บท
ตั้งค่า

1

“เป็นอะไรแก...ร้องไห้ทำไม” หญิงสาวในชุดเดรสผ้าซาติน ในโทนสีชมพูขาว รีบสะกิดเพื่อนสาว...ผู้ยืนมองไปยังเวทีแล้วก็ทำทีท่าเสียอกเสียใจ

“ก็มันทำใจไม่ได้นี่หว่า...มันกะทันหันเกินไป” ทีท่ากระซิกอย่างแสนจะโอเวอร์นั้น ทำให้เธอต้องส่ายหัว พร้อมด่าเชิงไม่จริงจังไปสองสามประโยค

การแต่งงานสายฟ้าแลบ ของชายหนุ่มผู้เป็นที่หมายปองของหญิงสาวเกือบทั้งประเทศ ถือว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับสาวใหญ่ สาวเต็มวัยและสาวน้อยทั้งหลายกันถ้วนหน้า

“ยิ้มหน่อย เดี๋ยวใครจะหาว่าแม่นี่...ใจร้าย ทำกับลูกชายตัวเองได้ลงคอ” น้ำเสียงเชิงกระซิบของมารดาพร้อมกิริยาลอบกระทุ้งศอกเข้าใส่ ทำให้คนที่ยืนนิ่งเป็นเหมือนหุ่นรูปปั้น กะพริบตาเล็กน้อย

กวาดสายตาไปยังทั่วบริเวณงาน ที่เป็นเหมือนสิ่งเนรมิตจากฝีมือของมารดา ผู้สามารถทำได้ทุกอย่าง...แม้กระทั่งล่อลวงเขา

หึ ใช้คำว่า ‘ล่อลวง’ น่ะถูกแล้ว

สายตาของแขกเหรื่อที่ดูประหลาดใจ สงสัย เต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมา ความรู้สึกคงไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่

ดารุณี วิมลธนกิจ เศรษฐีนีผู้ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของจักรวาล ดลบันดาลทุกอย่างแม้กระทั่งความรู้สึกของผู้คน ให้เป็นไปตามที่ตนปรารถนา หากใครคิดที่จะไม่เคารพกติกาที่เธอได้ตั้งเอาไว้

เธอก็สามารถที่จะตัดคนเหล่านั้นออกไปได้ อย่างไม่ลังเลเลยสักน้อย

เช่น...การตัดสามีออกไปจากชีวิต ตั้งแต่บุตรชายยังไม่ลืมตาออกมาดูโลก

‘แค่ทำให้เกิดมาเฉยๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเหมือนเขาไปเสียทุกอย่างก็ได้’

ดนุ วิมลธนกิจ ใช้นามสกุลของมารดาตั้งแต่เกิด แต่ก็ได้รับโอกาสในการเจอกับบิดาอย่าง ดำรง เกียรติยศสรรค์ สร้าง บ่อยครั้ง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรชาย นั้นกลับเหนียวแน่นมากกว่ามารดา

“หนูปรือยิ้มสวยมากเลยจ้ะลูก เยี่ยมมาก...ดูมีความสุข น่าชื่นใจจริงๆ เลยลูก” แล้วก็หันไปชื่นชมบุตรสะใภ้ผู้ว่านอนสอนง่ายและเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

“จริงเหรอคะคุณแม่ กรามแข็งไปหมดแล้วนะคะเนี่ย” เธอว่าพร้อมบีบกรามตัวเองไปมาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู จนคนเป็นเจ้าบ่าวต้องลอบถอนใจ

มีมารดาในชีวิตคนเดียว เขาก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ยังจะมามีผู้หญิงแบบท่าน เพิ่มเข้ามาในชีวิตอีก...

“เดี๋ยวพอขึ้นเวทีเสร็จค่อยไปหาที่นั่งพักกันนะ เดินรับแขกกันจนทั่วแล้ว ไม่น่าจะต้องได้ทำอะไรอีกละ” คนที่รักกันจนปานจะกลืนกินพูดไป จับมือกันไปอย่างห่วงใย จนดนุต้องส่ายหน้า

“ขออะไรอุ่นๆ ดื่มด้วยนะคะคุณแม่...ท้องเริ่มโครกครากแล้วค่ะ” นวลเนื้อ พิสมัยหรือปรือ หญิงสาวผู้ตรงไปตรงมา คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น...ทำเอาดารุณีเป็นห่วงเป็นใยใหญ่ รีบโบกมือเรียกพนักงานบริการให้ในทันที

ชายหนุ่มมองเรือนร่างเพรียวสมส่วน ที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเมื่ออยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เปลือยไหล่กลมกลึงแต่พองาม

ริ้วของชุดสีขาวปักลวดลาย ระย้าเป็นทรง ส่งให้เรือนร่างปราดเปรียว ดูสูงสง่า

ทรวงอกได้รูปนูนดันออกมาจากชุดเจ้าสาว ดูล้นมากกว่าในคราปกติ ซึ่งเขาก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะชุดช่วยส่งเสริม เพราะจากรูปร่างเดิม สัดส่วนของเธอค่อนข้างจะตรงทื่อ ดูเหมือนจะไม่มีเนื้อมีนวลอย่างสมชื่อ

นวลเนื้อเป็นผู้หญิงที่จัดว่าพอดูได้ ไม่ได้สวยหยดย้อย แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ดวงหน้ารูปไข่ของเธอมีเรียวคางที่กลมมน รับกับริมฝีปากจิ้มลิ้ม ที่มีสีชมพูระเรื่อเป็นธรรมชาติ ทำให้หญิงสาววัย 31 ปี ดูอ่อนกว่าวัย

เขาดูออก...ว่าเธอน่าจะไม่ชอบแต่งแต้มลิปสติกลงไปบนริมฝีปาก นอกจากลิปบาร์มบำรุงไร้สีที่แต่งแต้มเพื่อความชุ่มชื้นเท่านั้น

“มองอะไรคุณ มีอะไรติดปากฉันเหรอ?” เธอหันมาถามเขาด้วยการเอามือไปแตะๆ ที่ริมฝีปากตัวเอง จนคนมือไวต้องคว้ามือเธอเอาไว้

“เดี๋ยวเลอะ” เขาว่าเชิงดุ ที่เธออายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แต่บางอย่างก็ยังทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ความ..ไปเกือบซะทุกอย่าง

“อ๋าว ก็มามองเอง...” เธอว่าพร้อมมองมือเขาที่จับมือตัวเองเอาไว้แน่น อย่างลืมที่จะปล่อย

“ไม่ได้อยากจะจับสักเท่าไหร่” แล้วเขาก็รีบปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ ทำเป็นหันมองไปยังแขกเหรื่อด้วยแววตาเคร่งขรึมดังเดิม

หญิงสาวส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย เชิงไม่ได้ถือสา ส่งยิ้มให้แขกเหรื่อราวกับว่างานนี้คืองานสำคัญของตัวเองจริงๆ

แต่ก็สำคัญจริงๆ นี่...

เสียงในหัวใจของเธอร่ำร้องออกมาแบบนั้น เพราะถ้ามันไม่สำคัญ ก็คงไม่ยอมแต่งหรอก

“แพนยินดีกับพี่นุด้วยนะคะ ยินดีด้วยจริงๆ” หญิงสาวผู้สวมชุดสีมุกเข้ากันไปทั้งชุด ไม่ว่าจะเป็นเดรสตัวยาวเลยเข่าแสนสุภาพ ที่เนื้อผ้าทิ้งไปบนร่างเพรียวสมส่วนอย่างพอดี ไร้ส่วนเกินให้ได้เห็น

กับกระเป๋าถือใบเล็กสีเข้ากัน รับกับรองเท้าส้นสูงนิ้วครึ่ง ที่ส่งให้สาวเจ้ายิ่งดูสง่าในคราเคลื่อนไหว

“ขอบใจมากนะแพน” เขาตอบรับด้วยทีท่าสงบ มองใบหน้าหมองหม่นที่พยายามฝืนยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกอธิบายยาก

“ขอบคุณนะคะ...” เจ้าสาวผู้ถูกทำให้ เหมือนไม่มีตัวตนอยู่นานสองนาน ตั้งแต่หญิงผู้นี้ได้มาถึง เอ่ยส่งเสียงขึ้นบ้าง...พร้อมฉีกยิ้มกว้างจนจะถึงรูหู

“แพนขอตัวไปทางนั้นก่อนนะนุ” และนอกจากแขกคนสวยจะไม่ยอมตอบรับหรือมองหน้าเจ้าสาวของงานแต่อย่างใดแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นอากาศ จนรอยยิ้มกว้างแห้งค้างอยู่บนอากาศ จำต้องหุบให้มันแคบลงเล็กน้อย

ดนุตอบรับด้วยการพยักหน้า แววตาทอความไม่ค่อยสบายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้แสดงกิริยาออกเกินไปกว่านั้น

เจ้าสาวผู้รู้เห็นกิริยาของเจ้าบ่าวก็พอจะเดาได้และเข้าใจ ทำเป็นพูดขึ้นบ้างว่า...

“คนนี้น่ะหรือ ที่ชาวเน็ตจิ้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง...” หางตาคมตวัดมามองยังคนพูดเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบฉวยเอาเครื่องดื่มที่นำมาเสิร์ฟให้

“ไม่ใช่แค่จิ้นหรอก” ประโยคนี้มีเสียงหึเบาๆ เคล้ากลั้วอยู่ในลำคอ จนคนที่ไม่คิดจะยี่หระกับทุกเรื่องของว่าที่สามี ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้า
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel