาคิดดูก่อนนะ"

"เจ้าต้องฝึกให้ดี...เอาชนะชิวผิงแทนพวกเราด้วย"

อันอันจับมือบอกกับฉัน

"ข้าไม่ไปคนเดียวหรอก พวกเจ้าคือเพื่อนข้า เราจะไปด้วยกันทุกคน...ไปเอาชนะชิวผิงด้วยกัน"

"เจ้าพูดจริงหรือ เจ้าจะให้พวกเราเข้าวังกับเจ้าจริงหรือ"

เสี่ยวฉินถาม...นางยิ้มดีใจ

"จริงสิ...พวกเรามีสุขช่วยกันเสพ มีทุกข์ต้องร่วมกันต้าน...เห็นด้วยไหม"

ทุกคนหัวเราะให้กัน ฉันอยากเอาชนะยายเม็ดกวยจี๊นั่น งานนี้คงถอยไม่ได้แล่วล่ะ

ฉันบอกแล้ว...จะอยู่ที่นี่ต้องใช้ปัญญา ฉันเอาท่าเต้นที่เคยเรียนมา เค้นสมองคิดท่าเต้นออกมาชุดหนึ่ง แล้วเอามาสอนพวกเพื่อน ๆ ฉันเลือกเพลงทำนองเร็วได้เพลงหนึ่ง เอามาเป็นเพลงใช้ประกอบการเต้น

ทุกคนฝึกกันอย่างสนุกสนาน...ไม่มีใครเคร่งเครียด เพราะฉันให้ทุกคนจำแค่ท่ากับตำแหน่งที่ยืน กับจำทำนองเพลง ไม่ต้องดูคนข้าง ๆ เหมือนที่ผ่านมา ทุกคนจึงไม่กดดัน ต่างคนต่างเต้น แต่กลับเข้าขากันเป็นอย่างดี ฟ่งเหนียงถึงกับตบมือให้...เมื่อพวกเราเต้นจบ เรากระโดดโลดเต้นเข้าไปหานาง

"ฟ่งเหนียง...เป็นยังไงบ้างคะ ท่านชอบไหม"

ฉันถามเธอ

"ดีมาก...แต่ละคนมีจุดเด่นของตัวเอง เต้นได้งดงามมาก"

ทุกคนจับมือกันอย่างดีใจ

"ครานี้...คงเป็นทีของเราที่จะได้ชัยบ้าง"

มู่ตานพูดอย่างมั่นใจ

"ข้าคงต้องตัดเสื้อผ้าให้พวกเจ้าใหม่"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ...ใช้เท่าที่มีก็ได้"

ฉันบอกฟ่งเหนียง นึกสงสารที่นางต้องจ่ายค่าใช้จ่ายอยู่คนเดียว

"พวกเราร่ายรำระบำผีเสื้อ ต้องใส่ชุดที่มีสีสันหลากหลาย จะได้สมกับที่เป็นผีเสื้อเริงระบำ"

เจ๋อเจ๋อออกความเห็นบ้าง

"เช่นนั้น...พวกเรามาช่วยกันเย็บเสื้อผ้ากันไหมเถิด เอาชุดที่มีอยู่มาเย็บใหม่กัน"

อันอันเอ่ยชวน พวกเราเห็นด้วย พากันไปหาชุดที่จะมาดัดแปลงใช้กับงานนี้ ฉันไม่มีฝีมือทางตัดเย็บเลย ได้แต่ช่วยพวกนางตัดผ้า เลาะตะเข็บ...ทำเทาที่จะทำได้

วันเฉลิมพระชนมพรรษาของนางพญาบูเช็คเทียน จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทั่วทั้งลั่วหยางประดับโคมไฟสวยงามสว่างไสว พวกเราเตรียมตัวกันมาหลายวันแล้ว แต่พอใกล้ถึงวันจริง ๆ ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้

มีแต่ฟ่งเหนียงที่เคยเข้าวัง นอกนั้นยังไม่เคยแม้แต่จะเฉียด พวกเราช่วยกันยกของที่ต้องใช้ในการแสดงขึ้นรถ แล้วนั่งรถม้าเข้าวังด้วยกัน

"โอ๊ย...ข้าตื่นเต้นนัก พวกเจ้าเป็นอย่างข้ารึไม่"

เจ๋อเจ๋อยกมือสองข้างกำที่ข้างแก้ม

"ใช่แต่เจ้าผู้เดียวเมื่อไรเล่า ข้าก็ตื่นเต้นเช่นกัน"

เสี่ยวฉินพูดไปยิ้มไป ส่วนฉันก็ตื่นเต้นจนขนลุกไปหมดแล้ว ใครจะคิดใครจะฝันว่าจะได้เข้าวังต้องห้าม จะได้เข้าเฝ้าพระจักรพรรดินีผู้เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์

"วังหลวงกฎเกณฑ์เคร่งครัดนัก พวกเจ้าต้องระวังกิริยาวาจาให้ดี แล้วก็อย่าเดินเพ่นพ่านนะ...เข้าใจหรือไม่"

ฟ่งเหนียงสั่งกำชับพวกเรา ฉันนึกเสียดาย...น่าจะมีใครพาทัวร์วังหลวงบ้างนะ ไหน ๆ ก็มาแล้วนี่

รถม้าแล่นเข้าสู่ประตูใหญ่ มีทหารมาตรวจตรารถทุกคันที่จะเข้าสู่วังหลวง วันนี้มีรถมาเข้าคิวรอเกือบ 20 คัน ล้วนแต่เป็นนักแสดงที่จะมาเล่นหน้าพระที่นั่งทั้งนั้น

รถม้าของเราแล่นเข้าไปถึงที่พักที่เขาจัดไว้ให้ พวกเราช่วยกันยกของลงจากรถ ฟ่งเหนียงเดินไปคุยกับคนที่มาดูแล แล้วเดินมาบอกพวกเรา

"พวกเจ้าต้องแสดงเป็นชุดสุดท้าย หลังการแสดงของพวกเชี่ยอู่ พวกเจ้าก็พักผ่อนกันก่อน จำไว้นะ...อย่าเดินเพ่นพ่านเป็นอันขาด"

พวกเราตอบรับคำ ฟ่งเหนียงเดินออกไปจากที่พัก ตอนนี้ฉันเกิดปัญหาใหญ่...คือเกิดปวดฉี่ขึ้นมา สงสัยคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อย

"เจ๋อเจ๋อ...ข้าปวดเบา ทำไงดี"

ฉันกระซิบถามเจ๋อเจ๋อที่ยืนใกล้ที่สุด

"จริงหรือ...ข้าจะถามผู้ดูแลให้นะ"

ฉันเดินตามเจ๋อเจ๋อไปถามคนดูแล เขาชี้มือบอกให้เดินไปตามทาง จะอยู่ด้านหลังสวน ฉันก็เดินไปตามทางที่เขาบอก น่าจะมีป้ายบอกทางสักนิดก็ดีนะ...สวนก็ใหญ๊ใหญ่ ฉันเดินหาสักพักก็เจอ...

ห้องน้ำสมัยโบราณเป็นแบบง่าย ๆ มีที่กั้นเหมือนคอก พอทำธุระเสร็จ ฉันก็เดินกลับออกมา เอาล่ะสิ...เมื่อกี้นี้มัวแต่มองหาห้องน้ำ เลยไม่ทันสังเกตว่าเดินมาจากตรงไหน ผ่านตรงไหนมาบ้าง จำได้แค่ว่าเดินเลี้ยวซ้ายเข้ามา ขากลับก็ต้องเลี้ยวขวาออกไปสินะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel